Noting the pervasiveness of videoga

Noting the pervasiveness of videogames in American culture, the authors set out to examine the effects that playing videogames has on children. Thirty-one children were matched on sex, randomly assigned to play either a violent (karate) videogame or a nonviolent (jungle vine swinging) videogame, and then observed during free play. The main results were that the children who had played the jungle swing videogame later played more with a jungle swing toy and that the children who played the violent videogame later showed more aggression. The authors interpreted the findings as an indication that young children who play videogames later tend to act similarly to how their videogame character acted.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้เขียนสังเกต pervasiveness ของ videogames ในวัฒนธรรมอเมริกัน ตั้งค่าออกเพื่อตรวจสอบผลกระทบที่มีเล่น videogames ในเด็ก เด็กถูกจับคู่บนสุ่มกำหนดเพื่อเล่นวิดีโอเกมรุนแรง (คาราเต้) หรือความรุนแรง เพศวิดีโอเกม (ป่าเถาวัลย์ควง) และจากนั้น ตรวจสอบในระหว่างการเล่นฟรี ผลหลักว่า เด็กที่ได้เล่นป่าสวิงวิดีโอเกมภายหลังเล่นมากขึ้น ด้วยของเล่นแกว่งป่า และว่า เด็กที่เล่นวิดีโอเกมรุนแรงภายหลังพบว่าความก้าวร้าวมากขึ้น ผู้เขียนตีความผลการวิจัยเป็นการบ่งชี้ที่เด็กหนุ่มที่เล่น videogames หลัง คล้ายกับวิธีการทำหน้าที่ของตัววิดีโอเกมของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

noting ฟุ้งซ่าน videogames ในวัฒนธรรมของชาวอเมริกันผู้เขียนที่กำหนดไว้ในการตรวจสอบผลกระทบที่เล่น videogames ที่มีต่อเด็ก สามสิบหนึ่งเด็กถูกจับคู่เพศสุ่มให้เล่นได้ทั้งความรุนแรง (คาราเต้) วีดีโอหรือรุนแรง (แกว่งเถาป่า) วีดีโอแล้วสังเกตในระหว่างการเล่นฟรี ผลหลักพบว่าเด็กที่เคยเล่นวีดีโอป่าแกว่งหลังจากเล่นมากขึ้นด้วยของเล่นป่าแกว่งและว่าเด็กที่เล่นวิดีโอเกมที่มีความรุนแรงในภายหลังพบว่ามีความก้าวร้าวมากขึ้น ผู้เขียนตีความผลการวิจัยเป็นข้อบ่งชี้ว่าเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เล่น videogames ต่อมามีแนวโน้มที่จะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับวิธีการที่ตัวละครของพวกเขาทำหน้าที่วีดีโอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สังเกต pervasiveness ของ videogames ในวัฒนธรรมอเมริกัน ผู้เขียนได้ศึกษาผลว่าเล่น videogames ที่มีต่อเด็ก เด็กสามสิบหนึ่งถูกจับคู่กับเพศ แบบสุ่มเล่นวิดีโอเกมรุนแรง ( คาราเต้ ) หรือสันติวิธี ( เถาวัลย์ป่าควง ) วิดีโอเกมแล้วสังเกตในระหว่างการเล่นฟรี ผลลัพธ์หลัก พบว่า เด็กที่ได้เล่นแกว่งป่าวิดีโอเกมต่อมาเล่นกับป่าแกว่งของเล่นที่เด็กที่เล่นวิดีโอเกมรุนแรงต่อมาแสดงความก้าวร้าวมากขึ้น ผู้เขียนตีความผลการวิจัยเป็นข้อบ่งชี้ว่าเด็กคนที่เล่น videogames ทีหลังมักจะทำตัวเหมือนกับว่าตัวละครของเกมทำ