Several times a year in the world’s

Several times a year in the world’s fashion capitals, willowy models in dazzling outfits sashay down the catwalk to present the coming season’s trends. Fashion feeds a growing industry and makes textile and clothing the world’s second-biggest economic activity for intensity of trade. However, the environment pays a heavy price for this and to stem pollution, textile producers, manufacturers and distributors are launching initiatives built around sustainable development meaning ecology may be the next new trend.
Every customer product has an impact on the environment but an average consumer does not know which product has less or more impact than any other. Any product, which is made, used or disposed of in a way that significantly reduces the harm it would otherwise cause to the environment, could be considered as eco-friendly product. Slowly, consumers are taking the lead in prompting manufacturers to adopt clean technologies to produce eco-friendly products.
The textile industry is divided between natural fibres such as wool, silk, linen, cotton and hemp, and man-made ones, often made from petrochemicals. These cheap and easy-care synthetic fibres are becoming the textile industry’s miracle solution but their manufacture creates pollution and they are hard to recycle (with nylon taking 30 to 40 years to decompose).
From an environmental point of view, current production methods mean that natural fibres may be no less damaging than their synthetic counterparts. Cotton is the most pesticide intensive crop in the world, using 22.5 per cent of all the insecticides used globally. These pesticides injure and kill many people every year. Cotton growing also uses vast amounts of chemical fertilizers that pollute and deplete the soil. Herbicides, and chemical defoliants which are sometimes used to aid mechanical cotton harvesting, add to the toll on both the environment and human health. These chemicals typically remain in the fabric after finishing, and are released during the lifetime of the garments. The development of genetically modified cotton adds environmental problems at another level.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เวลาหลายปีในเมืองหลวงแฟชั่นโลก รุ่น willowy ในพราวชุด sashay ลงแคทวอล์เพื่อแสดงแนวโน้มของฤดูกาลมา แฟชั่นตัวดึงข้อมูลอุตสาหกรรมเติบโต และทำให้สิ่งทอและเสื้อผ้ากิจกรรมเศรษฐกิจที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับความรุนแรงของการค้า อย่างไรก็ตาม สิ่งแวดล้อมจ่ายหนักราคานี้ และ การเกิดมลพิษ ผู้ผลิตสิ่งทอ ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายมีการเปิดตัวโครงการมาพัฒนาความหมาย นิเวศวิทยาได้ต่อใหม่แนวโน้ม
ลูกค้าทุกผลิตภัณฑ์มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่การบริโภคเฉลี่ยไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ใดมีผลกระทบน้อยกว่า หรือมากกว่ากว่ากัน สินค้า การทำ ใช้ หรือขายทิ้งในลักษณะที่ลดการทำร้ายมิฉะนั้นจะทำให้สิ่งแวดล้อม สามารถถือว่าเป็นมิตรผลิตภัณฑ์ ช้า ผู้บริโภคจะมีเป้าหมายในพร้อมท์ผู้ผลิตเพื่อนำมาใช้เทคโนโลยีสะอาดเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์มิตร.
อุตสาหกรรมสิ่งทอจะแบ่งระหว่างเส้นใยธรรมชาติเช่นผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย และ ป่าน และมนุษย์สร้างขึ้น มักจะทำจากผลิตภัณฑ์ ใยสังเคราะห์เหล่านี้ดูแล รักษาง่ายราคาถูก และกลายเป็น อุตสาหกรรมสิ่งทอโรงแรมมิราเคิลโซลูชั่น แต่ผู้ผลิตสร้างมลพิษ และจะยากที่จะรีไซเคิล (ด้วยไนลอนมี 30-40 ปีจะเปื่อย)
จากการสิ่งแวดล้อมมอง วิธีการผลิตปัจจุบันหมายความ ว่า ใยธรรมชาติอาจถูกทำลายไม่น้อยกว่าคู่ของพวกเขาสังเคราะห์ ฝ้ายเป็นส่วนใหญ่แมลงเข้มข้นพืชผลในโลก ใช้ร้อยละ 22.5 ของยาฆ่าแมลงทั้งหมดที่ใช้ทั่วโลก ยาฆ่าแมลงเหล่านี้ทำร้าย และฆ่าคนจำนวนมากทุกปี ฝ้ายเจริญเติบโตยังใช้ปุ๋ยเคมีที่ก่อให้เกิดมลพิษ และแหล่งดินไพศาล สารเคมีกำจัดวัชพืช และ defoliants สารเคมีที่ใช้บางครั้งเพื่อช่วยเก็บเกี่ยว ฝ้ายเครื่องจักรกล เพิ่มโทรทั้งสภาพแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ สารเคมีเหล่านี้โดยปกติอยู่ในผ้าหลังจากเสร็จสิ้น และถูกนำออกใช้ในระหว่างอายุการใช้งานของเสื้อผ้า การพัฒนาฝ้ายดัดแปลงพันธุกรรมเพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับอื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปีละหลายครั้งในโลกเมืองหลวงแฟชั่นรุ่นระหงในชุดพราว Sashay ลงแคทวอล์ที่จะนำเสนอแนวโน้มในฤดูกาลที่จะมาถึงของ แฟชั่นฟีดอุตสาหกรรมที่เติบโตและทำให้สิ่งทอและเสื้อผ้าที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกสำหรับความรุนแรงของการค้า แต่สภาพแวดล้อมที่จ่ายราคาหนักสำหรับนี้และต้นกำเนิดมลพิษผู้ผลิตสิ่งทอที่ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายมีการเปิดตัวโครงการที่สร้างขึ้นจากการพัฒนาอย่างยั่งยืนของระบบนิเวศมีความหมายอาจจะเป็นแนวโน้มใหม่ต่อไป
สินค้าของลูกค้าทุกคนมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ผู้บริโภคเฉลี่ย ไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบน้อยลงหรือมากขึ้นกว่าที่อื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ทำใช้หรือจำหน่ายในทางที่ช่วยลดอันตรายได้มิฉะนั้นจะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่อาจจะถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช้าผู้บริโภคมีการเป็นผู้นำในการกระตุ้นให้ผู้ผลิตเพื่อนำมาใช้เทคโนโลยีสะอาดเพื่อผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นตัวแบ่งแยกระหว่างเส้นใยธรรมชาติเช่นขนสัตว์, ผ้าไหม, ผ้าฝ้ายลินินและป่านและคนที่มนุษย์สร้างขึ้นมักจะทำจาก ปิโตรเคมี เส้นใยสังเคราะห์เหล่านี้มีราคาถูกและง่ายต่อการดูแลรักษาจะกลายเป็นวิธีการแก้ปัญหามหัศจรรย์อุตสาหกรรมสิ่งทอ แต่การผลิตของพวกเขาจะสร้างมลพิษและพวกเขายากที่จะนำมาใช้ (ที่มีการไนลอน 30 ถึง 40 ปีในการย่อยสลาย)
จากจุดสิ่งแวดล้อมในมุมมองวิธีการผลิตในปัจจุบันหมายความว่า เส้นใยธรรมชาติอาจจะไม่เป็นอันตรายน้อยกว่าคู่ของพวกเขาสังเคราะห์ ฝ้ายเป็นสารกำจัดศัตรูพืชเพาะปลูกมากที่สุดในโลกโดยใช้ 22.5 เปอร์เซ็นต์ของยาฆ่าแมลงที่ใช้ทั่วโลก สารกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้ทำร้ายและฆ่าคนจำนวนมากทุกปี ผ้าฝ้ายที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังใช้จำนวนมากมายของการใช้ปุ๋ยเคมีที่ก่อให้เกิดมลพิษและทำให้หมดสิ้นลงดิน สารเคมีกำจัดวัชพืชและ defoliants เคมีซึ่งบางครั้งใช้เพื่อช่วยในการเก็บเกี่ยวฝ้ายกลเพิ่มค่าผ่านทางทั้งในสภาพแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ สารเคมีเหล่านี้มักจะยังคงอยู่ในผ้าหลังจากเสร็จสิ้นและมีการเปิดตัวในช่วงชีวิตของเสื้อผ้า การพัฒนาของผ้าฝ้ายดัดแปลงพันธุกรรมเพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับอื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวลาหลายปีในเมืองหลวงแฟชั่นของโลก ระหงนางแบบในชุดพราวเดินกรีดกรายลงแคทวอล์แสดงแนวโน้มของฤดูกาลมา . แฟชั่นอาหารอุตสาหกรรมเติบโต และทำให้เสื้อผ้าและสิ่งทอของโลกที่สองที่ใหญ่ที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เข้มของการค้า แต่สภาพแวดล้อมที่จ่ายราคาหนักสำหรับนี้และจะเกิดมลพิษ ผู้ผลิตสิ่งทอผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายมีการเปิดตัวโครงการสร้างรอบนิเวศวิทยาความหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอาจเป็นแนวโน้มต่อไปใหม่ .
ลูกค้าทุกผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่เป็นผู้บริโภคเฉลี่ยไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบน้อยกว่า หรือ มากกว่าอื่นใด ผลิตภัณฑ์ใด ๆที่ทำใช้ หรือทิ้งในวิธีที่ช่วยลดอันตรายที่จะเป็นอย่างอื่นให้กับสิ่งแวดล้อม อาจจะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างช้าๆ โดยการเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีสะอาด ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม .
อุตสาหกรรมสิ่งทอจะถูกแบ่งระหว่างเส้นใยธรรมชาติเช่นขนสัตว์ , ผ้าไหม , ผ้าลินิน , ผ้าฝ้ายและปอ ,และมนุษย์ทั้งหลาย มักจะทำจากปิโตรเคมี เหล่านี้ราคาถูก และ ดูแลรักษาง่าย เส้นใย สังเคราะห์เป็นโซลูชั่นที่มิราเคิล อุตสาหกรรมสิ่งทอ แต่การผลิตของพวกเขาสร้างมลภาวะและพวกเขาจะยากที่จะรีไซเคิล ( ไนล่อนจะ 30 ถึง 40 ปีในการย่อยสลาย )
จากจุดสิ่งแวดล้อมในมุมมองของวิธีการผลิตกระแสไฟฟ้าหมายความว่าเส้นใยธรรมชาติอาจจะไม่เกิดความเสียหายน้อยกว่า counterparts สังเคราะห์ของพวกเขา ฝ้ายเป็นพืชยาฆ่าแมลงมากที่สุดในโลก การใช้ยาฆ่าแมลง 22.5 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดที่ใช้ทั่วโลก สารกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้ทำร้ายและฆ่าคนมากมายทุกปี การเติบโตของฝ้ายยังใช้จำนวนมากมายของปุ๋ยเคมีที่ก่อให้เกิดมลพิษและหมดสิ้นลงดิน สารกำจัดวัชพืชและเคมี defoliants ซึ่งบางครั้งใช้เพื่อช่วยเก็บเกี่ยวฝ้ายเครื่องกล , เพิ่มการโทรทั้งในสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ สารเคมีเหล่านี้มักจะอยู่ในผ้าหลังจากเสร็จสิ้น และจะปล่อยออกมาในช่วงของอายุการใช้งานของเสื้อผ้า การพัฒนาฝ้ายดัดแปลงพันธุกรรมเพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับอื่น