The dangers of feeding lorikeetsLor

The dangers of feeding lorikeets
Lorikeet feeding habits

Lorikeets are brightly coloured parrots of the family Psittacidae and sub-family Loriinae (lories and lorikeets). Six species are found in Australia, although further species occur in New Guinea, Indonesia and many South Pacific islands.
The tip of a lorikeet's tongue holds a brush-like appendage, enabling the bird to feed on pollen, nectar and fruits. Because lorikeets are mainly seen feeding on blossoms, it was long thought that nectar was their staple diet. However, studies have now shown that pollen is probably their major food. They also eat insects and insect larvae, together with other invertebrates found in foliage and blossom.
Lorikeets travel in small, swift flocks which attract attention with their piercing calls. The birds locate blossoms by sight and by the calls of other birds already feeding. When food is abundant, large numbers gather in the blossoms and foliage, clamouring noisily.
Lorikeets have a very simple digestive system. Proteins and fats are obtained from pollen and insects, and carbohydrates come from the sugars found in nectar. They spend a large amount of time foraging for food, which indicates that carbohydrates are extremely important to them. Their diet is high in energy, and low in protein.
The dangers of feeding lorikeets

Many people have taken to encouraging lorikeets into their gardens by giving them a variety of alluring foods. These foods are usually based on sugar, honey or jam, which will ensure regular visits to the garden by these wonderfully happy, colourful birds. However, it is this very act of 'kindness' that can cause the death of lorikeets at an unnaturally early age.
OEH officers became concerned at outbreaks of lorikeets dying in large numbers for no apparent reason, and decided to investigate. Autopsies were carried out by NSW Agriculture. With other investigations, these autopsies established that the lorikeets were dying from a disease called necrotizing enteritis. A bacteria called clostridia was isolated as the organism responsible.
Necrotizing enteritis is associated with poor hygiene and an inadequate diet, and it was found that the disease is not normally associated with lorikeets living a natural way of life. The scientists could directly relate the lorikeets' deaths to inadequate artificial diets, and to the unsanitary conditions of trays and other containers from which they were being fed.
Another disease is also having a serious impact on lorikeets. Called psittacine beak and feather disease (PBFD) or psittacine circovirus disease, it is considered the most important viral disease affecting cockatoos, parrots, lories, lorikeets and macaws around the world. Affecting the immune system of the birds, it often results in an AIDS-like condition. The keratin in the birds' bodies breaks down, causing deformed beaks and feathers, and feather loss. The disease is usually fatal, but infected birds may not display symptoms for many months or even years.
Infected birds can drop faeces, which contain the potentially infectious circovirus particles, into the environment to infect other birds. Unfortunately, there is a great potential for the virus to spread at places like feed stations. Clustering in large numbers, many birds may come into contact with contaminated perches and food dishes.
Preventing lorikeet deaths

Obviously the best solution to these problems is to stop feeding the birds altogether. The only feeding method recommended by OEH is to plant a variety of flowering native shrubs, such as grevilleas, callistemon (bottlebrushes) and banksias, around your garden. These plants not only look good; they also provide safe, healthy food for blossom-feeding birds such as lorikeets and honeyeaters.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อันตรายของอาหาร lorikeetsอาหารนิสัย lorikeetLorikeets เป็นแพร์รอทส์สีสันของ family Psittacidae และครอบครัวย่อย Loriinae (lories และ lorikeets) หกชนิดจะพบในออสเตรเลีย แม้ว่าพันธุ์เกิดขึ้นในนิวกินี อินโดนีเซียและหมู่เกาะแปซิฟิกใต้มากเพิ่มเติมปลายลิ้นของ lorikeet ถือเป็นแปรงเหมือนเพียงอวัยวะประกอบ ทำนกเลี้ยงละอองเกสร น้ำหวาน และผลไม้ เนื่องจาก lorikeets เป็นส่วนใหญ่เห็นอาหารบนบลอสซั่ม มันถูกจึงคิดว่า น้ำหวานเป็นอาหารหลักของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ศึกษาตอนนี้แสดงให้เห็นว่า ละอองเกสรอาจเป็นอาหารหลักของพวกเขา พวกเขายังกินแมลงและตัวอ่อนแมลง พร้อม invertebrates อื่น ๆ ที่พบในใบและดอกLorikeets เดินทางในจำนวนเกือบอย่างรวดเร็ว เล็กเท่าเดิมที่ดึงดูดความสนใจ มีการเรียกการเจาะ นกหาบลอสซั่ม โดยสายตา และเรียกของนกอื่นแล้วให้อาหาร เมื่ออาหารมากมาย จำนวนมากรวบรวมบลอสซั่มและใบ clamouring ฟ้าลั่นครืนLorikeets มีระบบการย่อยอาหารง่ายมาก โปรตีนและไขมันได้จากละอองเกสรและแมลง และคาร์โบไฮเดรตมาจากน้ำตาลที่พบในน้ำหวาน พวกเขาใช้จ่ายจำนวนมากของเวลาจับเหยื่อของอาหาร ซึ่งบ่งชี้ว่า คาร์โบไฮเดรตมีความสำคัญมากไป อาหารของพวกเขามีพลังงานสูง และโปรตีนต่ำอันตรายของอาหาร lorikeetsหลายคนนำมาส่งเสริม lorikeets ในสวนของพวกเขา โดยการให้ความหลากหลายของอาหารเสน่ห์ อาหารเหล่านี้มักจะขึ้นอยู่กับน้ำตาล น้ำผึ้ง หรือ แยม ซึ่งจะชมสวนปกติ โดยนกสุขเยี่ยมยอด สีสันเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เป็นพระราชบัญญัตินี้มากของ 'เมตตา' ที่สามารถทำให้เกิดการตายของ lorikeets เป็น unnaturally ตั้งแต่เด็กนาย OEH กลายเป็นความกังวลที่ระบาดของ lorikeets ตายในจำนวนมากด้วยเหตุผลไม่ชัดเจน และตัดสินใจที่จะตรวจสอบ Autopsies ถูกดำเนิน โดยเกษตรนิวเซาธ์เวลส์ มีการตรวจสอบอื่น ๆ autopsies เหล่านี้ก่อตั้งขึ้นที่ lorikeets ที่ได้ตายจากโรคที่เรียกว่า necrotizing enteritis แบคทีเรียที่เรียกว่า clostridia ถูกแยกเป็นสิ่งมีชีวิตรับผิดชอบNecrotizing enteritis คือเกี่ยวข้องกับสุขอนามัยที่ดีและมีอาหารไม่เพียงพอ และพบว่า โรคไม่ได้โดยปกติเกี่ยวข้องกับ lorikeets ที่อยู่อาศัยวิถีชีวิตธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ที่โดยตรงไม่เกี่ยวข้องตาย lorikeets' ประดิษฐ์อาหารไม่เพียงพอ และเงื่อนไข unsanitary ถาดและภาชนะอื่น ๆ ที่พวกเขาได้ถูกติดตามโรคอื่นจะมีผลกระทบร้ายแรงบน lorikeets เรียกว่า psittacine จะงอยปาก และขนโรค (PBFD) หรือโรค psittacine circovirus ถือว่าโรคไวรัสสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ cockatoos แพร์รอทส์ lories, lorikeets และ macaws ทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของนก มันมักจะส่งผลในสภาพเหมือนโรคเอดส์ Keratin ในนกร่างกายแบ่งลง เกิด beaks พิการ และขนนก และขนร่วง โรคไม่ร้ายแรงมักจะ แต่นกที่ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการได้หลายเดือน หรือแม้แต่ปีที่นกที่ติดเชื้อสามารถปล่อย faeces ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคอาจติดเชื้อ circovirus ในสภาพแวดล้อมการติดเชื้ออื่น ๆ นก อับ มีศักยภาพดีสำหรับไวรัสแพร่กระจายในสถานเช่นสถานีอาหารสัตว์ คลัสเตอร์ในจำนวนมาก หลายนกอาจมาเยื่อบุกระเพาะอาหารอาหารและ perches ปนเปื้อนป้องกัน lorikeet ตายเห็นได้ชัดเพื่อให้ปัญหาเหล่านี้คือการ หยุดให้อาหารนกทั้งหมด วิธีให้อาหารเฉพาะที่แนะนำ โดย OEH ปลูกความหลากหลายของดอกไม้เป็นพุ่ม grevilleas, callistemon (bottlebrushes) และ banksias รอบ ๆ สวนของคุณได้ พืชเหล่านี้ไม่เพียงแต่ดูดี ทำให้อาหารปลอดภัย อาหารเสริมเพื่อสุขภาพอาหารดอกนก lorikeets และ honeyeaters

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อันตรายของการให้อาหาร lorikeets
คีทนิสัยการกินอาหารที่มีการ Lorikeets นกแก้วที่มีสีสันสดใสของครอบครัว Psittacidae และ Loriinae ย่อยครอบครัว (โนรีและ lorikeets) หกสายพันธุ์ที่พบในออสเตรเลียแม้ว่าสายพันธุ์ต่อไปเกิดขึ้นในนิวกินีอินโดนีเซียและหมู่เกาะแปซิฟิกใต้จำนวนมาก. ปลายลิ้นของคีทถือรยางค์เหมือนแปรงช่วยให้นกกินเกสรน้ำหวานและผลไม้ เพราะ lorikeets จะเห็นส่วนใหญ่กินดอกก็คิดมานานแล้วว่าน้ำหวานเป็นอาหารหลักของพวกเขา อย่างไรก็ตามการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าตอนนี้น่าจะเป็นเกสรอาหารที่สำคัญของพวกเขา พวกเขายังกินแมลงและตัวอ่อนแมลงร่วมกับสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ ที่พบในใบและดอก. เดินทาง Lorikeets เล็กฝูงรวดเร็วซึ่งดึงดูดความสนใจกับสายเจาะของพวกเขา นกหาดอกด้วยสายตาและการโทรของนกชนิดอื่น ๆ แล้วการให้อาหาร เมื่ออาหารอุดมสมบูรณ์จำนวนมากมารวมกันในดอกและใบที่เพียงพอดัง. Lorikeets มีระบบย่อยอาหารที่ง่ายมาก โปรตีนและไขมันจะได้รับจากละอองเกสรดอกไม้และแมลงและคาร์โบไฮเดรตมาจากน้ำตาลที่พบในน้ำหวาน พวกเขาใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเวลาหาอาหารซึ่งบ่งชี้ว่าคาร์โบไฮเดรตที่มีความสำคัญมากกับพวกเขา อาหารของพวกเขาอยู่ในระดับสูงในการใช้พลังงานและโปรตีนต่ำ. อันตรายของการให้อาหาร lorikeets หลายคนได้นำไปส่งเสริมให้ lorikeets เข้าไปในสวนของพวกเขาด้วยการให้ความหลากหลายของอาหารเสน่ห์ อาหารเหล่านี้มักจะขึ้นอยู่กับน้ำตาลน้ำผึ้งหรือแยมซึ่งจะให้เข้าชมตามปกติไปที่สวนเหล่านี้มีความสุขที่เยี่ยมยอดนกที่มีสีสัน แต่ก็เป็นกระทำมากของความเมตตา 'ที่สามารถทำให้เกิดการตายของ lorikeets ที่อายุต้นผิดธรรมชาติ. เจ้าหน้าที่ OEH กลายเป็นความกังวลที่การระบาดของโรค lorikeets ตายในจำนวนมากด้วยเหตุผลไม่ชัดเจนและตัดสินใจที่จะสอบสวน การชันสูตรศพได้ดำเนินการโดยเอ็นเอสเกษตรกรรม ด้วยการตรวจสอบอื่น ๆ ชันสูตรศพเหล่านี้เป็นที่ยอมรับว่า lorikeets กำลังจะตายจากโรคที่เรียกว่า necrotizing ลำไส้ แบคทีเรียที่เรียกว่า clostridia ที่แยกได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่รับผิดชอบ. ลำไส้ลำไส้อักเสบชนิดเนื้อตายที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยที่ดีและอาหารที่ไม่เพียงพอและยังพบว่าเป็นโรคที่ไม่ปกติที่เกี่ยวข้องกับ lorikeets ที่อาศัยอยู่ทางธรรมชาติของชีวิต นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างความสัมพันธ์โดยตรงเสียชีวิต lorikeets 'เพื่ออาหารเทียมไม่เพียงพอและสภาพสกปรกถาดและภาชนะอื่น ๆ จากการที่พวกเขาถูกเลี้ยง. โรคอีกนอกจากนี้ยังมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ lorikeets เรียกว่าจะงอยปากและโรค psittacine ขนนก (PBFD) หรือโรค psittacine circovirus ก็ถือว่าเป็นโรคไวรัสที่สำคัญที่สุดที่มีผลกระทบต่อคักคาทู, นกแก้วโนรี, lorikeets มาคอว์และทั่วโลก ที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของนกก็มักจะส่งผลในสภาพเหมือนโรคเอดส์ เคราตินในร่างกายของนกแบ่งลงก่อให้เกิดความผิดปกติจะงอยปากและขนนกขนนกและการสูญเสีย โรคมักจะเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่นกที่ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการเป็นเวลาหลายเดือนหรือปี. นกที่ติดเชื้อสามารถวางอุจจาระซึ่งมีการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นอนุภาค circovirus ลงไปในสภาพแวดล้อมที่จะติดเชื้อนกชนิดอื่น ๆ แต่น่าเสียดายที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับไวรัสจะแพร่กระจายไปที่สถานที่เช่นสถานีอาหารสัตว์ การจัดกลุ่มในจำนวนมากนกหลายคนอาจเข้ามาติดต่อกับคอนและอาหารที่ปนเปื้อนอาหาร. การป้องกันการเสียชีวิตคีทเห็นได้ชัดว่าทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือการหยุดการให้อาหารนกโดยสิ้นเชิง วิธีการให้อาหารเพียงแนะนำโดย OEH คือการปลูกความหลากหลายของดอกพุ่มไม้พื้นเมืองเช่นเกรวิเลีย Callistemon (bottlebrushes) และ banksias รอบสวนของคุณ พืชเหล่านี้ไม่เพียง แต่ดูดี พวกเขายังให้ความปลอดภัยอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับนกดอกให้อาหารเช่น lorikeets และ honeyeaters

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อันตรายของอาหาร lorikeets
แก้วอุปนิสัย

lorikeets เป็นนกแก้ว Psittacidae สีสดใสของครอบครัวและครอบครัวย่อย loriinae ( นกโนรี และ lorikeets ) หกชนิดที่พบในออสเตรเลีย แม้ว่าสายพันธุ์ต่อไปเกิดขึ้นใน นิว กินี อินโดนีเซีย และหมู่เกาะแปซิฟิกใต้มากมาย
ปลายลิ้นของแก้วถือแปรง เช่น โพแทสเซียม ช่วยให้นกกินเกสรดอกไม้น้ำผลไม้และผลไม้ เพราะ lorikeets ส่วนใหญ่เห็นกินดอก มันนานคิดว่าน้ำหวานเป็นอาหารหลักของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาแสดงว่าเกสรเป็นอาหารหลักของพวกเขา พวกเขายังกินแมลงและตัวอ่อนของแมลง พร้อมด้วยอื่นๆ ซึ่งพบในใบและดอก .
lorikeets เดินทางขนาดเล็ก รวดเร็ว ซึ่งดึงดูดความสนใจของฝูงเจาะสายนก หาดอกไม้ด้วยสายตาและด้วยเสียงร้องของนกชนิดอื่น ๆได้ด้วย เมื่ออาหารถูกมากมาย ตัวเลขขนาดใหญ่ที่รวบรวมในดอกและใบ , เรียกร้องอึงมี่ .
lorikeets มีระบบย่อยอาหารที่ง่ายมาก โปรตีน และไขมัน ได้จากเกสรดอกไม้ และแมลง และคาร์โบไฮเดรตจากน้ำตาลที่พบในน้ำผลไม้ . พวกเขาใช้จ่ายจำนวนมากของเวลาในการหาอาหารสำหรับอาหารซึ่งบ่งชี้ว่า คาร์โบไฮเดรตที่สำคัญมากสำหรับพวกเขา อาหารให้พลังงานสูงและต่ำในโปรตีน อันตรายจากอาหาร lorikeets

หลายคนไปให้กำลังใจ lorikeets ไปยังสวนของพวกเขาโดยให้พวกเขามีความหลากหลายของอาหารที่น่าดึงดูดใจ อาหารเหล่านี้มักจะขึ้นอยู่กับ น้ำตาล น้ำผึ้ง หรือแยม ซึ่งจะรับประกันการเข้าชมปกติไปสวนด้วย อย่างมีความสุขนกที่มีสีสัน อย่างไรก็ตาม , มันเป็นพระราชบัญญัตินี้มากของ ' ความดี ' ที่สามารถทำให้เกิดความตายของ lorikeets ที่อายุต้นผิดธรรมดา
โอ้วววเจ้าหน้าที่กลายเป็นความกังวลที่การแพร่ระบาดของ lorikeets ตายในตัวเลขขนาดใหญ่โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน และตัดสินใจที่จะตรวจสอบ การชันสูตรศพ ดําเนินการโดยกระทรวงเกษตรฯ . กับการตรวจสอบอื่น ๆศพเหล่านี้จัดตั้งขึ้นที่ lorikeets กำลังจะตายจากโรคที่เรียกว่าเน่าท้องเสีย . แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Clostridia แยกรับผิดชอบ .
เน่าท้องเสียที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยที่ดี และอาหารที่ไม่เพียงพอ และพบว่าโรคนี้ไม่ได้เป็นปกติที่เกี่ยวข้องกับ lorikeets อาศัยอยู่เป็นวิธีที่ธรรมชาติของชีวิตนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องได้โดยตรงใน lorikeets ' อาหารเทียมไม่เพียงพอและเงื่อนไขสกปรกของถาดและภาชนะอื่น ๆที่พวกเขาได้รับ .
อีกโรคคือยังมีผลกระทบร้ายแรงต่อ lorikeets . เรียก psittacine จะงอยปากและขนนกโรค ( ต่อ ) หรือ psittacine เซอร์โคไวรัสโรคมันคือการพิจารณาที่สำคัญที่สุดที่มีผลต่อโรคไวรัสหนอน , นก , นกโนรี lorikeets มา คอว์ , และทั่วโลก มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของนก มันมักจะส่งผลให้เอดส์ เช่น เงื่อนไข เคราตินในร่างกายนกแบ่งลง ทำให้พิการ จงอยปากและขนนกและการสูญเสียขนนก โรคมักจะร้ายแรง