สารประกอบคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC)

สารประกอบคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC)

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ฟรีออน" (Freon) มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ มีแหล่งกำเนิดมาจากโรงงานอุตสาหกรรม และอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และสเปรย์ เป็นต้น

สาร CFC มีองค์ประกอบเป็นคลอรีน ฟลูออไรด์ และโบรมีน ซึ่งมีความสามารถในการทำลายโอโซน ตามปกติสาร CFC ในบริเวณพื้นผิวโลกจะทำปฏิกิริยากับสารอื่น แต่เมื่อมันดูดกลืนรังสีอุลตราไวโอเล็ตในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ โมเลกุลจะแตกตัวให้คลอรีนอะตอมเดี่ยว และทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซน เกิดก๊าซคลอรีนโมโนออกไซด์ (ClO) และก๊าซออกซิเจน หากคลอรีนจำนวน 1 อะตอม ทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้เพียงครั้งเดียว ก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ทว่าคลอรีน 1 อะตอม สามารถทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้นับพันครั้ง เนื่องจากเมื่อคลอรีนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนอะตอมเดี่ยว แล้วเกิดคลอรีนอะตอมเดี่ยวขึ้นอีกครั้ง ปฏิกิริยาลูกโซ่เช่นนี้จึงเป็นการทำลายโอโซนอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันแม้ว่าจะมีการจำกัดการใช้ก๊าซประเภทนี้ให้น้อยลง 40% เมื่อเทียบกับ 10 กว่าปีก่อน แต่ปริมาณสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอนที่ยังคงสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีพลังงานความร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมาณ 0.28 วัตต์ต่อตารางเมตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Compound skin full of romance car Bon (CFC) Or also called "fre" (Freon) does not occur naturally, but human artifacts. Born from industrial plants and equipment used in daily life, such as refrigerators. Air conditioners and spray, etc. สาร CFC มีองค์ประกอบเป็นคลอรีน ฟลูออไรด์ และโบรมีน ซึ่งมีความสามารถในการทำลายโอโซน ตามปกติสาร CFC ในบริเวณพื้นผิวโลกจะทำปฏิกิริยากับสารอื่น แต่เมื่อมันดูดกลืนรังสีอุลตราไวโอเล็ตในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ โมเลกุลจะแตกตัวให้คลอรีนอะตอมเดี่ยว และทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซน เกิดก๊าซคลอรีนโมโนออกไซด์ (ClO) และก๊าซออกซิเจน หากคลอรีนจำนวน 1 อะตอม ทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้เพียงครั้งเดียว ก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ทว่าคลอรีน 1 อะตอม สามารถทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้นับพันครั้ง เนื่องจากเมื่อคลอรีนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนอะตอมเดี่ยว แล้วเกิดคลอรีนอะตอมเดี่ยวขึ้นอีกครั้ง ปฏิกิริยาลูกโซ่เช่นนี้จึงเป็นการทำลายโอโซนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแม้ว่าจะมีการจำกัดการใช้ก๊าซประเภทนี้ให้น้อยลง 40% เมื่อเทียบกับ 10 กว่าปีก่อน แต่ปริมาณสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอนที่ยังคงสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีพลังงานความร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมาณ 0.28 วัตต์ต่อตารางเมตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Chloro fluoro carbon compounds. (CFC) , also known as "Freon" (Freon) do not occur naturally. But as a human invention A source from the industry. And equipment used in everyday items such as refrigerators, air conditioners and sprays and so on. CFC, are composed of chlorine, fluoride and bromine, which are capable of destroying ozone in the normal-CFC in the earth's surface is made. react with other substances But when it absorbs ultraviolet radiation in the atmosphere, stratosphere lasting. Molecules are broken down to a single chlorine atom. And reacts with ozone gas Mono chlorine dioxide gas (ClO) and oxygen. If one Atomic chlorine destroys ozone molecules have a single one. Would not be a problem But one chlorine atom can destroy thousands of ozone molecules first time. When chlorine dioxide reacts with oxygen atoms mono single. Then a single chlorine atom again. Chain reaction like this, thus damaging the ozone layer continues. Today, although there is no limit to the type of gas that is less by 40% compared with 10 years ago, but the amount of chloro fluoro carbon continues to accumulate in. atmosphere There are also a source of thermal energy deposited on the surface of the Earth is about 0.28 watts per square meter.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สารประกอบคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ( CFC )

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า " ฟรีออน " ( Freon ) มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์มีแหล่งกำเนิดมาจากโรงงานอุตสาหกรรมและอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเช่นตู้เย็นเครื่องปรับอากาศเป็นต้น

สาร CFC มีองค์ประกอบเป็นคลอรีนฟลูออไรด์และโบรมีนซึ่งมีความสามารถในการทำลายโอโซนตามปกติสาร CFC ในบริเวณพื้นผิวโลกจะทำปฏิกิริยากับสารอื่นแต่เมื่อมันดูดกลืนรังสีอุลตราไวโอเล็ตในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์และทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซนเกิดก๊าซคลอรีนโมโนออกไซด์ ( เชื้อ ) และก๊าซออกซิเจนหากคลอรีนจำนวน 1 อะตอมทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุลได้เพียงครั้งเดียวก็คงไม่เป็นปัญหาแต่ทว่าคลอรีน 1 อะตอมสามารถทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุลเนื่องจากเมื่อคลอรีนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนอะตอมเดี่ยวแล้วเกิดคลอรีนอะตอมเดี่ยวขึ้นอีกครั้งปฏิกิริยาลูกโซ่เช่นนี้จึงเป็นการทำลายโอโซนอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันแม้ว่าจะมีการจำกัดการใช้ก๊าซประเภทนี้ให้น้อยลง 40% เมื่อเทียบกับ 10 กว่าปีก่อนแต่ปริมาณสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอนที่ยังคงสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ028 วัตต์ต่อตารางเมตร