Due to the low rate of milk consump

Due to the low rate of milk consumption in Thai people compared to the world, the Royal Thai government campaigned school milk in 1992 to encourage primary students to drink milk. Hence, the milk plants in Thailand have served milk to schools and other channels for decades. This research studied the production processes of a pasteurized milk manufacturer, which is a small and medium sized milk plant in the central region of Thailand. Our objective was to improve the productivity and efficiency in a line process of a case study. First, we analysed the production process based on work-study principles. The results showed that the current production efficiency was lower than 70%. It implied that there were waiting times, which are considered wasteful and result in high production costs. Next, the bottleneck operation was identified at the packing process, which depended on machine capacity. Then, combinations of work-study, line balancing and continuous improvement concepts were implemented to improve the efficiency. The normal and standard time in the production processes were determined. Then, we proposed three improvement models. The first method was to reduce unnecessary resources; the second was to increase the efficiency; and the third implemented ECRS concepts. Compared to the current line efficiency of 65.51%, the line efficiency of the three methods was increased to 68.97%, 88.33% and 71.56%, respectively. The number of workers reduced in the three methods were six, four and six, respectively. In addition, we compared the total cost reduction from labour and energy cost saving. The result showed that the total cost reduced per year was 570,283 baht, 437,400 baht and 561,600 baht, respectively. In summary, the productivity of workers and machines can be increased by the proposed methods. Then, the company could provide an incentive for workers to improve productivity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เนื่องจากอัตราต่ำสุดของปริมาณนมในคนไทยเมื่อเทียบกับโลก รัฐบาลไทยรอยัลรณรงค์นมโรงเรียนในปี 1992 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนหลักการดื่มนม ดังนั้น โรงนมในประเทศไทยได้รับนมโรงเรียนและช่องอื่น ๆ สำหรับทศวรรษที่ผ่านมา งานวิจัยนี้ศึกษากระบวนการผลิตของผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ซึ่งเป็นโรงงานนมขนาดเล็ก และขนาดกลางในภาคกลางของประเทศไทย วัตถุประสงค์ของเราคือการ ปรับปรุงประสิทธิผลและประสิทธิภาพในกระบวนการรายการของกรณีศึกษา ครั้งแรก เราสามารถ analysed กระบวนการผลิตโดยใช้หลักการ work-study ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพการผลิตปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 70% โดยนัยว่า มีเวลารอ ซึ่งถือว่า wasteful และส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูง ถัดไป การติดขัดก็ระบุไว้ที่บรรจุการ ซึ่งขึ้นอยู่กับจักร แล้ว work-study บรรทัดดุล และแนวคิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ปกติและเวลามาตรฐานในกระบวนการผลิตถูกกำหนด เรานำเสนอรุ่นปรับปรุงที่สาม วิธีแรกคือการ ลดทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ที่สองคือการ เพิ่มประสิทธิภาพ และที่สามดำเนินการแนวคิด ECRS เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพบรรทัดปัจจุบัน 65.51% บรรทัดประสิทธิภาพของวิธีการสามขึ้นไป 68.97%, 88.33% และ 71.56% ตามลำดับ จำนวนแรงงานที่ลดลงในสามวิธี 6, 4 และ 6 ตามลำดับ นอกจากนี้ เราเปรียบเทียบการลดต้นทุนรวมจากแรงงานและประหยัดพลังงานต้นทุน ผลพบว่า ต้นทุนรวมที่ลดลงต่อปี 570,283 บาท 437,400 บาท และ 561,600 บาท ตามลำดับ ในสรุป สามารถเพิ่มผลิตภาพของแรงงานและเครื่องจักร โดยวิธีการนำเสนอ แล้ว บริษัทไม่สามารถให้สิ่งจูงใจสำหรับผู้ปฏิบัติงานการเพิ่มผลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนื่องจากอัตราที่ต่ำของการบริโภคนมของคนไทยเมื่อเทียบกับโลกที่รัฐบาลไทยรณรงค์นมโรงเรียนในปี 1992 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนระดับประถมศึกษาที่จะดื่มนม ดังนั้นพืชนมในประเทศไทยได้รับนมให้กับโรงเรียนและช่องทางอื่น ๆ มานานหลายทศวรรษ งานวิจัยนี้ศึกษากระบวนการผลิตของผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ซึ่งเป็นพืชนมขนาดเล็กและขนาดกลางในภาคกลางของประเทศไทย วัตถุประสงค์ของเราคือการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและประสิทธิภาพในขั้นตอนสายของกรณีศึกษาที่ ครั้งแรกที่เราวิเคราะห์กระบวนการผลิตบนพื้นฐานของหลักการการศึกษาการทำงาน ผลการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบันต่ำกว่า 70% มันส่อให้เห็นว่ามีการรอคอยครั้งซึ่งถือว่าสิ้นเปลืองและส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูง ถัดไปในการดำเนินงานคอขวดที่ถูกระบุในขั้นตอนการบรรจุซึ่งขึ้นอยู่กับความจุของเครื่อง จากนั้นการรวมกันของการทำงานการศึกษาสมดุลสายและแนวคิดที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพ เวลาปกติและมาตรฐานในกระบวนการผลิตได้รับการพิจารณา จากนั้นเราจะนำเสนอสามรุ่นปรับปรุง วิธีแรกคือการลดทรัพยากรที่ไม่จำเป็น; ที่สองคือการเพิ่มประสิทธิภาพ; และคนที่สามดำเนินการแนวคิด ECRS เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของสายปัจจุบันของ 65.51% ประสิทธิภาพของสายในสามวิธีการที่เพิ่มขึ้นเป็น 68.97%, 88.33% และ 71.56% ตามลำดับ จำนวนคนงานที่ลดลงในช่วงสามวิธีการที่หกสี่หกตามลำดับ นอกจากนี้เราเมื่อเทียบกับการลดลงของค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากแรงงานและการประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงาน ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายรวมลดลงต่อปีเป็น 570,283 บาท 437,400 บาทและ 561,600 บาทตามลำดับ โดยสรุปการผลิตของคนงานและเครื่องจักรสามารถเพิ่มขึ้นโดยวิธีการที่นำเสนอ จากนั้น บริษัท จะให้แรงจูงใจสำหรับคนงานในการปรับปรุงผลผลิต