The idea for the trilogy was based

The idea for the trilogy was based in part on the myth of Theseus and the Minotaur, in which each year seven boys and seven girls from Athens are sent to Crete as tribute to that land to be devoured by the Minotaur, a cycle that continues until Theseus kills the Minotaur. Collins, who heard the story when she was eight years old, was unsettled by its ruthlessness and cruelty. Collins said, "In her own way, Katniss is a futuristic Theseus."[2] Collins also characterized the novels with the fearful sensations she experienced when her father was fighting in the Vietnam War.[2]

In the novels, Katniss is extensively knowledgeable in foraging, wildlife, hunting, and survival techniques. Collins knew some of this background from her father, who grew up in the Great Depression and was forced to hunt to augment a scanty food supply, although Collins saw her father bring home food from the wild during her own childhood as well. In addition, Collins researched the subject using a large stack of wilderness survival guidebooks.[3]

Katniss and the other tributes are, in their time before participating in their Hunger Games, compelled to compete for the hearts of sponsors who donate money that can be used to buy vital supplies for them when they are in the arena. The concept of how the audiences carry nearly as much force as actual characters is based on how, in reality television and in the Roman games, the audience can both "respond with great enthusiasm or play a role in your elimination," as Collins said.[3]

Name

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความคิดสำหรับตอนจบถูกอ้างอิงตำนานของ Theseus มิโนทอร์ ซึ่งแต่ละปีเจ็ดชายและหญิงเจ็ดจากเอเธนส์จะถูกส่งไปครีตเป็นบรรณาการให้ที่ดินที่จะถูกกลืน โดยมิโนทอร์ วงจรที่ดำเนินไปจนถึง Theseus ฆ่ามิโนทอร์ คอลลินส์ ได้ยินเรื่องราวเมื่อเธออายุ 8 ปี ถูกตมูล ruthlessness และความโหดร้าย คอลลินส์กล่าวว่า, "ในวิธีของเธอเอง Katniss Theseus อนาคต" [2] คอลลินส์ยังลักษณะนิยาย ด้วยความรู้สึกกลัวที่เธอมีประสบการณ์เมื่อพ่อของเธอได้ต่อสู้ในสงครามเวียดนาม [2]ในนวนิยาย Katniss มีความรู้อย่างกว้างขวางในการจับเหยื่อ สัตว์ป่า ล่าสัตว์ และเทคนิคการอยู่รอด คอลลินส์รู้บางส่วนของพื้นหลังนี้จากพ่อของเธอ ที่เติบโตในภาวะซึมเศร้าที่ดี และถูกบังคับให้ล่าเพื่อเพิ่มอุปทานอาหาร scanty แม้ว่าคอลลินส์เห็นพ่อของเธอนำบ้านจากป่าในช่วงวัยเด็กของเธอเองด้วย นอกจากนี้ คอลลินส์วิจัยวัตถุใช้ใหญ่กองคู่มือการอยู่รอดของป่า [3]Katniss และ tributes อื่น ๆ ในเวลาก่อนที่จะเข้าร่วมในเกมของพวกเขาหิว บังคับการแข่งขันจิตของผู้บริจาคเงินที่ใช้ซื้ออุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับพวกเขาเมื่อพวกเขาในเวที สนับสนุน แนวคิดของวิธีดำเนินการกลุ่มเป้าหมายแรงมากเป็นตัวละครที่แท้จริงตามวิธี ในโทรทัศน์ความเป็นจริง และ ในเกมโรมัน ผู้เข้าชมสามารถเกือบ ทั้ง "ตอบสนอง ด้วยความกระตือรือร้นที่ดีหรือมีบทบาทในการกำจัดของคุณ คอลลินส์กล่าว [3]Name

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความคิดสำหรับไตรภาคที่ได้รับอยู่ในส่วนที่เกี่ยวกับตำนานของเซอุสและ Minotaur ซึ่งในแต่ละปีเจ็ดเด็กชายและเด็กหญิงเจ็ดจากเอเธนส์จะถูกส่งไปยังเกาะครีตเป็นเครื่องบรรณาการไปยังดินแดนที่ถูกเผาผลาญโดย Minotaur วงจรที่ยังคงจนกว่าจะมีการ เธเซอุสฆ่ามิโนทอร์ คอลลินที่ได้ยินเรื่องนี้เมื่อเธออายุได้แปดขวบถูกค้างเติ่งโดยเหี้ยมโหดและความโหดร้ายของมัน คอลลินกล่าวว่า "ในทางของเธอเอง Katniss เป็นนิยายเซอุส." [2] คอลลินนอกจากนี้ยังโดดเด่นในนวนิยายที่มีความรู้สึกกลัวเธอรู้สึกเมื่อพ่อของเธอกำลังต่อสู้ในสงครามเวียดนาม. [2] ในนิยาย Katniss เป็นอย่างกว้างขวาง ความรู้ในการจับเหยื่อเทคนิคสัตว์ป่าการล่าสัตว์และการอยู่รอด คอลลินรู้ว่าบางส่วนของพื้นหลังนี้จากพ่อของเธอที่เติบโตขึ้นมาในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและถูกบังคับให้ล่าเพื่อเพิ่มแหล่งอาหารไม่เพียงพอแม้ว่าคอลลินเห็นพ่อของเธอนำอาหารกลับบ้านจากป่าในช่วงวัยเด็กของเธอเองเช่นกัน นอกจากนี้คอลลินวิจัยเรื่องโดยใช้กองใหญ่ของถิ่นทุรกันดารคู่มือการอยู่รอด. [3] แคทนิสและบรรณาการอื่น ๆ ที่มีอยู่ในเวลาของพวกเขาก่อนที่จะมีส่วนร่วมในหิวเกมของพวกเขาบังคับในการแข่งขันสำหรับหัวใจของผู้ให้การสนับสนุนผู้ที่บริจาคเงินที่สามารถ ที่ใช้ในการซื้ออุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับพวกเขาเมื่อพวกเขาอยู่ในที่เกิดเหตุ แนวคิดของวิธีที่ผู้ชมพกแรงเกือบเท่าเป็นตัวละครที่เกิดขึ้นจริงจะขึ้นอยู่กับวิธีการในโทรทัศน์ความเป็นจริงและในเกมโรมันผู้ชมทั้งสองสามารถ "ตอบสนองด้วยความกระตือรือร้นมากหรือมีบทบาทสำคัญในการกำจัดของคุณ" เป็นคอลลินกล่าวว่า [3] ชื่อ