Ineffective ListeningWhy are people

Ineffective Listening

Why are people such poor listeners when it is such an important skill in developing and maintaining relationships? First, there is the habit of "tuning out," which involves the processes of selective attention and selective perception. You hear what you want to hear and screen out what you don't. An example is:
Wife: "I feel sorry for Janet. I went next door to see her this afternoon and...well, you know I told you what happened to her last week."
Husband, not looking up, busy eating: "Did you? What happened, I don't remember."
Or, on a Friday afternoon: Employer: "Do you have that report written yet? I said in our meeting on Monday that it must be mailed by 5 o'clock today."
Employee: "Oh, oh, I don't remember you saying anything about that report. I must have forgotten."
Both parties are guilty of selective listening, because each had tuned the other out and discounted the importance of the message. Because neither was listening to what the other was saying, they missed out on an opportunity to strengthen their relationship. If the husband had listened to his wife's anxieties and concern about Janet's problems, and if the employee had recognized the importance of having the report completed, both would have had a better understanding of each other's position. Since it is estimated that the average person spends 45 percent of his waking hours listening to someone, no wonder we tune out what we don't want or don't need to hear.
The second reason for poor listening is physiological; that is, people listen about five to ten times as fast as they speak. In the time it takes the speaker to say 100 words, the listener has the capacity to hear 500 to 1,000 words. So, while you are talking, the other person is listening with only a fraction of the capacity for attention. The rest of that person's mind impatiently used the extra capacity for other things--to plan the next day's work; to fantasize about their future; to think of an excuse for not being home for dinner on time; to reminisce about a vacation, etc. One of the keys to effective listening is to use this excess mind capacity to constantly analyze what is being said, instead of daydreaming or letting your mind wander.
The third reason is the sheer impact of the stimuli from the outside world. People are bombarded with literally thousands of different messages each hour, and the volume of "noise" in their communication network makes effective listening difficult. According to experts, the average person speaks 12,500 words per day, and if that is multiplied by five or more persons in their immediate work or family environment, it is no wonder people get tuned out.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟังผลเหตุใดคนฟังดังกล่าวจนเมื่อเรื่องดังกล่าวเป็นทักษะสำคัญในการพัฒนา และรักษาความสัมพันธ์ ครั้งแรก มีนิสัยของ "ปรับออก ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการของการใช้ความสนใจและเลือกรับรู้ คุณได้ยินสิ่งที่คุณต้องการได้ยิน และคัดเลือกสิ่งที่คุณไม่ ตัวอย่างคือ:ภรรยา: "ฉันรู้สึกเสียใจสำหรับเจ ก็เข้าไปดูเธอบ่ายนี้ และ... คุณรู้จักฉันบอกคุณสิ่งที่เกิดขึ้นกับสัปดาห์สุดท้ายของเธอ"สามี มองไม่ขึ้น รับประทานอาหารว่าง: "ไม่คุณ สิ่งที่เกิดขึ้น ฉันจำ"หรือ ใน บ่ายวันศุกร์: นาย: "มีรายงานที่เขียนได้ไหม ฉันกล่าวในการประชุมในวันจันทร์ที่จะต้องถูกส่ง โดย 5 โมงวันนี้"พนักงาน: "โอ้ โอ้ ฉันจำคุณไม่พูดอะไรเกี่ยวกับรายงานนั้น ฉันต้องลืม"ทั้งสองฝ่ายจะใช้ฟัง เนื่องจากมีปรับอื่น ๆ ออก และส่วนลดความสำคัญของข้อความ เพราะไม่ได้ฟังอะไรที่อื่นถูกว่า พวกเขาพลาดในโอกาสเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ ถ้าสามีได้ฟังภรรยาของเขาวิตกกังวลในช่วงและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของเจเน็ต และถ้าพนักงานได้รับรู้ความสำคัญของรายงานที่เสร็จสมบูรณ์ ทั้งสองจะมีการเข้าใจตำแหน่งของผู้อื่น เนื่องจากคาดว่า คนโดยเฉลี่ยใช้ 45 เปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงตื่นเขาฟังคน พบเราปรับอะไรที่เราไม่ต้องการ หรือไม่ต้องได้ยินเหตุผลที่สองฟังจนเป็นสรีรวิทยา นั่นคือ คนฟังประมาณห้าถึงสิบครั้งเป็นอย่างที่เขาพูด ในเวลาใช้ลำโพง 100 คำพูด การฟังมีกำลังการผลิต 500-1000 คำฟัง ดังนั้น มาพูด คนอื่น ๆ ได้ฟัง มีเพียงเศษเสี้ยวของกำลังการผลิตสำหรับความสนใจ ของจิตใจของบุคคลที่ใช้กำลังเสริมสำหรับสิ่งอื่น ๆ - การวางแผนงานของวันถัดไป impatiently การ fantasize เกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา จะคิดว่า ข้อแก้ตัวบ้านสำหรับอาหารเย็นเวลา พลังเกี่ยวกับวันหยุด ฯลฯ คีย์ฟังผลอย่างใดอย่างหนึ่งคือการใช้กำลังใจส่วนเกินนี้อย่างต่อเนื่องวิเคราะห์เป็นการพูด แทน daydreaming หรือให้จิตที่เร่เหตุผลที่สามคือ ผลกระทบที่แท้จริงของสิ่งเร้าจากภายนอก คนจะ bombarded กับพันของข้อความแต่ละชั่วโมง และระดับเสียงของ "เสียง" ที่อยู่ในเครือข่ายสื่อสารทำให้มีประสิทธิภาพฟังยาก ตามผู้เชี่ยวชาญ คนเฉลี่ยพูดคำ 12500 ต่อวัน และถ้าที่คูณ ด้วยห้าบุคคลในการทำงานทันทีหรือสภาพแวดล้อมครอบครัวของพวกเขา จึงได้รับการปรับคนออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟังไม่ได้ผลทำไมเป็นคนที่ฟังไม่ดีเช่นเมื่อมันเป็นเช่นทักษะที่สำคัญในการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์? แรกมีนิสัยของ "จูนออกมา" ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการของความสนใจและการรับรู้การคัดเลือกคัดเลือก คุณจะได้ยินสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยินและหน้าจอออกสิ่งที่คุณทำไม่ได้ ตัวอย่างคือ: ภรรยา: "ผมรู้สึกเสียใจสำหรับเจเน็ตผมไปประตูถัดไปที่จะเห็นเธอและช่วงบ่ายวันนี้ ... ดีที่คุณรู้ว่าฉันบอกคุณสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของเธอ.." สามีไม่ได้มองขึ้นการรับประทานอาหารไม่ว่าง: "คุณไม่เกิดอะไรขึ้นผมจำไม่ได้?." หรือในช่วงบ่ายวันศุกร์: ผู้ว่าจ้าง:? "คุณมีรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ฉันกล่าวว่าในการประชุมของเราในวันจันทร์ที่จะต้องมีการจัดส่งทางไปรษณีย์โดยวันนี้ 05:00 . "พนักงาน:" โอ้ผมจำไม่ได้ว่าคุณพูดอะไรเกี่ยวกับรายงานที่ฉันจะต้องลืม ".. ทั้งสองฝ่ายเป็นความผิดของการฟังการคัดเลือกเพราะแต่ละที่ได้ติดตามความคืบหน้าอื่น ๆ ออกไปและลดความสำคัญของข้อความ เพราะไม่เป็นฟังสิ่งที่คนอื่น ๆ บอกว่าพวกเขาพลาดโอกาสที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ของพวกเขา ถ้าสามีได้ฟังความวิตกกังวลของภรรยาของเขาและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของเจเน็ตและหากพนักงานได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีรายงานเสร็จทั้งสองจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้นของตำแหน่งของแต่ละคน . เพราะมันเป็นที่คาดกันว่าคนเฉลี่ยใช้เวลาร้อยละ 45 ของเวลาตื่นของเขาฟังกับคนแปลกใจที่เราไม่ปรับออกสิ่งที่เราไม่ต้องการหรือไม่ต้องการที่จะได้ยินเหตุผลที่สองสำหรับการฟังที่ไม่ดีคือทางสรีรวิทยา ที่เป็นคนฟังประมาณห้าถึงสิบครั้งเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาพูด ในเวลาที่ใช้ลำโพงที่จะบอกว่า 100 คำที่ฟังมีความสามารถที่จะได้ยิน 500 ถึง 1,000 คำ ดังนั้นในขณะที่คุณกำลังพูดถึงคนอื่น ๆ ฟังมีเพียงเศษเสี้ยวของความสามารถในการให้ความสนใจ ส่วนที่เหลือของจิตใจของคนที่อดทนใช้ความสามารถพิเศษสำหรับสิ่งอื่น ๆ - การวางแผนการทำงานในวันถัดไป; จะเพ้อฝันเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา; ที่จะคิดว่าข้ออ้างที่ไม่เป็นบ้านสำหรับอาหารค่ำในเวลา; เพื่อระลึกถึงเกี่ยวกับวันหยุด ฯลฯ หนึ่งในกุญแจที่จะฟังที่มีประสิทธิภาพคือการใช้กำลังการผลิตส่วนเกินใจนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อวิเคราะห์สิ่งที่ถูกกล่าวแทนการฝันกลางวันหรือจะปล่อยให้ใจของคุณเดิน. เหตุผลที่สามคือผลกระทบที่แท้จริงของสิ่งเร้าจาก โลกภายนอก คนจะถูกถล่มด้วยนับพันตัวอักษรของข้อความที่แตกต่างกันในแต่ละชั่วโมงและปริมาณของ "เสียง" ในเครือข่ายการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของพวกเขาทำให้ฟังยาก ตามที่ผู้เชี่ยวชาญคนเฉลี่ย 12,500 คำพูดต่อวันและหากที่จะถูกคูณด้วยห้าคนขึ้นไปในการทำงานของพวกเขาทันทีหรือสภาพแวดล้อมทางครอบครัวก็ไม่น่าแปลกใจที่คนที่ได้รับการปรับออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟัง

ทำไมคนอยากจนผู้ฟังเมื่อมีทักษะที่สำคัญในการพัฒนา และรักษาความสัมพันธ์ไม่ได้ผล ? อย่างแรก มันเป็นนิสัยของ " ปรับออก " ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการของการเลือก เลือก ความสนใจและการรับรู้ คุณได้ยินสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยินและหน้าจอออก สิ่ง ที่ คุณ ไม่ ตัวอย่างคือ :
ภรรยา : " ฉันเสียใจกับเจเน็ตฉันไปที่ประตูถัดไปที่เห็นเธอบ่ายนี้ . . . . . . . เอ่อ คุณก็รู้ ผมบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธออาทิตย์ที่แล้ว "
, สามีไม่เงยหน้าขึ้นมอง กิน : " คุณ ? เกิดอะไรขึ้น ผมจำไม่ได้ "
หรือในบ่ายวันศุกร์ : นายจ้าง : " คุณมีรายงานเขียนหรือยัง ที่ผมกล่าวในการประชุมของเราในวันจันทร์ที่ต้องส่งภายใน 5 โมงวันนี้ . "
พนักงาน : " โอ้ , โอ้ผมจำไม่ได้ว่าพูดอะไรบ้าง เกี่ยวกับรายงานที่ว่า ฉันต้องลืม "
ทั้งสองฝ่ายมีความผิด ฟัง เลือกได้ เพราะแต่ละคนมีปรับอื่น ๆและความสำคัญของข้อความที่ลด เพราะไม่ได้ฟังสิ่งที่คนอื่นพูด พวกเขาพลาดออก on โอกาสกระชับความสัมพันธ์ของพวกเขาถ้าสามีฟังเกี่ยวกับภรรยาของเขา anxieties และเจเน็ตเป็นปัญหา และถ้าพนักงานได้รับการยอมรับความสำคัญของการมีรายงานเสร็จ ทั้งคู่ก็จะได้มีความเข้าใจที่ดีขึ้นของแต่ละอื่น ๆ ของตำแหน่ง เพราะมันคือประมาณว่าคนทั่วไปใช้เวลา 45 เปอร์เซ็นต์ของเวลาตื่นของเขาฟังใครไม่น่าแปลกที่เราปรับแต่งสิ่งที่เราไม่ต้องการ หรือ ไม่อยากฟัง .
เหตุผลที่สองสำหรับการฟังไม่ดีเป็นทางสรีรวิทยา ; นั่นคือ คนฟังประมาณห้าถึงสิบครั้งเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาพูด ในเวลาที่ใช้ลำโพงพูด 100 คำ ผู้ฟังมีความสามารถที่จะได้ยิน 500 ถึง 1000 คำ ดังนั้น ในขณะที่คุณกำลังพูดคนอื่นฟัง มีเพียงเศษเสี้ยวของความจุ เพื่อเรียกร้องความสนใจ ส่วนที่เหลือของจิตใจของคนที่ใจร้อนใช้เพิ่มความจุสำหรับสิ่งอื่น ๆ - วางแผนงานในวันถัดไป เพื่อคิดเกี่ยวกับอนาคตของเขา คิดว่าข้ออ้างไม่กลับบ้านเย็นเวลา เรื่องอดีต พักร้อน ฯลฯหนึ่งในคีย์เพื่อการฟังที่มีประสิทธิภาพคือการใช้จิตใจนี้เกินความสามารถอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์สิ่งที่ถูกกล่าว แทนที่จะฝันกลางวันหรือปล่อยให้ตัวเองใจลอย
เหตุผลที่สามคือเลี่ยงผลกระทบของสิ่งเร้าจากภายนอก คนยิงกับพันตัวอักษรของข้อความที่แตกต่างกันในแต่ละชั่วโมงและปริมาณของ " เสียง " ในเครือข่ายการสื่อสารของพวกเขาให้มีประสิทธิภาพ ฟังยาก ตามที่ผู้เชี่ยวชาญของคนทั่วไปพูด 500 คำ ต่อวัน และถ้าเป็นคูณด้วย 5 คนขึ้นไปในงานของตนทันที หรือสภาพแวดล้อมในครอบครัว ก็ไม่มีคนสงสัยว่าเอาหูทวนลม