บทความของเครื่องพิมพ์ดีด
ประวัติเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทย
เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยกำเนิดขึ้นในรัชสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เมื่อคุณเอ็ดวิน ฮันเตอร์ แม็คฟาร์แลนด์หมอสอนศาสนาชาวอเมริกันที่เกิดในประเทศไทยซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการส่วนพระองค์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสนาบดีกระทรวงธรรมการได้เกิดความคิดที่จะสร้างเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยขึ้นพ . ศ .2442 เขาได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อสำรวจว่าจะมีบริษัทใดที่สนใจผลิตเครื่องพิมพ์ดีดเป็นภาษาไทยบ้างซึ่งก็พบว่าบริษัท Smith Premier ในเมืองนิวยอร์กสนใจที่จะร่วมผลิตดังนั้นคุณแม็คฟาร์แลนด์จึงได้ร่วมมือกับบริษัทสมิธพรีเมียร์ ผลิตต้นแบบเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยขึ้นโดยได้ร่วมออกแบบและวางตำแหน่งตัวอักษรไทยที่จะใช้ในเครื่องพิมพ์ดีดได้สำเร็จลักษณะเครื่องพิมพ์ดีดไทยนั้นสมิธพรีเมียร์และมีแป้นพิมพ์ 7 แถวไม่มีแป้นยกอักษรบน ( คีย์ Shift ) จึงยังไม่สามารถพิมพ์โดยวิธีพิมพ์สัมผัสได้ ( พิมพ์สัมผัส )
สามารถพ . ศ . 1 นายแม็คฟาร์แลนด์ได้นำเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรกยี่ห้อ Smith Premier เข้ามาถวายรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ได้ทรงทดลองพิมพ์และพอพระราชหฤทัยอย่างมากจึงถือได้ว่ารัชกาลที่ 5 เป็นนักพิมพ์ดีดไทยพระองค์แรก17 เครื่องต่อมาในปีพ .ศ . 2438 นายเอ็ดวิน แม็คฟาร์แลนด์ได้ถึงแก่กรรมกรรมสิทธิ์ในเครื่องพิมพ์ดีด Smith Premier จึงตกแต่ดร. จอร์จ แบรดลี่ย์ แม็คฟาร์แลนด์ ( พระอาจวิทยาคม ) ผู้เป็นน้องชายซึ่งเป็นผู้สั่งเครื่องพิมพ์ดีดไทย Smith Premier เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรกในปีพ .ศ . 2440 โดยวางขายที่ร้านทำฟันของท่านเองจนถึงพ . ศ . 2441 จึงได้ตั้งห้างสมิทพรีเมียร์ขึ้นที่หลังวังบูรพาซึ่งปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างมากในวงราชการและบริษัทห้างร้าน
สามารถพ . ศ .1539 หลังจากที่บริษัท Smith Premier ได้ขายสิทธิการผลิตให้แก่บริษัทเรมิงตันเรมิงตันแล้วบริษัทได้ยกเลิกการผลิตเครื่อง Smith Premier และหันไปผลิตเครื่องแบบยกแคร่ได้แทนแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนไทยในยุคนั้น
สามารถพ . ศ . ของดร.จอร์จ แม็คฟาร์แลนด์เดินทางไปสหรัฐอเมริกาและได้ร่วมให้คำปรึกษาแก่บริษัทถึงการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดไทยขนาดเล็กที่สามารถพิมพ์สัมผัสสิบนิ้วได้จนสามารถทำได้สำเร็จเป็นแป้นแบบ 4 แถวเรมิงตันสมิธพรีเมียร์ ในเวลาต่อมาแต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการพิมพ์ที่ยังขัดกับวิธีการเขียนภาษาไทยอยู่บ้างต่อมาดร.จอร์จ แม็คฟาร์แลนด์ได้ร่วมกับพนักงานในห้างของท่าน 2 คนทำการออกแบบและจัดวางแป้นอักษรเสียใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่โดยมีนายสวัสดิ์มากประยูรเป็นช่างประดิษฐ์ก้านอักษรและนายสุวรรณประเสริฐเกษมณี ( นายกิมเฮง )โดยวางตัวอักษรที่มีสถิติใช้บ่อยในตำแหน่งที่พิมพ์ได้ง่ายซึ่งพิจารณาจากหนังสือต่างๆจำนวน 38 เล่มรวม 167 ,456 คำโดยใช้เวลา 7 ปีจึงสำเร็จเมื่อปีพ . ศ . 2474 และเรียกแป้นชนิดนี้ว่าแป้นแบบ ? เกษมณี ?ตามชื่อผู้ออกแบบจนกลายเป็นแป้นแบบมาตรฐานถึงปัจจุบันต่อมานายสฤษดิ์ปัตตะโชติตำแหน่งนายช่างเอกกรมชลประทานได้ศึกษาพบว่าแป้นพิมพ์แบบเกษมณียังมีข้อบกพร่องเพราะพบว่ามือขวาต้องทำงานถึง 70% ในขณะที่มือซ้ายทำงานเพียง 30% เท่านั้นและนิ้วก้อยมือขวาซึ่งเป็นนิ้วที่อ่อนแอกลับต้องทำงานมากกว่านิ้วชี้มือซ้ายซึ่งแข็งแรงกว่าโดยการสนับสนุนจากสภาวิจัยแห่งชาตินายสฤษดิ์ปัตตะโชติได้ทำการศึกษาวิจัยเพื่อออกแบบตำแหน่งแป้นอักษรใหม่ที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิมโดยการสุ่มเลือกหนังสือหลากหลายสาขารวม 50 เล่มแต่ละเล่มสุ่มออกมา 1000 ตัวอักษร50 , 000 ตัวอักษรแล้วสำรวจว่าใน 1000 ตัวอักษรนั้นมีอักษรตัวใดใช้พิมพ์มากน้อยเพียงใดลดหลั่นกันลงมาตามลำดับแล้วจึงนำตัวอักษรที่เก็บสถิติไว้นี้มาใช้เป็นแนวทางจัดวางแป้นพิมพ์ดีดใหม่3 แถวล่างตามลำดับโดยมีแถวที่สองเป็นศูนย์กลางจากการทดลองและปรับปรุงจนในที่สุดก็ได้แป้นภาษาไทยแบบใหม่เรียกชื่อว่าแป้นแบบ ?ปัตตะโชติ ? ตามสกุลของผู้ออกแบบในปีพ . ศรูปภาพ
.ผลจากการทดลองเปรียบเทียบการสอนพิมพ์ดีดด้วยเครื่องแบบปัตตะโชติกับแบบเกษมณีจากกลุ่มตัวอย่าง 100 คนที่แบ่งเป็น 2 กลุ่มใช้เวลาฝึกหัด 100 ชั่วโมง ( 8 เดือน )26 .8 % ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้รู้หลายคนออกมาวิจารณ์ถึงจุดอ่อนและความไม่เหมาะสมบางประการของแป้นแบบปัตตะโชติประกอบกับคนไทยส่วนใหญ่เคยชินกับการพิมพ์ด้วยแป้นเกษมณีแล้ว( ปัจจุบันเหลือนักพิมพ์ดีดรุ่นเก่าไม่กี่คนที่ยังคงใช้แป้นแบบปัตตะโชติ ) แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถเลือกใช้สลับระหว่างแป้นทั้งสองแบบได้
การแปล กรุณารอสักครู่..
