The thesis aims to study the accoun

The thesis aims to study the accounting practices, accounting problems and internal controls of Thai Buddhist temples in Bangkok, including the rules, regulations and related information ofDepartment of Religion, Ministry of Education about accounting requirements. Data collectionemployed in-depth interview and a questionnaire survey as a research methodology. Bothdescriptive and inferential statistics (Chi-Square Test) were employed to explain the data andtest hypotheses of the study. The analysis pointed out that accounting practices and systems of the most of Thai Buddhisttemples in Bangkok were inappropriate as required by general accounting practices and systemsand lack of internal controls, especially in expense and fixed asset systems. Most accountantswere inexperience and incapable of accounting. In addition, accounting practices and systemsdid not provide segregation of duty which may cause to fraud in the systems. The studyrecommended proper accounting practices and systems for different sizes of temples for betterinternal controls. Moreover, the study described a chart of accounting, account codes, forms,financial reports and document flows of important cycles for reasonable internal controls.Finally, internal auditing for better efficiency of internal controls of Thai Buddhist templeswas also provided.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิทยานิพนธ์มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางปฏิบัติทางบัญชีปัญหาการบัญชีและการควบคุมภายในของวัดไทยพุทธในกรุงเทพมหานครรวมทั้งกฎระเบียบและ ofdepartment ข้อมูลที่เกี่ยวข้องของศาสนากระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับความต้องการการบัญชี ข้อมูลการสัมภาษณ์ในเชิงลึก collectionemployed และแบบสอบถามเป็นวิธีการวิจัยสถิติ bothdescriptive และอนุมาน (chi-square test) ที่ถูกว่าจ้างในการอธิบายข้อมูลสมมติฐาน andtest ของการศึกษา การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าแนวทางปฏิบัติทางบัญชีและระบบของที่สุดของ buddhistt​​emples ไทยในกรุงเทพฯกระทำที่ไม่เหมาะสมตามที่กำหนดแนวทางปฏิบัติทางบัญชีทั่วไปและขาด systemsand การควบคุมภายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่าใช้จ่ายและระบบสินทรัพย์ถาวรมากที่สุด accountantswere ขาดประสบการณ์และความสามารถในการบัญชี นอกจากนี้แนวทางปฏิบัติทางบัญชีและ systemsdid ได้ให้แยกจากกันของการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งอาจก่อให้เกิดการทุจริตในระบบ studyrecommended แนวทางปฏิบัติทางบัญชีที่เหมาะสมและระบบสำหรับขนาดที่แตกต่างกันของวัดสำหรับการควบคุม betterinternal นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่อธิบายแผนภูมิของบัญชีรหัสบัญชี, รูปแบบ,รายงานทางการเงินและกระแสเอกสารของวงจรที่สำคัญสำหรับการที่เหมาะสมภายใน controls.finally การตรวจสอบภายในให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของระบบการควบคุมภายในของไทยพุทธ templeswas นอกจากนี้ยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีปฏิบัติทางบัญชี ปัญหาทางบัญชี และควบคุมภายในของวัดไทยในกรุงเทพมหานคร กฎ ระเบียบ และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ofDepartment ของศาสนา กระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับการบัญชี ข้อมูล collectionemployed สัมภาษณ์เชิงลึกและแบบสอบถามแบบสำรวจเป็นวิธีวิจัย Bothdescriptive และสถิติเพียงน้อยนิด (การทดสอบ Chi-Square) ได้รับการว่าจ้างอธิบายสมมุติฐาน andtest ข้อมูลของการศึกษา การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า วิธีปฏิบัติทางบัญชีและระบบที่สุดของ Buddhisttemples ไทยในกรุงเทพไม่เหมาะสมตามวิธีปฏิบัติทางบัญชีทั่วไปและขาดการควบคุมภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบสินทรัพย์ถาวรและค่าใช้จ่าย systemsand ส่วนใหญ่ accountantswere inexperience และหมันของบัญชี ปฏิบัติบัญชีและ systemsdid ไม่มีการแบ่งแยกหน้าที่ที่อาจทำให้เกิดการทุจริตในระบบ ปฏิบัติทางบัญชีที่เหมาะสม studyrecommended และระบบขนาดวัดตัวควบคุม betterinternal นอกจากนี้ การศึกษาอธิบายแผนภูมิของบัญชี รหัสบัญชี แบบ ฟอร์มรายงานทางการเงินและเอกสารขั้นตอนของวงจรที่สำคัญสำหรับตัวควบคุมภายในที่เหมาะสมในที่สุด ภายในตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าของตัวควบคุมภายในของไทยพุทธ templeswas บริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยานิพนธ์ที่มีความมุ่งมั่นที่จะศึกษางานด้านการบัญชีที่คิดเป็นสัดส่วนปัญหาและการควบคุม ภายใน ของวัดไทยในกรุงเทพฯรวมถึงกฎระเบียบข้อบังคับและ ofdepartment ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการนับถือศาสนาการศึกษาของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับข้อกำหนดของการบัญชี ข้อมูล collectionemployed การให้ สัมภาษณ์ ในเชิงลึกและแบบสอบถามการสำรวจเป็นวิธีการการวิจัยที่สถิติ Correlation Coefficient และ bothdescriptive ( chi-square )ถูกว่าจ้างเพื่ออธิบายข้อสมมุติ andtest ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาได้ การวิเคราะห์ชี้ไปที่ระบบและการปฏิบัติทางบัญชีของมากที่สุดของไทย buddhisttemples ในกรุงเทพฯก็ไม่เหมาะสมตามที่ต้องการโดยไม่มี systemsand และงานด้านการบัญชีทั่วไปของการควบคุม ภายใน และค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะในระบบสินทรัพย์ถาวรอ่อนหัด accountantswere มากที่สุดและไม่สามารถขยับเขยื้อนของบัญชี. นอกจากนี้ systemsdid และงานด้านการบัญชีไม่ให้มีการแบ่งแยกหน้าที่ซึ่งอาจทำให้เกิดการฉ้อโกงในระบบได้ studyrecommended ระบบและคิดเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติมีขนาดที่แตกต่างกันไปสำหรับการควบคุม betterinternal วัด. ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาแผนที่ที่ได้อธิบายไว้ในรูปแบบรหัสบัญชีคิดเป็นสัดส่วนเอกสารและรายงานทางการเงินไหลเวียนของรอบที่สำคัญสำหรับการควบคุม ภายใน ที่เหมาะสม.สุดท้ายคือการตรวจสอบ ภายใน มี ประสิทธิภาพ ดีขึ้นสำหรับการควบคุม ภายใน ของ templeswas ไทยพุทธและยังจัดให้บริการ