อ.เฉลิมพล กล่าวว่า สถิติความมั่นคงของมนุษย์จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อย 7 ประก การแปล - อ.เฉลิมพล กล่าวว่า สถิติความมั่นคงของมนุษย์จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อย 7 ประก ไทย วิธีการพูด

อ.เฉลิมพล กล่าวว่า สถิติความมั่นคงข

อ.เฉลิมพล กล่าวว่า สถิติความมั่นคงของมนุษย์จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อย 7 ประการ ตามเกณฑ์ของ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประกอบด้วย 1.เศรษฐกิจ 2.สิ่งแวดล้อม 3.อาหาร 4.สุขภาพ 5.ความมั่นคงส่วนบุคคล 6.ชุมชน และ 7.การเมือง แล้วก็พบว่าแต่ละประเทศต่างก็มีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป แม้กระทั่งประเทศที่พัฒนาแล้วในระดับโลกอย่างสิงคโปร์ ก็ยังมีปัญหาในบางด้านเช่นกัน ทั้งนี้สถิติทั้งหมดจะใช้เกณฑ์ร้อยละ (0-100) ในการให้คะแนน เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย

โดยความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวม (HSI) ข้อมูลทั้งหมด 232 ประเทศ สรุปในปี 2554 สิงคโปร์ ครองแชมป์แบบนอนมา อยู่ที่ร้อยละ 80 ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างบรูไน ที่ได้ร้อยละ 61 มาเลเซีย มาเป็นอันดับ 3 ร้อยละ 58 สูสีกับ ไทย ที่อยู่อันดับ 4 ร้อยละ 56 ขณะที่ กัมพูชา เป็นประเทศอาเซียนที่มีความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวมต่ำที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 16 เท่านั้น

เกณฑ์ต่อมา วัดกันด้วยตัวชี้วัดด้านการพัฒนาคน (HDI) ที่มีข้อมูลทั้งหมด 187 ประเทศสรุปในปี 2555 เช่นเดียวกัน สิงคโปร์ ยังเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาศักยภาพคนได้สูงสุด อยู่ที่ร้อยละ 91 ตามมาด้วยบรูไนที่ได้ร้อยละ 84 มาเลเซียอันดับ 3 ได้ร้อยละ 66 และไทยยังคงเป็นอันดับ 4 แต่เมื่อดูคะแนนแล้ว สยามประเทศของเราได้เพียงร้อยละ 45 ถ้าพูดกันแบบภาษาบ้านๆ ย่อมแปลง่ายๆ ว่าไทยนั้น “สอบตก” ด้านความสามารถในการพัฒนาศักยภาพพลเมืองของตนนั่นเอง

“ความมั่นคงในภาพรวม หรือ Human Security Index จัดทำในปี 2554 จาก 232 ประเทศ ถ้าเราแบ่งประเทศที่มี Human Security สูง กับที่มี Human Security ต่ำลงมา เราพบว่า (ในอาเซียน) มีอยู่ 4 ประเทศที่อยู่ในครึ่งแรก คือค่อนข้างมีความมั่นคงสูง ประเทศแรกสูงที่สุดคือสิงคโปร์ ร้อยละ 80 ถือว่าสูง อีก 3 ประเทศเกาะกลุ่มกันอยู่ ก็คือบรูไน มาเลเซีย แล้วก็ไทย

ส่วน HDI หรือ Human Development Index 3 ประเทศแรก สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย มีระดับการพัฒนาคนที่ค่อนข้างสูง อยู่ในร้อยละที่ 91 84 และ 66 ตามมาด้วยประเทศไทยในอันดับ 4 แต่เราพบว่า ดัชนีการพัฒนาคนของไทย ทิ้งห่างจากมาเลเซียค่อนข้างสูง และมีค่าอันดับ Percentile (ค่าเฉลี่ยร้อยละ) ต่ำกว่า 50 อันนี้เป็นภาพรวม” อ.เฉลิมพล กล่าว

นักวิจัยด้านประชากรรายนี้ กล่าวต่อไปโดยแยกสถิติในด้านต่างๆ ทั้ง 7 ด้าน เริ่มกันที่ด้านเศรษฐกิจ วัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัว (GNP) คราวนี้สิงคโปร์ (ร้อยละ 99) กับบรูไน (ร้อยละ 97) ทิ้งห่างอันดับ 3 อย่างมาเลเซีย (ร้อยละ 63) และอันดับ 4 อย่างไทย ที่ได้อันดับเกือบๆ สอบตก คือร้อยละ 51 ขณะที่ ลาว เป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในอาเซียน เพราะมีคนยากจน ที่มีรายได้น้อยกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 60 บาท) ต่อวัน อันเป็นเกณฑ์ความยากจนสากล ถึงร้อยละ 66 หรือ 2 ใน 3 ของประชากร ส่วนกัมพูชามีคนยากจนอยู่ที่ร้อยละ 53.3

แต่เมื่อมาดูสถิติการกระจายรายได้ พบว่ามาเลเซียกับไทย มีปัญหาด้านการกระจายรายได้ของประชากรค่อนข้างมาก มาเลเซียที่มีคนจนเพียงร้อยละ 2.3 แต่มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรมากที่สุด คืออยู่ที่ร้อยละ 46.2 ส่วนไทยมีคนจนเพียงร้อยละ 4.6 มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรอยู่ที่ร้อยละ 40 เป็นอันดับ 3 ส่วน ฟิลิปปินส์ จัดว่าเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีคนยากจนถึงร้อยละ 41.5 และมีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากร เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยอยู่ที่ร้อยละ 43 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อวัดจากประชากรที่วันนี้ใกล้ทะลุ 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว

ในด้านอาหาร หรือความอดอยาก-ขาดแคลนอาหาร ใช้ดัชนีความมั่นคงทางอาหารโลก (GFSI) ปี 2555 ในภาพรวม มาเลเซีย (ร้อยละ 70) ไทย (ร้อยละ 58) และเวียดนาม (ร้อยละ 49) ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่มีความมั่นคงพอสมควร แต่ในทางกลับกัน กัมพูชา พม่าและลาว เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงด้านการขาดแคลนอาหารค่อนข้างสูง ทั้งนี้แม้อาเซียนจะเป็นภูมิภาคที่ผลิตอาหารได้มาก แต่ก็มีผู้คนอีกมากเช่นกันยังไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ ในปริมาณที่เหมาะสมได้

ในด้านสุขภาพ ประเทศไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เพราะมีประชากรเพียงร้อยละ 0.8 เท่านั้นที่ไม่มีหลักประกันการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งตรงนี้ อ.เฉลิมพล มองว่าเป็นผลจากหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค) ขณะที่ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีหลักประกันใดๆ โดยลาวนั้นมีประชากรที่ไม่ได้รับหลักประกันคุ้มครองใดๆ สูงที่สุด ร้อยละ 98.3 กัมพูชารองลงมาร้อยละ 96.8 และฟิลิปปินส์เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงอันดับ 3 ร้อยละ 92.5 ที่น่าสนใจคือประเทศที่มีเศรษฐกิจดีอย่างมาเลเซีย กลับมีประชากรที่ไม่มีหลักประกันใดๆ คุ้มครองมากถึงร้อยละ 85

ในด้านความมั่นคงส่วนบุคคล ประเทศไทย ครองแชมป์การตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน สูงที่สุดในอาเซียน อยู่ที่ 38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างมาเลเซีย อยู่ที่ 25 คนต่อประชากร 1 แสนคน และอันดับ 3 เวียดนาม อันเป็นชาติที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้จักรยานยนต์เหมือนบ้านเรา อยู่ที่ 24.7 คนต่อประชากร 1 แสนคน แน่นอนว่าสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนน้อยที่สุด อยู่ที่ 5.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน

ความมั่นคงส่วนบุคคลอีกประการหนึ่ง คือสถิติการเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรม พบว่าพม่ามีอัตราการตายจากเหตุนี้มากที่สุด อยู่ที่ 10.7 คนต่อประชากร 1 แสนคน อินโดนีเซียตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 8.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน ฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับ 3 อัตราการตายจากเหตุฆาตกรรมอยู่ที่ 5.4 คนต่อประชากร 1 แสนคน ส่วนไทยตามมาติดๆ เป็นอันดับ 4 อยู่ที่ 4.8 คนต่อประชากร 1 แสนคน และแน่นอนว่าสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีเหตุฆาตกรรมต่ำที่สุด เพราะมีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเพียง 0.3 คนเท่านั้น

ในด้านชุมชน อ้างอิงดัชนีความสงบสุขโลก (GPI) ปี 2555 มาเลเซียถือเป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในอาเซียน อยู่ที่ร้อยละ 88 สิงคโปร์รองลงมาอยู่ที่ร้อยละ 86 เวียดนามตามมาเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ร้อยละ 79 ขณะที่ประเทศไทยได้เพียงอันดับที่ 8 อยู่ที่ร้อยละ 21 เท่านั้น และพม่าเป็นประเทศที่มีความสงบสุขอยู่ที่ร้อยละ 13 ถือว่าน้อยที่สุดในภูมิภาค

ในด้านสิทธิและการเมือง อ.เฉลิมพล ใช้ดัชนีความไม่เท่าเทียมทางเพศ (ชาย-หญิง) ที่หมายถึงทั้งด้านสุขภาพ การทำงาน การศึกษาและการเมือง พบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเสมอภาคทางเพศมากที่สุด ร้อยละ 92 ตามมาด้วยมาเลเซีย ร้อยละ 72 เวียดนามอยู่ในอันดับ 3 ร้อยละ 68 และไทยเป็นอันดับ 4 อยู่ที่ร้อยละ 56 ขณะที่อินโดนีเซียนั
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
อ.เฉลิมพลกล่าวว่าสถิติความมั่นคงของมนุษย์จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อย 7 ประการตามเกณฑ์ของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประกอบด้วย 1.เศรษฐกิจ 2.สิ่งแวดล้อม 3.อาหาร 4.สุขภาพ 5.ความมั่นคงส่วนบุคคล 6.ชุมชน และ 7.การเมือง แล้วก็พบว่าแต่ละประเทศต่างก็มีปัญหาที่แตกต่างกันออกไปแม้กระทั่งประเทศที่พัฒนาแล้วในระดับโลกอย่างสิงคโปร์ก็ยังมีปัญหาในบางด้านเช่นกันทั้งนี้สถิติทั้งหมดจะใช้เกณฑ์ร้อยละ (0-100) ในการให้คะแนนเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายโดยความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวม (HSI) ข้อมูลทั้งหมด 232 ประเทศสรุปในปี ๒๕๕๔ สิงคโปร์ครองแชมป์แบบนอนมาอยู่ที่ร้อยละ 80 ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างบรูไนที่ได้ร้อยละ 61 มาเลเซียมาเป็นอันดับ 3 ร้อยละ 58 สูสีกับติดตามที่อยู่อันดับ 4 ร้อยละ 56 ขณะที่กัมพูชาเป็นประเทศอาเซียนที่มีความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวมต่ำที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 16 เท่านั้นเกณฑ์ต่อมาวัดกันด้วยตัวชี้วัดด้านการพัฒนาคน (HDI) ที่มีข้อมูลทั้งหมด 187 ประเทศสรุปในปี 2555 เช่นเดียวกันสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาศักยภาพคนได้สูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 91 ตามมาด้วยบรูไนที่ได้ร้อยละ 84 มาเลเซียอันดับ 3 ได้ร้อยละ 66 และไทยยังคงเป็นอันดับ 4 แต่เมื่อดูคะแนนแล้วสยามประเทศของเราได้เพียงร้อยละ 45 ถ้าพูดกันแบบภาษาบ้าน ๆ ย่อมแปลง่าย ๆ ว่าไทยนั้น "สอบตก" ด้านความสามารถในการพัฒนาศักยภาพพลเมืองของตนนั่นเอง"ทำดัชนีความมั่นคงในภาพรวมหรือมนุษย์ความปลอดภัยจัดทำในปี ๒๕๕๔ จาก 232 ประเทศถ้าเราแบ่งประเทศที่มีมนุษย์ปลอดภัยสูงกับที่มีรักษาความปลอดภัยบุคคลต่ำลงมาเราพบว่า (ในอาเซียน) มีอยู่ 4 ประเทศที่อยู่ในครึ่งแรกคือค่อนข้างมีความมั่นคงสูงประเทศแรกสูงที่สุดคือสิงคโปร์ร้อยละ 80 ถือว่าสูงอีก 3 ประเทศเกาะกลุ่มกันอยู่ก็คือบรูไนมาเลเซียแล้วก็ไทยส่วน HDI หรือมนุษย์พัฒนาดัชนี 3 ประเทศแรกสิงคโปร์บรูไนมาเลเซียมีระดับการพัฒนาคนที่ค่อนข้างสูงอยู่ในร้อยละที่ 91 84 และ 66 ตามมาด้วยประเทศไทยในอันดับ 4 แต่เราพบว่าดัชนีการพัฒนาคนของไทยทิ้งห่างจากมาเลเซียค่อนข้างสูงและมีค่าอันดับ Percentile (ค่าเฉลี่ยร้อยละ) ต่ำกว่า 50 อันนี้เป็นภาพรวม"อ.เฉลิมพลกล่าวนักวิจัยด้านประชากรรายนี้กล่าวต่อไปโดยแยกสถิติในด้านต่าง ๆ ทั้ง 7 ด้านเริ่มกันที่ด้านเศรษฐกิจวัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัว (GNP) คราวนี้สิงคโปร์ (ร้อยละ 99) กับบรูไน (ร้อยละ 97) ทิ้งห่างอันดับ 3 อย่างมาเลเซีย (ร้อยละ 63) และอันดับ 4 อย่างไทยที่ได้อันดับเกือบ ๆ สอบตกคือร้อยละ 51 ขณะที่ลาวเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในอาเซียนเพราะมีคนยากจนที่มีรายได้น้อยกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 60 บาท) ต่อวันอันเป็นเกณฑ์ความยากจนสากลถึงร้อยละ 66 หรือ 2 ใน 3 ของประชากรส่วนกัมพูชามีคนยากจนอยู่ที่ร้อยละ 53.3 แต่เมื่อมาดูสถิติการกระจายรายได้พบว่ามาเลเซียกับไทยมีปัญหาด้านการกระจายรายได้ของประชากรค่อนข้างมากมาเลเซียที่มีคนจนเพียงร้อยละ 2.3 แต่มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรมากที่สุดคืออยู่ที่ร้อยละ 46.2 ส่วนไทยมีคนจนเพียงร้อยละ 4.6 มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรอยู่ที่ร้อยละ 40 เป็นอันดับ 3 ส่วนฟิลิปปินส์จัดว่าเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุดเพราะมีคนยากจนถึงร้อยละ 41.5 และมีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนโดยอยู่ที่ร้อยละ 43 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อวัดจากประชากรที่วันนี้ใกล้ทะลุ 100 ล้านคนเข้าไปแล้วในด้านอาหารหรือความอดอยากขาดแคลนอาหารใช้ดัชนีความมั่นคงทางอาหารโลก (GFSI) ปี 2555 ในภาพรวมมาเลเซีย (ร้อยละ 70) ติดตาม (ร้อยละ 58) และเวียดนาม (ร้อยละ 49) ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่มีความมั่นคงพอสมควรแต่ในทางกลับกันกัมพูชาพม่าและลาวเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงด้านการขาดแคลนอาหารค่อนข้างสูงทั้งนี้แม้อาเซียนจะเป็นภูมิภาคที่ผลิตอาหารได้มากแต่ก็มีผู้คนอีกมากเช่นกันยังไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพในปริมาณที่เหมาะสมได้ในด้านสุขภาพประเทศไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากเพราะมีประชากรเพียงร้อยละ 0.8 เท่านั้นที่ไม่มีหลักประกันการคุ้มครองทางสังคมซึ่งตรงนี้อ.เฉลิมพลมองว่าเป็นผลจากหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บาทรักษาทุกโรคโครงการ 30) ขณะที่ลาวกัมพูชาและฟิลิปปินส์ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีหลักประกันใด ๆ โดยลาวนั้นมีประชากรที่ไม่ได้รับหลักประกันคุ้มครองใด ๆ สูงที่สุดร้อยละ 98.3 กัมพูชารองลงมาร้อยละ 96.8 และฟิลิปปินส์เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงอันดับ 3 ร้อยละ 92.5 ที่น่าสนใจคือประเทศที่มีเศรษฐกิจดีอย่างมาเลเซียกลับมีประชากรที่ไม่มีหลักประกันใด ๆ คุ้มครองมากถึงร้อยละ 85ในด้านความมั่นคงส่วนบุคคลไรประเทศไทยครองแชมป์การตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงที่สุดในอาเซียนอยู่ที่ 38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคนทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างมาเลเซียอยู่ที่ 25 คนต่อประชากร 1 แสนคนและอันดับ 3 เวียดนามอันเป็นชาติที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้จักรยานยนต์เหมือนบ้านเราอยู่ที่ 24.7 คนต่อประชากร 1 แสนคนแน่นอนว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนน้อยที่สุดอยู่ที่ 5.1 คนต่อประชากร 1 แสนคนความมั่นคงส่วนบุคคลอีกประการหนึ่งคือสถิติการเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมพบว่าพม่ามีอัตราการตายจากเหตุนี้มากที่สุดอยู่ที่ 10.7 คนต่อประชากร 1 แสนคนอินโดนีเซียตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 8.1 คนต่อประชากร 1 แสนคนฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับ 3 อัตราการตายจากเหตุฆาตกรรมอยู่ที่ 5.4 คนต่อประชากร 1 แสนคนส่วนไทยตามมาติด ๆ เป็นอันดับ 4 อยู่ที่ 4.8 คนต่อประชากร 1 แสนคนและแน่นอนว่าสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีเหตุฆาตกรรมต่ำที่สุดเพราะมีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเพียง 0.3 คนเท่านั้นในด้านชุมชนอ้างอิงดัชนีความสงบสุขโลก (GPI) ปี 2555 มาเลเซียถือเป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในอาเซียนอยู่ที่ร้อยละ 88 สิงคโปร์รองลงมาอยู่ที่ร้อยละ 86 เวียดนามตามมาเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ร้อยละ 79 ขณะที่ประเทศไทยได้เพียงอันดับที่ 8 อยู่ที่ร้อยละ 21 เท่านั้นและพม่าเป็นประเทศที่มีความสงบสุขอยู่ที่ร้อยละ 13 ถือว่าน้อยที่สุดในภูมิภาคในด้านสิทธิและการเมืองอ.เฉลิมพลใช้ดัชนีความไม่เท่าเทียมทางเพศ (ชาย-หญิง) ที่หมายถึงทั้งด้านสุขภาพการทำงานการศึกษาและการเมืองพบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเสมอภาคทางเพศมากที่สุดร้อยละ 92 ตามมาด้วยมาเลเซียร้อยละ 72 เวียดนามอยู่ในอันดับ 3 ร้อยละ 68 และไทยเป็นอันดับ 4 อยู่ที่ร้อยละ 56 ขณะที่อินโดนีเซียนั
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
อ.เฉลิมพล กล่าวว่า สถิติความมั่นคงของมนุษย์จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อย 7 ประการ ตามเกณฑ์ของ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประกอบด้วย 1.เศรษฐกิจ 2.สิ่งแวดล้อม 3.อาหาร 4.สุขภาพ 5.ความมั่นคงส่วนบุคคล 6.ชุมชน และ 7.การเมือง แล้วก็พบว่าแต่ละประเทศต่างก็มีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป แม้กระทั่งประเทศที่พัฒนาแล้วในระดับโลกอย่างสิงคโปร์ ก็ยังมีปัญหาในบางด้านเช่นกัน ทั้งนี้สถิติทั้งหมดจะใช้เกณฑ์ร้อยละ (0-100) ในการให้คะแนน เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย

โดยความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวม (HSI) ข้อมูลทั้งหมด 232 ประเทศ สรุปในปี 2554 สิงคโปร์ ครองแชมป์แบบนอนมา อยู่ที่ร้อยละ 80 ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างบรูไน ที่ได้ร้อยละ 61 มาเลเซีย มาเป็นอันดับ 3 ร้อยละ 58 สูสีกับ ไทย ที่อยู่อันดับ 4 ร้อยละ 56 ขณะที่ กัมพูชา เป็นประเทศอาเซียนที่มีความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวมต่ำที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 16 เท่านั้น

เกณฑ์ต่อมา วัดกันด้วยตัวชี้วัดด้านการพัฒนาคน (HDI) ที่มีข้อมูลทั้งหมด 187 ประเทศสรุปในปี 2555 เช่นเดียวกัน สิงคโปร์ ยังเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาศักยภาพคนได้สูงสุด อยู่ที่ร้อยละ 91 ตามมาด้วยบรูไนที่ได้ร้อยละ 84 มาเลเซียอันดับ 3 ได้ร้อยละ 66 และไทยยังคงเป็นอันดับ 4 แต่เมื่อดูคะแนนแล้ว สยามประเทศของเราได้เพียงร้อยละ 45 ถ้าพูดกันแบบภาษาบ้านๆ ย่อมแปลง่ายๆ ว่าไทยนั้น “สอบตก” ด้านความสามารถในการพัฒนาศักยภาพพลเมืองของตนนั่นเอง

“ความมั่นคงในภาพรวม หรือ Human Security Index จัดทำในปี 2554 จาก 232 ประเทศ ถ้าเราแบ่งประเทศที่มี Human Security สูง กับที่มี Human Security ต่ำลงมา เราพบว่า (ในอาเซียน) มีอยู่ 4 ประเทศที่อยู่ในครึ่งแรก คือค่อนข้างมีความมั่นคงสูง ประเทศแรกสูงที่สุดคือสิงคโปร์ ร้อยละ 80 ถือว่าสูง อีก 3 ประเทศเกาะกลุ่มกันอยู่ ก็คือบรูไน มาเลเซีย แล้วก็ไทย

ส่วน HDI หรือ Human Development Index 3 ประเทศแรก สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย มีระดับการพัฒนาคนที่ค่อนข้างสูง อยู่ในร้อยละที่ 91 84 และ 66 ตามมาด้วยประเทศไทยในอันดับ 4 แต่เราพบว่า ดัชนีการพัฒนาคนของไทย ทิ้งห่างจากมาเลเซียค่อนข้างสูง และมีค่าอันดับ Percentile (ค่าเฉลี่ยร้อยละ) ต่ำกว่า 50 อันนี้เป็นภาพรวม” อ.เฉลิมพล กล่าว

นักวิจัยด้านประชากรรายนี้ กล่าวต่อไปโดยแยกสถิติในด้านต่างๆ ทั้ง 7 ด้าน เริ่มกันที่ด้านเศรษฐกิจ วัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัว (GNP) คราวนี้สิงคโปร์ (ร้อยละ 99) กับบรูไน (ร้อยละ 97) ทิ้งห่างอันดับ 3 อย่างมาเลเซีย (ร้อยละ 63) และอันดับ 4 อย่างไทย ที่ได้อันดับเกือบๆ สอบตก คือร้อยละ 51 ขณะที่ ลาว เป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในอาเซียน เพราะมีคนยากจน ที่มีรายได้น้อยกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 60 บาท) ต่อวัน อันเป็นเกณฑ์ความยากจนสากล ถึงร้อยละ 66 หรือ 2 ใน 3 ของประชากร ส่วนกัมพูชามีคนยากจนอยู่ที่ร้อยละ 53.3

แต่เมื่อมาดูสถิติการกระจายรายได้ พบว่ามาเลเซียกับไทย มีปัญหาด้านการกระจายรายได้ของประชากรค่อนข้างมาก มาเลเซียที่มีคนจนเพียงร้อยละ 2.3 แต่มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรมากที่สุด คืออยู่ที่ร้อยละ 46.2 ส่วนไทยมีคนจนเพียงร้อยละ 4.6 มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรอยู่ที่ร้อยละ 40 เป็นอันดับ 3 ส่วน ฟิลิปปินส์ จัดว่าเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีคนยากจนถึงร้อยละ 41.5 และมีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากร เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยอยู่ที่ร้อยละ 43 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อวัดจากประชากรที่วันนี้ใกล้ทะลุ 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว

ในด้านอาหาร หรือความอดอยาก-ขาดแคลนอาหาร ใช้ดัชนีความมั่นคงทางอาหารโลก (GFSI) ปี 2555 ในภาพรวม มาเลเซีย (ร้อยละ 70) ไทย (ร้อยละ 58) และเวียดนาม (ร้อยละ 49) ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่มีความมั่นคงพอสมควร แต่ในทางกลับกัน กัมพูชา พม่าและลาว เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงด้านการขาดแคลนอาหารค่อนข้างสูง ทั้งนี้แม้อาเซียนจะเป็นภูมิภาคที่ผลิตอาหารได้มาก แต่ก็มีผู้คนอีกมากเช่นกันยังไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ ในปริมาณที่เหมาะสมได้

ในด้านสุขภาพ ประเทศไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เพราะมีประชากรเพียงร้อยละ 0.8 เท่านั้นที่ไม่มีหลักประกันการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งตรงนี้ อ.เฉลิมพล มองว่าเป็นผลจากหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค) ขณะที่ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีหลักประกันใดๆ โดยลาวนั้นมีประชากรที่ไม่ได้รับหลักประกันคุ้มครองใดๆ สูงที่สุด ร้อยละ 98.3 กัมพูชารองลงมาร้อยละ 96.8 และฟิลิปปินส์เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงอันดับ 3 ร้อยละ 92.5 ที่น่าสนใจคือประเทศที่มีเศรษฐกิจดีอย่างมาเลเซีย กลับมีประชากรที่ไม่มีหลักประกันใดๆ คุ้มครองมากถึงร้อยละ 85

ในด้านความมั่นคงส่วนบุคคล ประเทศไทย ครองแชมป์การตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน สูงที่สุดในอาเซียน อยู่ที่ 38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างมาเลเซีย อยู่ที่ 25 คนต่อประชากร 1 แสนคน และอันดับ 3 เวียดนาม อันเป็นชาติที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้จักรยานยนต์เหมือนบ้านเรา อยู่ที่ 24.7 คนต่อประชากร 1 แสนคน แน่นอนว่าสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนน้อยที่สุด อยู่ที่ 5.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน

ความมั่นคงส่วนบุคคลอีกประการหนึ่ง คือสถิติการเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรม พบว่าพม่ามีอัตราการตายจากเหตุนี้มากที่สุด อยู่ที่ 10.7 คนต่อประชากร 1 แสนคน อินโดนีเซียตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 8.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน ฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับ 3 อัตราการตายจากเหตุฆาตกรรมอยู่ที่ 5.4 คนต่อประชากร 1 แสนคน ส่วนไทยตามมาติดๆ เป็นอันดับ 4 อยู่ที่ 4.8 คนต่อประชากร 1 แสนคน และแน่นอนว่าสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีเหตุฆาตกรรมต่ำที่สุด เพราะมีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเพียง 0.3 คนเท่านั้น

ในด้านชุมชน อ้างอิงดัชนีความสงบสุขโลก (GPI) ปี 2555 มาเลเซียถือเป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในอาเซียน อยู่ที่ร้อยละ 88 สิงคโปร์รองลงมาอยู่ที่ร้อยละ 86 เวียดนามตามมาเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ร้อยละ 79 ขณะที่ประเทศไทยได้เพียงอันดับที่ 8 อยู่ที่ร้อยละ 21 เท่านั้น และพม่าเป็นประเทศที่มีความสงบสุขอยู่ที่ร้อยละ 13 ถือว่าน้อยที่สุดในภูมิภาค

ในด้านสิทธิและการเมือง อ.เฉลิมพล ใช้ดัชนีความไม่เท่าเทียมทางเพศ (ชาย-หญิง) ที่หมายถึงทั้งด้านสุขภาพ การทำงาน การศึกษาและการเมือง พบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเสมอภาคทางเพศมากที่สุด ร้อยละ 92 ตามมาด้วยมาเลเซีย ร้อยละ 72 เวียดนามอยู่ในอันดับ 3 ร้อยละ 68 และไทยเป็นอันดับ 4 อยู่ที่ร้อยละ 56 ขณะที่อินโดนีเซียนั
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Admiral เฉลิมพลกล่าวว่าสถิติความมั่นคงของมนุษย์จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อย 7 ประการตามเกณฑ์ของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ( UNDP ) ประกอบด้วยเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม 1 . 2 . 3 . อาหารสุขภาพความมั่นคงส่วนบุคคล 4 . 5 . 6 . ชุมชนและ 7การเมืองแล้วก็พบว่าแต่ละประเทศต่างก็มีปัญหาที่แตกต่างกันออกไปแม้กระทั่งประเทศที่พัฒนาแล้วในระดับโลกอย่างสิงคโปร์ก็ยังมีปัญหาในบางด้านเช่นกันทั้งนี้สถิติทั้งหมดจะใช้เกณฑ์ร้อยละ ( 0-100 ) ในการให้คะแนน
โดยความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวม ( HSI ) ข้อมูลทั้งหมด 232 ประเทศสรุปในปี 2554 สิงคโปร์ครองแชมป์แบบนอนมาอยู่ที่ร้อยละ 80 ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างบรูไนที่ได้ร้อยละ 61 มาเลเซียมาเป็นอันดับ 3 ร้อยละ 58 สูสีกับไทย4 ร้อยละ 56 ขณะที่กัมพูชาเป็นประเทศอาเซียนที่มีความมั่นคงของมนุษย์ในภาพรวมต่ำที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 16 เท่านั้น

เกณฑ์ต่อมาวัดกันด้วยตัวชี้วัดด้านการพัฒนาคน ( HDI ) ที่มีข้อมูลทั้งหมด 187 ประเทศสรุปในปี 2555 เช่นเดียวกันสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาศักยภาพคนได้สูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 91 ตามมาด้วยบรูไนที่ได้ร้อยละ 843 ได้ร้อยละ 66 และไทยยังคงเป็นอันดับ 4 แต่เมื่อดูคะแนนแล้วสยามประเทศของเราได้เพียงร้อยละ 45 ถ้าพูดกันแบบภาษาบ้านๆย่อมแปลง่ายๆว่าไทยนั้น " สอบตก " ด้านความสามารถในการพัฒนาศักยภาพพลเมืองของตนนั่นเอง

" ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์ความมั่นคงในภาพรวมค็อคจัดทำในปี 2554 จาก 232 ประเทศถ้าเราแบ่งประเทศที่มีความมั่นคงของมนุษย์สูงกับที่มีความมั่นคงของมนุษย์ต่ำลงมาเราพบว่า ( ในอาเซียน ) มีอยู่ 4 ประเทศที่อยู่ในครึ่งแรกคือค่อนข้างมีความมั่นคงสูงร้อยละ 80 ถือว่าสูงอีกประเทศเกาะกลุ่มกันอยู่ก็คือบรูไนมาเลเซียแล้วก็ไทย
3
ส่วน HDI ค็อคดัชนีการพัฒนามนุษย์ 3 ประเทศแรกสิงคโปร์บรูไนมาเลเซียมีระดับการพัฒนาคนที่ค่อนข้างสูงอยู่ในร้อยละที่ 91 84 และ 66 ตามมาด้วยประเทศไทยในอันดับ 4 แต่เราพบว่าดัชนีการพัฒนาคนของไทยและมีค่าอันดับไท ( ค่าเฉลี่ยร้อยละ ) ต่ำกว่า 50 อันนี้เป็นภาพรวม " Admiralเฉลิมพลกล่าว

นักวิจัยด้านประชากรรายนี้กล่าวต่อไปโดยแยกสถิติในด้านต่างๆทั้ง 7 ด้านเริ่มกันที่ด้านเศรษฐกิจวัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัว ( GNP ) คราวนี้สิงคโปร์ ( ร้อยละ 99 ) กับบรูไน ( ร้อยละ 97 ) ทิ้งห่างอันดับ 3( ร้อยละ 63 ) และอันดับ 4 อย่างไทยที่ได้อันดับเกือบๆสอบตกคือร้อยละ 51 ขณะที่ลาวเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในอาเซียนเพราะมีคนยากจนที่มีรายได้น้อยกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ ( ราว 60 บาท ) ต่อวันอันเป็นเกณฑ์ความยากจนสากล66 ค็อค 2 the 3 ของประชากรส่วนกัมพูชามีคนยากจนอยู่ที่ร้อยละ 533

แต่เมื่อมาดูสถิติการกระจายรายได้พบว่ามาเลเซียกับไทยมีปัญหาด้านการกระจายรายได้ของประชากรค่อนข้างมากมาเลเซียที่มีคนจนเพียงร้อยละ 2.3 แต่มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรมากที่สุดคืออยู่ที่ร้อยละ 462 ส่วนไทยมีคนจนเพียงร้อยละ 4.6 มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรอยู่ที่ร้อยละ 40 เป็นอันดับ 3 ส่วนฟิลิปปินส์จัดว่าเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุดเพราะมีคนยากจนถึงร้อยละ 41 .5 และมีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะของประชากรเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนโดยอยู่ที่ร้อยละ 43 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อวัดจากประชากรที่วันนี้ใกล้ทะลุ 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว

ในด้านอาหารหรือความอดอยาก - ขาดแคลนอาหารใช้ดัชนีความมั่นคงทางอาหารโลก ( gfsi ) . 2555 ในภาพรวมมาเลเซีย ( ร้อยละ 70 ) ไทย ( 58 ร้อยละ ) และเวียดนาม ( ร้อยละ 49 ) ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่มีความมั่นคงพอสมควรแต่ในทางกลับกันพม่าและลาวเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงด้านการขาดแคลนอาหารค่อนข้างสูงทั้งนี้แม้อาเซียนจะเป็นภูมิภาคที่ผลิตอาหารได้มากแต่ก็มีผู้คนอีกมากเช่นกันยังไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพในปริมาณที่เหมาะสมได้

ในด้านสุขภาพประเทศไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากเพราะมีประชากรเพียงร้อยละ 0.8 เท่านั้นที่ไม่มีหลักประกันการคุ้มครองทางสังคมซึ่งตรงนี้ Admiralเฉลิมพลมองว่าเป็นผลจากหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ( โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ) ขณะที่ลาวกัมพูชาและฟิลิปปินส์ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีหลักประกันใดๆโดยลาวนั้นมีประชากรที่ไม่ได้รับหลักประกันคุ้มครองใดๆสูงที่สุด98 .3 กัมพูชารองลงมาร้อยละ 96.8 และฟิลิปปินส์เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงอันดับ 3 ร้อยละ 92.5 ที่น่าสนใจคือประเทศที่มีเศรษฐกิจดีอย่างมาเลเซียกลับมีประชากรที่ไม่มีหลักประกันใดๆคุ้มครองมากถึงร้อยละ 85

ในด้านความมั่นคงส่วนบุคคลประเทศไทยครองแชมป์การตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงที่สุดในอาเซียนอยู่ที่ 381 คนต่อประชากร 1 แสนคนทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างมาเลเซีย 25 อยู่ที่คนต่อประชากร 1 แสนคนและอันดับ 3 เวียดนามอันเป็นชาติที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้จักรยานยนต์เหมือนบ้านเราอยู่ที่ 247 คนต่อประชากร 1 แสนคนแน่นอนว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนน้อยที่สุดอยู่ที่ 5.1 คนต่อประชากรแสนคน

1ความมั่นคงส่วนบุคคลอีกประการหนึ่งคือสถิติการเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมพบว่าพม่ามีอัตราการตายจากเหตุนี้มากที่สุดอยู่ที่ 10.7 คนต่อประชากร 1 แสนคนอินโดนีเซียตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 81 คนต่อประชากร 1 แสนคนฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับ 3 อัตราการตายจากเหตุฆาตกรรมอยู่ที่ 5.4 คนต่อประชากร 1 แสนคนส่วนไทยตามมาติดๆเป็นอันดับ 4 อยู่ที่ 48 คนต่อประชากร 1 แสนคนและแน่นอนว่าสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีเหตุฆาตกรรมต่ำที่สุดเพราะมีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเพียง 0.3 คนเท่านั้น

ในด้านชุมชนอ้างอิงดัชนีความสงบสุขโลก ( GPI ) . 2555 มาเลเซียถือเป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในอาเซียนอยู่ที่ร้อยละ 88 สิงคโปร์รองลงมาอยู่ที่ร้อยละ 86 เวียดนามตามมาเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ร้อยละ 798 อยู่ที่ร้อยละ 21 เท่านั้นและพม่าเป็นประเทศที่มีความสงบสุขอยู่ที่ร้อยละ 13 ถือว่าน้อยที่สุดในภูมิภาค

ในด้านสิทธิและการเมือง Admiralเฉลิมพลใช้ดัชนีความไม่เท่าเทียมทางเพศ ( ชาย - หญิง ) ที่หมายถึงทั้งด้านสุขภาพการทำงานการศึกษาและการเมืองพบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเสมอภาคทางเพศมากที่สุดร้อยละ 92 ตามมาด้วยมาเลเซียร้อยละ 723 ร้อยละ 68 และไทยเป็นอันดับ 4 อยู่ที่ร้อยละ 56 ขณะที่อินโดนีเซียนั
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: