เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี-เสียชีวิต การแปล - เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี-เสียชีวิต ไทย วิธีการพูด

เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564

เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี
-เสียชีวิตเมื่อ วันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1564 ที่เมือง ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

ผลงาน

-ค.ศ. 1584 ตั้งกฎเพนดูลัม หรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม

-ค.ศ. 1585 ตีพิมพ์หนังสิอชื่อว่า Kydrostatic Balance และ Centre of Gravity

-ค.ศ. 1591พิสูจน์ทฤษฎีของอาริสโตเติลที่ว่าวัตถุที่มีน้ำหนักเบาผิด อันที่จริงวัตถุจะตกพื้นพร้อมกันเสมอ

-พัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถส่องดูดาวบนจักรวาลได้

-พบลักษณะพื้นผิวของดวงจันทร์

-พบว่ามีดาวหลายประเภท ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันได้แก่ ดาวเคราะห์ และดาวฤทษ์

-พบทางช้างเผือก (Milky Way)

-พบบริวารของดาวพฤหัสบดี ว่ามีมากถึง 4 ดวง

-พบวงแหวนของดาวเสาร์ ซึ่งปรากฎว่ามีสีถึง 3 สี

-พบว่าพื้นผิวของดาวศุกร์มีลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์

-พบจุดดับบนดวงอาทิตย์(Sun spot)

-พบดาวหาง 3 ดวง

กาลิเลโอเป็นนักวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก ดยเฉพาะผลงานด้านดาราศาสตร์เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุด การทดลองและการค้นพบของเขามีประโยชน์มากมายหลายด้าน โดยเฉพาะทางด้านดาราศาสตร์ เช่น พบจุดดับบนดวงอาทิตย์ พบดารบริวารของดาวพฤหัสบดี เป็นต้น การพบลักษณะการแกว่งของวัตถุซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นเครื่องจับเวลา และนาฬิกาลูกตุ้ม อีกทั้งการที่เขาสามารถพัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้วิชาด้านดาราศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น อีกทั้งเขายังเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญในการแนวความคืดต่างๆ เกี่ยวกับทฤษฎีดังเดิมที่ผิดของอาริสโตเติล ซึ่งนำมาทำความเดิอนร้อนกับเขาเอง ทั้งการถูกต้องขังและก้าวหาว่าเป็นพวกนอกรีตต่อต้านคำสั่งสอนของศาสนา ซึ่งเกือบทำให้เขาเสียชีวิตถ้าไม่ยอมรับความผิดนี้ แม้ว่าเขาจะยอมรับผิด แต่เขาก็ไม่หยุดการค้นคว้และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่อไป กาลิเลโอมักมีแนวความคิดที่แตกต่างไปจากคนอื่นเสมอ และเขาจะไม่ยอกเชื่อทฤษฎีต่าง ๆ ที่รับการเผยแพร่ออกมาในอดีตและในยุคนั้น กาลิเลฌอต้องทำการทดลองเสียก่อนมี่จะเชื่อถือทฤษฎีข้อนั้น และด้วยนิสัยเช่นนี้เขาได้รับฉายาว่า The Wrangler ฉายาของกาลิเลโออันนี้ในปัจจุบัน ได้ใช้ความหมายถึง "ผู่เชี่ยวชาญ" มหาลัยอ็อกฟอร์ด และมหาลัยเคมบริดจ์

กาลิเลโอเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซา ประเทศิตาลี บิดาของเขาเป็นขุนนาง นักคณิตศาสตร์ นักดนตรีและนักเขียนที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควร บิดาของเขามีชื่อว่า วินเซนซิโอ กาลิเลโอ กาลิเลโอได้รับการศึกษาขั้นตนที่เมืองปิซานั้นอง กาลิเลโอนักเรียนที่เฉลียวฉลาด และมีความสามารถหลายด้าน ทั้งวาดภาพ และเล่นดนตรี และคณิตศาสตร์ บิดาของกาลิเลโอต้องการให้ให้เขาศึกษาวิชาแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยปิซา แต่กาลิเลโอมีความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มากกว่า จนกระทั่งครั้งหนึ่งกาลิเลโอได้มีโอกาสได้เขาฟังการบรรยายในวิชาคณิตศาสร์ ทำให้เขาเลิกเรียนวิชาแพทย์ และไปเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์แทน

การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกของกาลิเลโอเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1584 เมื่อเขากำลังนั่งฟังบทสวดมนต์ในโบสถ์แห่งหนึ่ง เขาสังเกตเห็นโคมแขวนบนเพดานโบสถ์แกว่งไปแกว่งมา เขาจึงเกิดความสงสัยว่า การแกว่งไปมาของโคมแต่ละรอบใช้เวลา เท่ากันหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงทดลองจับเวลาการแกว่งไปมาของโคม โดยเทียบกับชีพจรของตัวเอง เนื่องจากเขาเคยเรียนวิชาแพทย์ ทำให้เขารู้ว่าจังหวะการเต้นของชีพจรของคนในแต่ละครั้งนั้นใช้เวลาเท่ากัน ผลปรากฎว่า ไม่ว่าโครมจะแกว่งในลักษณะในลักษณะใดก็แล้วแต่ ระยะเวลาการแกว่งไปและกลับครบ 1รอบ จะเท่ากันเสมอ เมื่อเขากลับบ้านได้ทำการทดลองแบบเดียวกันนี้หลายครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทฤฎีที่เขาจะตั้งขึ้นถูกต้องที่สุด ซึ่งผลการทดลองก็เหมือนกันทุกครั้ง กาลิเลโอได้ตั้งชื่อทฤษฎีนี้ว่า กฎเพนดูลัม หรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม กาลิเลโอได้นำหลักการจาการทดลองครั้งนี้มาสร้างเครื่องจับเวลาซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 1656 คริสเตียน ฮอยเกนส์ ได้ทฤษฎีนี้มาสร้างนาฬิกาลูกตุ้ม

ต่อมาในปี ค.ศ.1585 กาลิเลโอได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย เพราะไม่มีเงินพอสำหรับการเรียนต่อ เขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองฟลอเรนซ์ และได้เข้าศึกษาต่อที่สถาบันฟลอเรนทีน (Florentine Academy) ในระหว่างนี้กาลิเลโอ ได้เขียนหนังสือขึ้นมา 2 เล่ม เล่มแรกชื่อว่า Hydrostatic Balance เป็นเรื่องเกี่ยวกับตาชั่ง ส่วนอีกเล่มหนึ่งชื่อว่า Center of Gravity เป็นเรื่องเกียวกับจุดศูนย์ถ่วงของของแข็ง เล่นที่ 2 นี้เขาเขียนเนื่องจากมาร์เชส กวิดูบาลโด เดล มอนเต เปซาโร (Marchese Guidubald Del Monte of Pasaro) ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อเขา ขอร้องให้เขียนขึ้น จากหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้เองทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น และในปี ค.ศ.1588 กาลิเลโอได้รับการติดต่อให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชา คณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยปิซา ในปีค.ศ.1591 ในระหว่างที่กาลิเลโอทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยปิซา เขาได้ทฤษฎีของอาริสโตเติลมาทดสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง ทฤษฎีที่ว่านี้คือ ทฤษฎีที่มีน้ำหนักมากกว่าและวัตถุที่มีน้ำหนักเบา จะตกถึงพื้นพร้อมกัน แต่การที่อาริสโตเติล สรุปทฤษฎีนี้ เช่นนี้เป็นผลเนื่องมาจากอากาศช่วยพยุงวัตถุที่มีน้ำหนักเบาได้มากกว่าวัตถุที่มีน้ำหนักมากกว่า แต่ถ้าทำการทดลอง ในสุญญากาศจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวัตถุตกถึงพื้นพร้อมกัน กาลิเลโอได้นำความจริงข้อนี้ไปชี้แจงกับทางมหาวิทยาลัย ผลปรากฎว่า มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เขาจึงทำการทดลองอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนโดยนำก้อนตะกั่ว 2 ก้อน ก้อนหนึ่งหนัก 10 ปอนด์ อีกก่อนหนึ่งหนัก 20 ปอนด์ ทิ้งลงมาจากหอเอนปิซาพร้อมกัน ผลปรากฎว่าก้อนตะกั่วทั้ง2 ก้อนตกถึงพื้นพร้อมกัน จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าทฤษฎีของอาริสโตเติลผิด และของกาลิเลโอถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มคนที่ยึดถือทฤษฎีของอาริสโตเติลอย่างเหนียวแน่นก็ยังไม่เชื่อกาลิเลโออยู่ดี อีกทั้งยังกลั่นแกล่งจยกาลิเลโอ ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยปิซา
5000/5000
จาก: อังกฤษ
เป็น: ไทย
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซาประเทศอิตาลี-เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคมค.ศ. 1564 ที่เมืองฟลอเรนซ์ประเทศอิตาลีผลงาน-ค.ศ. 1584 หรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้มตั้งกฎเพนดูลัม -ค.ศ. 1585 ตีพิมพ์หนังสิอชื่อว่า Kydrostatic ดุลและศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง-ค.ศ. อันที่จริงวัตถุจะตกพื้นพร้อมกันเสมอ 1591พิสูจน์ทฤษฎีของอาริสโตเติลที่ว่าวัตถุที่มีน้ำหนักเบาผิด -พัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถส่องดูดาวบนจักรวาลได้-พบลักษณะพื้นผิวของดวงจันทร์-พบว่ามีดาวหลายประเภทซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันได้แก่ดาวเคราะห์และดาวฤทษ์-พบทางช้างเผือก (มิลค์) ดวงว่ามีมากถึง 4 - พบบริวารของดาวพฤหัสบดี-พบวงแหวนของดาวเสาร์ซึ่งปรากฎว่ามีสีถึง 3 สี-พบว่าพื้นผิวของดาวศุกร์มีลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์-พบจุดดับบนดวงอาทิตย์ (ซันสปอ)-พบดาวหาง 3 ดวง กาลิเลโอเป็นนักวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกดยเฉพาะผลงานด้านดาราศาสตร์เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดการทดลองและการค้นพบของเขามีประโยชน์มากมายหลายด้านโดยเฉพาะทางด้านดาราศาสตร์เช่นพบจุดดับบนดวงอาทิตย์ พบดารบริวารของดาวพฤหัสบดีเป็นต้นการพบลักษณะการแกว่งของวัตถุซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นเครื่องจับเวลาและนาฬิกาลูกตุ้มอีกทั้งการที่เขาสามารถพัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้วิชาด้านดาราศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นอีกทั้งเขายังเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญในการแนวความคืดต่าง ๆ เกี่ยวกับทฤษฎีดังเดิมที่ผิดของอาริสโตเติลซึ่งนำมาทำความเดิอนร้อนกับเขาเองทั้งการถูกต้องขังและก้าวหาว่าเป็นพวกนอกรีตต่อต้านคำสั่งสอนของศาสนาซึ่งเกือบทำให้เขาเสียชีวิตถ้าไม่ยอมรับความผิดนี้แม้ว่าเขาจะยอมรับผิดแต่เขาก็ไม่หยุดการค้นคว้และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่อไปกาลิเลโอมักมีแนวความคิดที่แตกต่างไปจากคนอื่นเสมอและเขาจะไม่ยอกเชื่อทฤษฎีต่างๆ ที่รับการเผยแพร่ออกมาในอดีตและในยุคนั้นกาลิเลฌอต้องทำการทดลองเสียก่อนมี่จะเชื่อถือทฤษฎีข้อนั้นและด้วยนิสัยเช่นนี้เขาได้รับฉายาว่า Wrangler ฉายาของกาลิเลโออันนี้ในปัจจุบันได้ใช้ความหมายถึง "ผู่เชี่ยวชาญ" มหาลัยอ็อกฟอร์ดและมหาลัยเคมบริดจ์ กาลิเลโอเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซาประเทศิตาลีบิดาของเขาเป็นขุนนางนักคณิตศาสตร์นักดนตรีและนักเขียนที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรบิดาของเขามีชื่อว่าวินเซนซิโอกาลิเลโอกาลิเลโอได้รับการศึกษาขั้นตนที่เมืองปิซานั้นองกาลิเลโอนักเรียนที่เฉลียวฉลาดและมีความสามารถหลายด้านทั้งวาดภาพและเล่นดนตรีและคณิตศาสตร์บิดาของกาลิเลโอต้องการให้ให้เขาศึกษาวิชาแพทย์ณมหาวิทยาลัยปิซาแต่กาลิเลโอมีความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มากกว่าจนกระทั่งครั้งหนึ่งกาลิเลโอได้มีโอกาสได้เขาฟังการบรรยายในวิชาคณิตศาสร์ทำให้เขาเลิกเรียนวิชาแพทย์และไปเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แทน การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกของกาลิเลโอเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1584 เมื่อเขากำลังนั่งฟังบทสวดมนต์ในโบสถ์แห่งหนึ่ง เขาสังเกตเห็นโคมแขวนบนเพดานโบสถ์แกว่งไปแกว่งมา เขาจึงเกิดความสงสัยว่า การแกว่งไปมาของโคมแต่ละรอบใช้เวลา เท่ากันหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงทดลองจับเวลาการแกว่งไปมาของโคม โดยเทียบกับชีพจรของตัวเอง เนื่องจากเขาเคยเรียนวิชาแพทย์ ทำให้เขารู้ว่าจังหวะการเต้นของชีพจรของคนในแต่ละครั้งนั้นใช้เวลาเท่ากัน ผลปรากฎว่า ไม่ว่าโครมจะแกว่งในลักษณะในลักษณะใดก็แล้วแต่ ระยะเวลาการแกว่งไปและกลับครบ 1รอบ จะเท่ากันเสมอ เมื่อเขากลับบ้านได้ทำการทดลองแบบเดียวกันนี้หลายครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทฤฎีที่เขาจะตั้งขึ้นถูกต้องที่สุด ซึ่งผลการทดลองก็เหมือนกันทุกครั้ง กาลิเลโอได้ตั้งชื่อทฤษฎีนี้ว่า กฎเพนดูลัม หรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม กาลิเลโอได้นำหลักการจาการทดลองครั้งนี้มาสร้างเครื่องจับเวลาซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 1656 คริสเตียน ฮอยเกนส์ ได้ทฤษฎีนี้มาสร้างนาฬิกาลูกตุ้ม ต่อมาในปี ค.ศ.1585 กาลิเลโอได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย เพราะไม่มีเงินพอสำหรับการเรียนต่อ เขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองฟลอเรนซ์ และได้เข้าศึกษาต่อที่สถาบันฟลอเรนทีน (Florentine Academy) ในระหว่างนี้กาลิเลโอ ได้เขียนหนังสือขึ้นมา 2 เล่ม เล่มแรกชื่อว่า Hydrostatic Balance เป็นเรื่องเกี่ยวกับตาชั่ง ส่วนอีกเล่มหนึ่งชื่อว่า Center of Gravity เป็นเรื่องเกียวกับจุดศูนย์ถ่วงของของแข็ง เล่นที่ 2 นี้เขาเขียนเนื่องจากมาร์เชส กวิดูบาลโด เดล มอนเต เปซาโร (Marchese Guidubald Del Monte of Pasaro) ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อเขา ขอร้องให้เขียนขึ้น จากหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้เองทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น และในปี ค.ศ.1588 กาลิเลโอได้รับการติดต่อให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชา คณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยปิซา ในปีค.ศ.1591 ในระหว่างที่กาลิเลโอทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยปิซา เขาได้ทฤษฎีของอาริสโตเติลมาทดสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง ทฤษฎีที่ว่านี้คือ ทฤษฎีที่มีน้ำหนักมากกว่าและวัตถุที่มีน้ำหนักเบา จะตกถึงพื้นพร้อมกัน แต่การที่อาริสโตเติล สรุปทฤษฎีนี้ เช่นนี้เป็นผลเนื่องมาจากอากาศช่วยพยุงวัตถุที่มีน้ำหนักเบาได้มากกว่าวัตถุที่มีน้ำหนักมากกว่า แต่ถ้าทำการทดลอง ในสุญญากาศจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวัตถุตกถึงพื้นพร้อมกัน กาลิเลโอได้นำความจริงข้อนี้ไปชี้แจงกับทางมหาวิทยาลัย ผลปรากฎว่า มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เขาจึงทำการทดลองอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนโดยนำก้อนตะกั่ว 2 ก้อน ก้อนหนึ่งหนัก 10 ปอนด์ อีกก่อนหนึ่งหนัก 20 ปอนด์ ทิ้งลงมาจากหอเอนปิซาพร้อมกัน ผลปรากฎว่าก้อนตะกั่วทั้ง2 ก้อนตกถึงพื้นพร้อมกัน จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าทฤษฎีของอาริสโตเติลผิด และของกาลิเลโอถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มคนที่ยึดถือทฤษฎีของอาริสโตเติลอย่างเหนียวแน่นก็ยังไม่เชื่อกาลิเลโออยู่ดี อีกทั้งยังกลั่นแกล่งจยกาลิเลโอ ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยปิซา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซาประเทศอิตาลี
- เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1564 เมืองฟลอเรนซ์ที่ประเทศอิตาลีผลงาน- ค.ศ. 1584 ตั้งกฎเพนดูลัมหรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม- ค.ศ. 1585 ตีพิมพ์หนังสิอชื่อว่า Kydrostatic สมดุลและเป็นศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง- ค.ศ. ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกัน ได้แก่ ดาวเคราะห์และดาวฤทษ์- พบทางช้างเผือก (Milky Way) - พบบริวารของดาวพฤหัสบดีว่ามีมากถึง 4 ดวง- พบวงแหวนของดาวเสาร์ซึ่งปรากฎว่ามีสีถึง 3 จุด) - พบดาวหาง 3 ดวงกาลิเลโอเป็นนักวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก โดยเฉพาะทางด้านดาราศาสตร์เช่นพบจุดดับบนดวงอาทิตย์พบดารบริวารของดาวพฤหัสบดีเป็นต้น และนาฬิกาลูกตุ้ม ซึ่งนำมาทำความเดิอนร้อนกับเขาเอง แม้ว่าเขาจะยอมรับผิด และเขาจะไม่ยอกเชื่อทฤษฎีต่าง ๆ Wrangler ฉายาของกาลิเลโออันนี้ในปัจจุบันได้ใช้ความหมายถึง "ผู่เชี่ยวชาญ" มหาลัยอ็อกฟอร์ด 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซาประเทศิตาลีบิดาของเขาเป็นขุนนางนักคณิตศาสตร์ บิดาของเขามีชื่อว่าวินเซนซิโอกาลิเลโอ กาลิเลโอนักเรียนที่เฉลียวฉลาดและมีความสามารถหลายด้านทั้งวาดภาพและเล่นดนตรีและคณิตศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยปิซา ทำให้เขาเลิกเรียนวิชาแพทย์และไปเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ค.ศ. 1584 เขาจึงเกิดความสงสัยว่าการแกว่งไปมาของโคมแต่ละรอบใช้เวลาเท่ากันหรือไม่ โดยเทียบกับชีพจรของตัวเองเนื่องจากเขาเคยเรียนวิชาแพทย์ ผลปรากฎว่า ระยะเวลาการแกว่งไปและกลับครบ 1 รอบจะเท่ากันเสมอ ซึ่งผลการทดลองก็เหมือนกันทุกครั้งกาลิเลโอได้ตั้งชื่อทฤษฎีนี้ว่ากฎเพนดูลัมหรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม ค.ศ. 1656 คริสเตียนฮอยเกนส์ ค.ศ. 1585 กาลิเลโอได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะไม่มีเงินพอสำหรับการเรียนต่อ (ฟลอเรนซ์สถาบันการศึกษา) ในระหว่างนี้กาลิเลโอได้เขียนหนังสือขึ้นมา 2 เล่มเล่มแรกชื่อว่าที่หยุดนิ่งสมดุลเป็นเรื่องเกี่ยวกับตาชั่งส่วนอีกเล่มหนึ่งชื่อว่าศูนย์แรงโน้มถ่วง เล่นที่ 2 นี้เขาเขียนเนื่องจากมาร์เชสกวิดูบาลโดเดลมอนเตเปซาโร (Marchese Guidubald Del Monte ของ Pasaro) ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อเขาขอร้องให้เขียนขึ้นจากหนังสือทั้ง 2 และในปี ค.ศ. 1588 คณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยปิซาในปีค. ศ. 1591 ทฤษฎีที่ว่านี้คือ จะตกถึงพื้นพร้อมกัน แต่การที่อาริสโตเติลสรุปทฤษฎีนี้ แต่ถ้าทำการทดลอง ผลปรากฎว่ามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย 2 ก้อนก้อนหนึ่งหนัก 10 ปอนด์อีกก่อนหนึ่งหนัก 20 ปอนด์ทิ้งลงมาจากหอเอนปิซาพร้อมกันผลปรากฎว่าก้อนตะกั่วทั้ง 2 ก้อนตกถึงพื้นพร้อมกัน และของกาลิเลโอถูกต้อง อีกทั้งยังกลั่นแกล่งจยกาลิเลโอต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยปิซา

































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ค . ศ . 1031 ที่เมืองปิซาประเทศอิตาลี
- เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคมค . ศ . 1031 ที่เมืองฟลอเรนซ์ประเทศอิตาลี

ผลงาน

- ค . ศ . 1584 ตั้งกฎเพนดูลัมหรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม

- ค . ศ .ปลูกฝังตีพิมพ์หนังสิอชื่อว่า kydrostatic สมดุลและจุดศูนย์ถ่วง

- ค . ศ . 1 , 591 พิสูจน์ทฤษฎีของอาริสโตเติลที่ว่าวัตถุที่มีน้ำหนักเบาผิดอันที่จริงวัตถุจะตกพื้นพร้อมกันเสมอ

- พัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถส่องดูดาวบนจักรวาลได้พบลักษณะพื้นผิวของดวงจันทร์

-

-

- พบว่ามีดาวหลายประเภทซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันได้แก่ดาวเคราะห์และดาวฤทษ์พบทางช้างเผือก ( ทางช้างเผือก )

- พบบริวารของดาวพฤหัสบดีว่ามีมากถึง 4 ดวง

- พบวงแหวนของดาวเสาร์ซึ่งปรากฎว่ามีสีถึง 3 สี

-

- พบว่าพื้นผิวของดาวศุกร์มีลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์พบจุดดับบนดวงอาทิตย์ ( Sun Spot )

-

พบดาวหาง 3 ดวงกาลิเลโอเป็นนักวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกดยเฉพาะผลงานด้านดาราศาสตร์เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดการทดลองและการค้นพบของเขามีประโยชน์มากมายหลายด้านเช่นพบจุดดับบนดวงอาทิตย์พบดารบริวารของดาวพฤหัสบดีเป็นต้นการพบลักษณะการแกว่งของวัตถุซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นเครื่องจับเวลาและนาฬิกาลูกตุ้มทำให้วิชาด้านดาราศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นอีกทั้งเขายังเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญในการแนวความคืดต่างๆเกี่ยวกับทฤษฎีดังเดิมที่ผิดของอาริสโตเติลซึ่งนำมาทำความเดิอนร้อนกับเขาเองซึ่งเกือบทำให้เขาเสียชีวิตถ้าไม่ยอมรับความผิดนี้แม้ว่าเขาจะยอมรับผิดแต่เขาก็ไม่หยุดการค้นคว้และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่อไปกาลิเลโอมักมีแนวความคิดที่แตกต่างไปจากคนอื่นเสมอจะที่รับการเผยแพร่ออกมาในอดีตและในยุคนั้นกาลิเลฌอต้องทำการทดลองเสียก่อนมี่จะเชื่อถือทฤษฎีข้อนั้นและด้วยนิสัยเช่นนี้เขาได้รับฉายาว่า The Wrangler ฉายาของกาลิเลโออันนี้ในปัจจุบันได้ใช้ความหมายถึงมหาลัยอ็อกฟอร์ดและมหาลัยเคมบริดจ์

15 กาลิเลโอเกิดเมื่อวันที่กุมภาพันธ์ค . ศ .1031 ที่เมืองปิซาประเทศิตาลีบิดาของเขาเป็นขุนนางนักคณิตศาสตร์นักดนตรีและนักเขียนที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรบิดาของเขามีชื่อว่าวินเซนซิโอกาลิเลโอกาลิเลโอได้รับการศึกษาขั้นตนที่เมืองปิซานั้นองและมีความสามารถหลายด้านทั้งวาดภาพและเล่นดนตรีและคณิตศาสตร์บิดาของกาลิเลโอต้องการให้ให้เขาศึกษาวิชาแพทย์ณมหาวิทยาลัยปิซาแต่กาลิเลโอมีความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มากกว่าทำให้เขาเลิกเรียนวิชาแพทย์และไปเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แทน

การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกของกาลิเลโอเกิดขึ้นเมื่อปีค . ศ .1584 เมื่อเขากำลังนั่งฟังบทสวดมนต์ในโบสถ์แห่งหนึ่งเขาสังเกตเห็นโคมแขวนบนเพดานโบสถ์แกว่งไปแกว่งมาเขาจึงเกิดความสงสัยว่าการแกว่งไปมาของโคมแต่ละรอบใช้เวลาเท่ากันหรือไม่โดยเทียบกับชีพจรของตัวเองเนื่องจากเขาเคยเรียนวิชาแพทย์ทำให้เขารู้ว่าจังหวะการเต้นของชีพจรของคนในแต่ละครั้งนั้นใช้เวลาเท่ากันผลปรากฎว่าไม่ว่าโครมจะแกว่งในลักษณะในลักษณะใดก็แล้วแต่1 a research note จะเท่ากันเสมอเมื่อเขากลับบ้านได้ทำการทดลองแบบเดียวกันนี้หลายครั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทฤฎีที่เขาจะตั้งขึ้นถูกต้องที่สุดซึ่งผลการทดลองก็เหมือนกันทุกครั้งกาลิเลโอได้ตั้งชื่อทฤษฎีนี้ว่าหรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้มกาลิเลโอได้นำหลักการจาการทดลองครั้งนี้มาสร้างเครื่องจับเวลาซึ่งต่อมาในปีค .ศ . 24 คริสเตียนฮอยเกนส์ได้ทฤษฎีนี้มาสร้างนาฬิกาลูกตุ้ม

ต่อมาในปีค . ศ .ปลูกฝังกาลิเลโอได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะไม่มีเงินพอสำหรับการเรียนต่อเขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองฟลอเรนซ์และได้เข้าศึกษาต่อที่สถาบันฟลอเรนทีน ( Florentine Academy ) ในระหว่างนี้กาลิเลโอได้เขียนหนังสือขึ้นมา 2เล่มแรกชื่อว่าสมดุลไฮโดรสแตติกเป็นเรื่องเกี่ยวกับตาชั่งส่วนอีกเล่มหนึ่งชื่อว่าจุดศูนย์ถ่วงเป็นเรื่องเกียวกับจุดศูนย์ถ่วงของของแข็งเล่นที่ 2 นี้เขาเขียนเนื่องจากมาร์เชสกวิดูบาลโดเดลมอนเตเปซาโร ( ขุนนางอิตาลีที่มีตำแหน่งเหนือกว่า count guidubald เดล
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: ilovetranslation@live.com