No matter which basis is used to pr

No matter which basis is used to prepare a unit’s budgetary performance report, the method used to calculate the budget standard is crucial. The easiest approach is to establish fixed targets for each unit, store those figures in the database, and compare actual performance with those preset values. One major drawback to this approach is that the budget number is static and does not reflect unforeseen changes in the operating environment. Consequently, individual managers may be penalized or rewarded for factors beyond their control. For example, assume that budgeted amounts in figure 14-4 for the general superintendent are based on planned output of 2,000 units. If, however, due to greater-than-anticipated sales, actual production is 2,200 units, then the negative variances for each expense category may not really indicate inefficiency, but merely reflect the increased level of output

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซึ่งไม่ว่าพื้นฐานจะใช้ในการจัดเตรียมรายงานประสิทธิภาพงบประมาณของหน่วย วิธีการที่ใช้ในการคำนวณงบประมาณมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการ กำหนดเป้าหมายถาวรสำหรับแต่ละหน่วย เก็บตัวเลขเหล่านั้นในฐานข้อมูล และเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานจริงกับค่าที่กำหนดล่วงหน้า คืนหนึ่งหลักการวิธีการนี้คือ จำนวนงบประมาณเป็นแบบคงที่ และไม่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันในสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงาน ดังนั้น ผู้จัดการแต่ละอาจสำเร็จ หรือรางวัลสำหรับปัจจัยนอกเหนือการควบคุมของพวกเขา ตัวอย่าง สมมติว่า งบในรูป 14-4 สำหรับ superintendent ทั่วไปขึ้นอยู่กับผลผลิตแผน 2000 หน่วย ว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขายสูงกว่าคาด ผลิตจริง หน่วย 2200 แล้วผลต่างเป็นค่าลบสำหรับแต่ละประเภทค่าใช้จ่ายอาจไม่จริงระบุ inefficiency แต่เพียงสะท้อนถึงระดับการเพิ่มขึ้นของผลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่ว่าพื้นฐานจะใช้ในการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานงบประมาณของหน่วย, วิธีการที่ใช้ในการคำนวณมาตรฐานงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสร้างเป้าหมายคงที่สำหรับแต่ละหน่วยจัดเก็บตัวเลขผู้ที่อยู่ในฐานข้อมูลและเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงกับค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าเหล่านั้น คืนหนึ่งที่สำคัญในวิธีนี้คือว่าจำนวนงบประมาณเป็นแบบคงที่และไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในสภาพแวดล้อมการทำงาน ดังนั้นผู้จัดการแต่ละคนอาจจะถูกลงโทษหรือรางวัลสำหรับปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา ตัวอย่างเช่นสมมติว่าจำนวนเงินงบประมาณในรูปที่ 14-4 สำหรับผู้อำนวยการทั่วไปจะขึ้นอยู่กับการส่งออกวางแผน 2,000 หน่วย แต่ถ้าเกิดจากการขายที่เพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้การผลิตที่เกิดขึ้นจริงคือ 2,200 หน่วยแล้วแปรปรวนเชิงลบสำหรับแต่ละประเภทค่าใช้จ่ายอาจไม่จริงแสดงให้เห็นความไร้ประสิทธิภาพ แต่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงระดับที่เพิ่มขึ้นของการส่งออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่ว่าที่พื้นฐานที่ใช้เพื่อเตรียมความพร้อมของหน่วยงานงบประมาณ การใช้วิธีการคำนวณมาตรฐานงบประมาณเป็นสำคัญ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสร้างคงเป้าหมายสำหรับแต่ละหน่วย ตัวเลขที่จัดเก็บในฐานข้อมูล และเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานกับผู้ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าค่าหนึ่งข้อเสียเปรียบหลักวิธีการนี้คือ ว่า ตัวเลขงบประมาณคงที่และไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในสิ่งแวดล้อมปฏิบัติการ ดังนั้นผู้จัดการส่วนบุคคลอาจจะถูกลงโทษหรือให้รางวัลสำหรับปัจจัยนอกเหนือการควบคุมของพวกเขา ตัวอย่างเช่น สมมติว่า งบประมาณจำนวนในรูป 14-4 สำหรับบริษัททั่วไปจะขึ้นอยู่กับการวางแผนออก 2000 หน่วย ถ้า , อย่างไรก็ตามมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากยอดขายการผลิตจริง 2200 หน่วย แล้วความเชิงลบสำหรับแต่ละค่าใช้จ่ายประเภทอาจไม่ได้จริงๆระบุขาดประสิทธิภาพ แต่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงระดับการเพิ่มขึ้นของผลผลิต