Findings: Of 967 titles and 412 abs

Findings: Of 967 titles and 412 abstracts screened, 125 full-text papers were reviewed and 81 included. Around
two-thirds used qualitative methods and over half studied public-sector facilities. Most studies were in Africa
(n = 55), followed by Asia and the Pacific (n = 17). Fifty-eight studies covered only negative attitudes or behaviours, with
a minority describing positive provider behaviours, such as being caring, respectful, sympathetic and helpful. Negative
attitudes and behaviours commonly entailed verbal abuse (n = 45), rudeness such as ignoring or ridiculing patients
(n = 35), or neglect (n = 32). Studies also documented physical abuse towards women, absenteeism or unavailability
of providers, corruption, lack of regard for privacy, poor communication, unwillingness to accommodate traditional
practices, and authoritarian or frightening attitudes. These behaviours were influenced by provider workload, patients’
attitudes and behaviours, provider beliefs and prejudices, and feelings of superiority among MHCPs. Overall, negative
attitudes and behaviours undermined health care seeking and affected patient well-being.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค้นพบ: 967 ชื่อและบทคัดย่อจาก 412 ที่ฉาย เอกสารข้อความเต็ม 125 ได้ทบทวน และรวม 81 รอบสองในสามใช้วิธีการเชิงคุณภาพ และกว่าครึ่งเรียนสิ่งอำนวยความสะดวกของภาครัฐ การศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา(n = 55), ไปมาแล้ว โดยเอเชียและแปซิฟิก (n = 17) สิบแปดศึกษาครอบคลุมทัศนคติเชิงลบหรือพฤติกรรม เท่ากับส่วนน้อยที่อธิบายพฤติกรรมผู้ให้บริการบวก เช่นการดูแล เคารพ เห็นอกเห็นใจ และเป็นประโยชน์ ค่าลบทัศนคติและพฤติกรรมโดยทั่วไป entailed ละเมิดด้วยวาจา (n = 45), ความหยาบคายเช่นละเว้น หรือ ridiculing ผู้ป่วย(n = 35), หรือละเลย (n = 32) ศึกษาเอกสารยังละเมิดทางกายภาพต่อผู้หญิง ขาด หรือไม่พร้อมใช้งานผู้ให้บริการ เสียหาย ขาดความเคารพสิทธิส่วนบุคคล สื่อสารดี unwillingness รองรับแบบดั้งเดิมปฏิบัติ และทัศนคติของผู้ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ หรือน่ากลัว พฤติกรรมเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากปริมาณงานผู้ให้บริการ ผู้ป่วย'ทัศนคติ และพฤติกรรม ผู้ให้บริการความเชื่อ และอคติ และความรู้สึกปมระหว่าง MHCPs โดยรวม ลบทัศนคติและพฤติกรรมละเลยไม่ดูแลสุขภาพ และผู้ป่วยได้รับผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการวิจัย: 967 ของชื่อและการคัดเลือก 412 บทคัดย่อ 125 เอกสารฉบับเต็มได้รับการตรวจสอบและ 81 รวม
รอบสองในสามใช้วิธีการเชิงคุณภาพและมากกว่าครึ่งหนึ่งของสิ่งอำนวยความสะดวกการศึกษาภาครัฐ การศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกา
(n = 55) ตามด้วยเอเชียและแปซิฟิก (n = 17)
การศึกษาห้าสิบแปดปกคลุมทัศนคติเชิงลบเพียงอย่างเดียวหรือพฤติกรรมที่มีชนกลุ่มน้อยที่อธิบายถึงพฤติกรรมของผู้ให้บริการในเชิงบวกเช่นการดูแลเคารพความเห็นอกเห็นใจและเป็นประโยชน์ เชิงลบทัศนคติและพฤติกรรมยกทั่วไปการละเมิดทางวาจา (n = 45), ความหยาบเช่นละเลยหรือเยาะเย้ยผู้ป่วย (n = 35) หรือการละเลย (n = 32) การศึกษาเอกสารยังทำร้ายร่างกายต่อผู้หญิงขาดหรือความไม่พร้อมของผู้ให้บริการการทุจริตขาดการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวในการสื่อสารที่ไม่ดีไม่เต็มใจที่จะรองรับแบบดั้งเดิมปฏิบัติและทัศนคติเผด็จการหรือที่น่ากลัว พฤติกรรมเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากภาระงานที่ให้บริการผู้ป่วยทัศนคติและพฤติกรรมความเชื่อของผู้ให้บริการและอคติและความรู้สึกที่เหนือกว่าในหมู่ MHCPs โดยรวม, เชิงลบทัศนคติและพฤติกรรมทำลายแสวงหาการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบและความเป็นอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป : 967 ชื่อเรื่องและบทคัดย่อจาก 412 , 125 ข้อความและเอกสารจำนวน 81 รวม รอบสอง ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ
และกว่าครึ่งหนึ่งศึกษาภาครัฐสิ่งอำนวยความสะดวก การศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา
( n = 55 ) รองลงมา ได้แก่ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ( n = 17 ) ห้าสิบแปดการศึกษาครอบคลุมเฉพาะทัศนคติหรือพฤติกรรมกับ
ส่วนน้อยที่อธิบายพฤติกรรมของผู้ให้บริการที่เป็นบวกเช่นการดูแล เคารพ ขี้สงสาร และเป็นประโยชน์ ทัศนคติและพฤติกรรมทางวาจาละเมิดทั่วไป (
( n = 45 ) , ความหยาบคาย เช่น การละเลยหรือการปิดบังผู้ป่วย
( n = 30 ) หรือละเลย ( n = 32 ) การศึกษาเอกสารทางกายภาพทารุณต่อสตรี การขาดงานหรือ unavailability
ของผู้ให้บริการ การคอรัปชั่น ขาดสัมมาคารวะ เพื่อความเป็นส่วนตัว การสื่อสารไม่ดีไม่เต็มใจที่จะรองรับการปฏิบัติแบบดั้งเดิม
และทัศนคติเผด็จการหรือน่ากลัว พฤติกรรมเหล่านี้เป็นผลงานบริการผู้ป่วย
ทัศนคติ และ พฤติกรรม ความเชื่อ ผู้ให้บริการ และอคติและความรู้สึกที่เหนือกว่าของ mhcps . โดยรวมเป็นลบ ทัศนคติ และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ
ถึงการแสวงหา และมีผลต่อความเป็นอยู่ของผู้ป่วย