Science-based ManagementLikert sugg

Science-based Management
Likert suggests on the need to monitor the state of the organization and its internal management system at periodic intervals or stages of growth. He proposes a scheme of evaluation for the causal, intervening and end-result variable, affecting organizational climate and performance. He claims that social sciences, using the methods of mathematics and statistics, can develop methodologies for measurement of the state of human resource and predict the cause and effect of intervening variables. But socio-metric measurements of casual, intervening and end-result variables may not always establish reliable relationships to provide firm basis for management action. Explicating the relationships between casual, intervening and end-result variables, Likert postulates two hypotheses relating to the Management Systems 1,2 and 4. The first hypothesis is that if a manager has well organized plan of operation, high performance goals, high technical competence and if the manager managers by system 1 or 2, using direct hierarchical pressures, his organization will display less group loyalty, lower performance, greater conflict, less cooperation, less technical assistance to peers, greater feelings of unreasonable pressure, less favourable attitudes towards manager and lower motivation to produce. Such organizations will attain lower sales volume, higher sales costs, and lower quality of business sold and lower earnings. The second hypothesis is that if the manager managers by System-4 using the principles of supportive relationships, group methods of supervision and other principles the organization will display greater group loyalty, higher performance, greater cooperation, more technical assistance to peers, less feeling of unreasonable pressure, more favourable attitudes towards manager, and higher motivation to produce. Such organizations will attain higher business sales volume, lower sales costs, higher quality of business sold, and higher earnings. Likert tested these hypotheses through research and confirmed the effects of changes in causal variables on intervening variable and end-result variables.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

-วิทยาการจัดการLikert suggests on the need to monitor the state of the organization and its internal management system at periodic intervals or stages of growth. He proposes a scheme of evaluation for the causal, intervening and end-result variable, affecting organizational climate and performance. He claims that social sciences, using the methods of mathematics and statistics, can develop methodologies for measurement of the state of human resource and predict the cause and effect of intervening variables. But socio-metric measurements of casual, intervening and end-result variables may not always establish reliable relationships to provide firm basis for management action. Explicating the relationships between casual, intervening and end-result variables, Likert postulates two hypotheses relating to the Management Systems 1,2 and 4. The first hypothesis is that if a manager has well organized plan of operation, high performance goals, high technical competence and if the manager managers by system 1 or 2, using direct hierarchical pressures, his organization will display less group loyalty, lower performance, greater conflict, less cooperation, less technical assistance to peers, greater feelings of unreasonable pressure, less favourable attitudes towards manager and lower motivation to produce. Such organizations will attain lower sales volume, higher sales costs, and lower quality of business sold and lower earnings. The second hypothesis is that if the manager managers by System-4 using the principles of supportive relationships, group methods of supervision and other principles the organization will display greater group loyalty, higher performance, greater cooperation, more technical assistance to peers, less feeling of unreasonable pressure, more favourable attitudes towards manager, and higher motivation to produce. Such organizations will attain higher business sales volume, lower sales costs, higher quality of business sold, and higher earnings. Likert tested these hypotheses through research and confirmed the effects of changes in causal variables on intervening variable and end-result variables.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการบริหารจัดการ
Likert แสดงให้เห็นในความต้องการที่จะตรวจสอบสถานะขององค์กรและระบบการจัดการภายในในช่วงระยะหรือขั้นตอนของการเจริญเติบโต เขาเสนอรูปแบบของการประเมินผลสำหรับสาเหตุแทรกแซงและตัวแปรปลายผลมีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศขององค์กรและประสิทธิภาพการทำงาน เขาอ้างว่าสังคมศาสตร์โดยใช้วิธีการของคณิตศาสตร์และสถิติที่สามารถพัฒนาวิธีการสำหรับการวัดสถานะของทรัพยากรมนุษย์และคาดการณ์สาเหตุและผลของตัวแปรแทรกแซง แต่การวัดทางสังคมและตัวชี้วัดของลำลอง, แทรกแซงและตัวแปรสิ้นผลอาจไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้เพื่อให้พื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการดำเนินการจัดการ explicating ความสัมพันธ์ระหว่างลำลอง, แทรกแซงและตัวแปรสิ้นผล Likert สมมุติฐานสองสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการ 1,2 และ 4 สมมติฐานแรกคือว่าถ้าผู้จัดการมีแผนจัดดีของการดำเนินงานเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพสูง, ความสามารถทางเทคนิคสูง และถ้าผู้จัดการผู้จัดการโดยระบบ 1 หรือ 2 โดยใช้แรงกดดันลำดับชั้นโดยตรงองค์กรของเขาจะแสดงความจงรักภักดีกลุ่มน้อย, ประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำกว่าความขัดแย้งมากขึ้นความร่วมมือน้อยกว่าความช่วยเหลือด้านเทคนิคน้อยกับเพื่อนความรู้สึกมากขึ้นของความดันไม่มีเหตุผล, ทัศนคติที่ดีต่อผู้จัดการน้อย และแรงจูงใจในการผลิตที่ต่ำกว่า องค์กรดังกล่าวจะได้รับปริมาณขายที่ลดลงค่าใช้จ่ายในการขายที่สูงขึ้นและมีคุณภาพต่ำกว่าของธุรกิจขายและกำไรที่ลดลง สมมติฐานที่สองคือว่าถ้าผู้จัดการผู้จัดการโดยระบบ-4 โดยใช้หลักการของความสัมพันธ์ที่สนับสนุนวิธีการกลุ่มของการกำกับดูแลและหลักการอื่น ๆ องค์กรที่จะแสดงความจงรักภักดีของกลุ่มมากขึ้นประสิทธิภาพที่สูงขึ้น, ความร่วมมือ, ความช่วยเหลือทางเทคนิคกับเพื่อนรู้สึกน้อย ความดันไม่มีเหตุผล, ทัศนคติที่ดีขึ้นต่อผู้จัดการและแรงจูงใจในการผลิตที่สูงขึ้น องค์กรดังกล่าวจะได้รับปริมาณการขายธุรกิจที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายในการขายที่ต่ำกว่าที่มีคุณภาพที่สูงขึ้นของธุรกิจขายและกำไรที่สูงขึ้น Likert ทดสอบสมมติฐานเหล่านี้ผ่านการวิจัยและได้รับการยืนยันผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในตัวแปรสาเหตุตัวแปรแทรกแซงและตัวแปรสิ้นผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยาศาสตร์พื้นฐานการจัดการ
คนแสดงให้เห็นใน ต้องตรวจสอบสภาพขององค์กรและการจัดการภายในระบบที่เป็นระยะหรือขั้นตอนของการเจริญเติบโต เขาได้เสนอรูปแบบของการประเมินผลสำหรับสาเหตุแทรกแซงและสิ้นสุดตัวแปรผลต่อบรรยากาศองค์การและผลการปฏิบัติงาน เขาอ้างว่า สังคมศาสตร์ การใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์และสถิติสามารถพัฒนาวิธีการวัดของรัฐของทรัพยากรมนุษย์และทำนาย เหตุ และ ผลของตัวแปรสอดแทรก . แต่สังคมระบบเมตริกการวัดที่ไม่เป็นทางการ และตัวแปรแทรกแซงผลสุดท้ายอาจไม่เสมอสร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้เพื่อให้พื้นฐานสำหรับการกระทำของ บริษัท จัดการ explicating ความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการ และตัวแปรแทรกแซงจบผลลิสมมุติฐานสองสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการระบบที่ 1 , 2 และ 4 สมมติฐานแรกคือถ้าเป็นผู้จัดการดีจัดแผนการดำเนินงาน เป้าหมาย ประสิทธิภาพสูงความสามารถทางเทคนิคและถ้าผู้จัดการโดยผู้จัดการระบบ 1 หรือ 2 ชั้น ใช้ความดันโดยตรง องค์กรของเขาจะแสดงน้อยกว่ากลุ่มภักดีลดประสิทธิภาพมากกว่าความขัดแย้ง ความร่วมมือ น้อยความช่วยเหลือด้านเทคนิคน้อยกว่าเพื่อน ความรู้สึกที่มากขึ้นของความดันที่ไร้เหตุผล ทัศนคติที่ดีต่อการลดน้อยกว่าผู้จัดการและแรงจูงใจในการผลิต องค์กรดังกล่าวจะบรรลุลดยอดขาย ต้นทุนขายสูง และคุณภาพต่ำ ธุรกิจขาย และกำไรที่ลดลง สมมติฐานที่สอง คือถ้าผู้จัดการโดยผู้จัดการ system-4 โดยใช้หลักการของความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลวิธีการของกลุ่มนิเทศและหลักการอื่น ๆองค์กรจะแสดงความจงรักภักดี กลุ่มเพิ่มประสิทธิภาพสูง ความร่วมมือมากขึ้น ความช่วยเหลือด้านเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อเพื่อน รู้สึกกดดันน้อยลง ไม่มีเหตุผลที่ดีมากขึ้น ทัศนคติต่อผู้จัดการ และแรงจูงใจสูงที่จะผลิต องค์กรดังกล่าวจะบรรลุสูงกว่ายอดขายธุรกิจปริมาณ , ต้นทุนขายลดลงคุณภาพสูงของธุรกิจขายและกำไรที่สูงขึ้น คนทดสอบสมมติฐานเหล่านี้ ผ่านการวิจัย และยืนยันว่า ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงตัวแปรเชิงสาเหตุในตัวแปรแทรกแซงและตัวแปรผล



จบ