วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เป็นวัตถุประสงค์ที่ระ การแปล - วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เป็นวัตถุประสงค์ที่ระ ไทย วิธีการพูด

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมวัตถุประสงค

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เป็นวัตถุประสงค์ที่ระบุว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะสามารถทำอะไรได้
หรือรู้อะไรหลังจากได้รับการฝึกอบรมแล้ว การแสดงความสามารถตามวัตถุประสงค์นี้ไม่จำกัดด้วยเวลายอม
ให้แต่ละคนเรียนตามความพร้อมของตนเอง และสนใจการเกิดทักษะหรือรอบรู้เนื้อหาและบรรลุวัตถุประสงค์
เชิงปฏิบัติ

วัตถุประสงค์พฤติกรรม กำหนดในลักษณะที่สามารถสังเกตผลการปฏิบัติได้ทั้งส่วนที่เป็นความรู้
และทักษะที่ต้องการในการปฏิบัตินั้นๆ วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมประกอบด้วย
1. บอกถึงทักษะหรือพฤติกรรมที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแสดงออกหลังฝึกอบรมแล้ว
2. บอกเงื่อนไขที่ใช้ในการพิจารณาหรือประเมินผลการปฏิบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
3. บอกถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่สามารถยอมรับได้

หลักการกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อควรเขียนสั้น ๆ แต่ให้ได้ใจความชัดเจน และมีความยาว
เพียงหนึ่งหรือสองประโยคเท่านั้น
2. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อจะระบุพฤติกรรมที่คาดว่าจะเกิดเพียงหนึ่งพฤติกรรม
3. พฤติกรรมที่ระบุในวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องเป็นพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้
ไม่ใช่สิ่งที่เป็นนามธรรม
4. คำที่ใช้ในการเขียนวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อ ต้องเป็นคำที่มีลักษณะชี้เฉพาะ
เจาะจง ไม่ใช้คำที่มีความหมายกว้างจนยากแก่การตีความ
5. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมไม่ควรกำหนดเป็นหัวข้อย่อย ๆ หลายข้อเกินไป ควรจะเน้นที่
สำคัญ ๆ เท่านั้น
6. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมควรครอบคลุมลักษณะสำคัญ ๆ ของการเรียนรู้ทั้งในด้านความรู้
ทักษะ และความรู้สึกนึกคิด
7. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องระบุพฤติกรรมปลายทางที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้รับ
การฝึก
วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม จำแนกได้เป็น 3 ด้าน คือ
1. ด้านความรู้หรือสติปัญญา (Knowledge) เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนา
ทางสมอง หรือสติปัญญา โดยเริ่มตั้งแต่การที่บุคคลมีความสามารถในการจดจำเนื้อหา หรือข้อเท็จจริง
เกี่ยวกับสิ่งนั้น ๆ แล้วนำสิ่งที่รู้ (ความรู้) ไปสร้างให้เกิดความเข้าใจ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินผล
ในที่สุด แบ่งออกเป็น 6 ระดับ โดยเรียงลำดับจากที่ซับซ้อนน้อยที่สุดไปหามากที่สุด
1.1 ความรู้ ได้แก่ ให้ความหมายได้ บอกเรื่องราวได้ บอกชื่อได้ กล่าวเป็นถ้อยคำ
หรือข้อความได้ เลือกได้
1.2 ความเข้าใจ ได้แก่ แยกแยะได้ อธิบายได้ แปลความหมายได้ เปลี่ยนข้อความ
ได้ ให้เหตุผลได้ ขยายความได้ คาดคะเนได้ สรุปความได้ ย่อความได้ อ้างอิงได้ ยกตัวอย่างได้
ทำนายได้ เขียนข้อความใหม่ได้
1.3 การนำไปใช้ ได้แก่ ปฏิบัติได้ แสดงได้ เตรียมการได้ ผลิตได้ เปลี่ยนแปลงได้
สาธิตได้ คำนวณได้ แก้ปัญหาได้ ใช้สิ่งต่างๆ ได้ สัมพันธ์เรื่องราวได้ คิดค้นได้ ทำให้ดูได้
1.4 วิเคราะห์ ได้แก่ แยกแยะได้ จำแนกได้ แบ่งกลุ่มได้ อ้างอิงได้
1.5 สังเคราะห์ ได้แก่ รวบรวมได้ จัดกลุ่มได้ รวมกันได้ ประกอบสิ่งต่าง ๆ ได้
สร้างสรรค์ได้ อธิบายได้ จัดระเบียบใหม่ได้ วางแผนได้ สร้างใหม่ได้
1.6 ประเมินค่า ได้แก่ เกิดความซาบซึ้ง เห็นความแตกต่าง เปรียบเทียบได้ สรุป
ความได้ วิจารณ์ได้ บรรยายได้ แยกแยะได้ ตัดสินได้ อธิบายได้ แปลความได้ สัมพันธ์เรื่องราวได้
สรุปย่อได้

2. ด้านทักษะ (Psychomotor Domain) เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนา
ทางด้านทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ โดยเริ่มตั้งแต่ที่บุคคลรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า รวมทั้งการ
เคลื่อนไหวด้วยกล้ามเนื้อแล้วเตรียมความพร้อมทางสติปัญญา ทางกาย และทางอารมณ์ที่จะปฏิบัติหรือ
ลงมือทำอย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นจึงตอบสนองโดยแสดงออกด้วยการเลียนแบบหรือลองผิดลองถูกจนเกิด
เป็นทักษะนิสัย และพัฒนาเป็นทักษะชั้นสูง โดยการตอบสนองสิ่งที่ซับซ้อนขึ้น และสามารถแสดงการใช้
ทักษะที่ผสมผสานอย่างคล่องแคล่วและมั่นใจ พฤติกรรมที่แสดงว่ามีทักษะ อาจแสดงออกมาให้เห็นได้ดังนี้
2.1 แสดงได้ถูกลักษณะ เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง นั่ง เดิน ฯลฯ
2.2 ปฏิบัติได้ถูกต้อง เช่น ตัด เย็บ ตอกตะปู เลื่อย ฯลฯ
2.3 แสดงความคล่องแคล่วให้เห็น เช่น ตัดเย็บเสื้อผ้า ทอผ้า ซ่อมจักร เย็บผ้า
ปะชุนเสื้อผ้า ฯลฯ

3. ด้านความรู้สึกนึกคิด (Affective Domain) เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนา
ทางด้านจิตใจ ความรู้สึกนึกคิด และเจตคติ โดยเริ่มตั้งแต่ที่บุคคลรับประสบการณ์จากสิ่งหนึ่ง ๆ และเกิด
การรับรู้ในสิ่งนั้น ๆ แล้วตอบสนองและให้คุณค่าต่าง ๆ ในสิ่งที่ตนรับรู้ จากนั้นจึงนำสิ่งที่เป็นคุณค่าเหล่านั้น
มาจัดเรียงเป็นระบบแล้วสร้างเป็นลักษณะนิสัยหรือบุคลิกตามคุณค่า พฤติกรรมที่แสดงทัศนคติ อาจแสดง
ออกได้ดังนี้
3.1 การยอมรับ ได้แก่ สอบถาม เลือก ตอบ ชี้ประเด็น ยึดถือ
3.2 การตอบสนอง ได้แก่ ตอบ นำเสนอ ต้อนรับ รายงาน เลือก บอก
3.3 การสร้างคุณค่า ได้แก่ ชี้ความแตกต่าง พิสูจน์ มีส่วนร่วม ทำตาม ริเริ่ม
3.4 การจัดระบบ ได้แก่ รวม เปรียบเทียบ เปลี่ยนแปลง ผสม ผสาน จัด
3.5 การสร้างลักษณะตามคุณค่า ได้แก่ ถาม ฟัง ใช้ หลากหลาย กระทำ คุณภาพ
เขียนโดย perapon ที่ 01:50
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมเป็นวัตถุประสงค์ที่ระบุว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะสามารถทำอะไรได้ หรือรู้อะไรหลังจากได้รับการฝึกอบรมแล้วการแสดงความสามารถตามวัตถุประสงค์นี้ไม่จำกัดด้วยเวลายอมให้แต่ละคนเรียนตามความพร้อมของตนเองและสนใจการเกิดทักษะหรือรอบรู้เนื้อหาและบรรลุวัตถุประสงค์เชิงปฏิบัติ วัตถุประสงค์พฤติกรรมกำหนดในลักษณะที่สามารถสังเกตผลการปฏิบัติได้ทั้งส่วนที่เป็นความรู้ และทักษะที่ต้องการในการปฏิบัตินั้น ๆ วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมประกอบด้วย 1. บอกถึงทักษะหรือพฤติกรรมที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแสดงออกหลังฝึกอบรมแล้ว 2. บอกเงื่อนไขที่ใช้ในการพิจารณาหรือประเมินผลการปฏิบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม 3. บอกถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่สามารถยอมรับได้ หลักการกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อควรเขียนสั้นๆ แต่ให้ได้ใจความชัดเจนและมีความยาวเพียงหนึ่งหรือสองประโยคเท่านั้น 2. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อจะระบุพฤติกรรมที่คาดว่าจะเกิดเพียงหนึ่งพฤติกรรม 3. พฤติกรรมที่ระบุในวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องเป็นพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นนามธรรม 4. คำที่ใช้ในการเขียนวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องเป็นคำที่มีลักษณะชี้เฉพาะเจาะจงไม่ใช้คำที่มีความหมายกว้างจนยากแก่การตีความ 5. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมไม่ควรกำหนดเป็นหัวข้อย่อยๆ หลายข้อเกินไปควรจะเน้นที่สำคัญๆ เท่านั้น6. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมควรครอบคลุมลักษณะสำคัญๆ ของการเรียนรู้ทั้งในด้านความรู้ ทักษะและความรู้สึกนึกคิด 7. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องระบุพฤติกรรมปลายทางที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้รับการฝึก วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมจำแนกได้เป็น 3 ด้านคือ 1. ด้านความรู้หรือสติปัญญา (ความรู้) เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาทางสมองหรือสติปัญญาโดยเริ่มตั้งแต่การที่บุคคลมีความสามารถในการจดจำเนื้อหาหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ แล้วนำสิ่งที่รู้ (ความรู้) ไปสร้างให้เกิดความเข้าใจและประเมินผลวิเคราะห์สังเคราะห์โดยเรียงลำดับจากที่ซับซ้อนน้อยที่สุดไปหามากที่สุดในที่สุดแบ่งออกเป็น 6 ระดับ 1.1 ความรู้ได้แก่ให้ความหมายได้บอกเรื่องราวได้บอกชื่อได้กล่าวเป็นถ้อยคำหรือข้อความได้เลือกได้ 1.2 ความเข้าใจได้แก่แยกแยะได้อธิบายได้แปลความหมายได้เปลี่ยนข้อความได้ให้เหตุผลได้ขยายความได้คาดคะเนได้สรุปความได้ย่อความได้อ้างอิงได้ยกตัวอย่างได้ ทำนายได้เขียนข้อความใหม่ได้ 1.3 การนำไปใช้ได้แก่ปฏิบัติได้แสดงได้เตรียมการได้ผลิตได้เปลี่ยนแปลงได้ สาธิตได้คำนวณได้แก้ปัญหาได้ใช้สิ่งต่าง ๆ ได้สัมพันธ์เรื่องราวได้คิดค้นได้ทำให้ดูได้ 1.4 วิเคราะห์ได้แก่แยกแยะได้จำแนกได้แบ่งกลุ่มได้อ้างอิงได้ 1.5 สังเคราะห์ได้แก่รวบรวมได้จัดกลุ่มได้รวมกันได้ประกอบสิ่งต่างๆ ได้ สร้างสรรค์ได้อธิบายได้จัดระเบียบใหม่ได้วางแผนได้สร้างใหม่ได้ 1.6 ประเมินค่าได้แก่เกิดความซาบซึ้งเห็นความแตกต่างเปรียบเทียบได้สรุปความได้วิจารณ์ได้บรรยายได้แยกแยะได้ตัดสินได้อธิบายได้แปลความได้สัมพันธ์เรื่องราวได้ สรุปย่อได้ 2. เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านทักษะ (Psychomotor โดเมน)ทางด้านทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ โดยเริ่มตั้งแต่ที่บุคคลรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้ารวมทั้งการเคลื่อนไหวด้วยกล้ามเนื้อแล้วเตรียมความพร้อมทางสติปัญญาทางกายและทางอารมณ์ที่จะปฏิบัติหรือลงมือทำอย่างใดอย่างหนึ่งจากนั้นจึงตอบสนองโดยแสดงออกด้วยการเลียนแบบหรือลองผิดลองถูกจนเกิดเป็นทักษะนิสัยและพัฒนาเป็นทักษะชั้นสูงโดยการตอบสนองสิ่งที่ซับซ้อนขึ้นและสามารถแสดงการใช้ทักษะที่ผสมผสานอย่างคล่องแคล่วและมั่นใจพฤติกรรมที่แสดงว่ามีทักษะอาจแสดงออกมาให้เห็นได้ดังนี้ 2.1 แสดงได้ถูกลักษณะเช่นว่ายน้ำวิ่งนั่งเดินฯลฯ 2.2 ปฏิบัติได้ถูกต้องเช่นตัดเย็บตอกตะปูเลื่อยฯลฯ 2.3 แสดงความคล่องแคล่วให้เห็นเช่นตัดเย็บเสื้อผ้าทอผ้าซ่อมจักรเย็บผ้า ปะชุนเสื้อผ้าฯลฯ 3. เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านความรู้สึกนึกคิด (ผลโดเมน)ทางด้านจิตใจความรู้สึกนึกคิดและเจตคติโดยเริ่มตั้งแต่ที่บุคคลรับประสบการณ์จากสิ่งหนึ่งๆ และเกิดการรับรู้ในสิ่งนั้นๆ แล้วตอบสนองและให้คุณค่าต่างๆ ในสิ่งที่ตนรับรู้จากนั้นจึงนำสิ่งที่เป็นคุณค่าเหล่านั้นมาจัดเรียงเป็นระบบแล้วสร้างเป็นลักษณะนิสัยหรือบุคลิกตามคุณค่าพฤติกรรมที่แสดงทัศนคติอาจแสดงออกได้ดังนี้ 3.1 การยอมรับได้แก่สอบถามคลุมตอบชี้ประเด็นยึดถือ3.2 การตอบสนองได้แก่ตอบนำเสนอต้อนรับรายงานเลือกบอก 3.3 การสร้างคุณค่าได้แก่ชี้ความแตกต่างพิสูจน์มีส่วนร่วมทำตามริเริ่ม3.4 การจัดระบบได้แก่รวมเปรียบเทียบเปลี่ยนแปลงผสมผสานจัด 3.5 การสร้างลักษณะตามคุณค่าได้แก่ถามฟังใช้หลากหลายกระทำคุณภาพเขียนโดย perapon 01:50
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ๆ แต่ให้ได้ใจความชัดเจน หลาย ๆ ข้อเกินไปควรจะเน้นที่สำคัญ ๆ เท่านั้น6 ๆ และความรู้สึกนึกคิด7 จำแนกได้เป็น 3 ด้านคือ1 ด้านความรู้หรือสติปัญญา (ความรู้) หรือสติปัญญา หรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งนั้น ๆ แล้วนำสิ่งที่รู้ (ความรู้) ไปสร้างให้เกิดความเข้าใจวิเคราะห์สังเคราะห์และประเมินผลในที่สุดแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ความรู้ ได้แก่ ให้ความหมายได้บอกเรื่องราวได้บอกชื่อได้กล่าวเป็นถ้อยคำหรือข้อความได้เลือกได้1.2 ความเข้าใจ ได้แก่ แยกแยะได้อธิบายได้แปลความหมายได้บข้อความได้ให้เหตุผลได้ขยายความได้คาดคะเนได้สรุปความได้ย่อความ ได้อ้างอิงได้ยกตัวอย่างได้ทำนายได้เขียนข้อความใหม่ได้1.3 การนำไปใช้ ได้แก่ ปฏิบัติได้แสดงได้เตรียมการได้ผลิตได้เปลี่ยนแปลงได้สาธิตได้คำนวณได้แก้ปัญหาได้ใช้สิ่งต่างๆได้สัมพันธ์เรื่องราวได้คิดค้นได้ทำให้ดูได้1.4 วิเคราะห์ ได้แก่ แยกแยะได้จำแนกได้แบ่งกลุ่มได้อ้างอิงได้1.5 สังเคราะห์ ได้แก่ รวบรวมได้จัดกลุ่มได้รวมกันได้ประกอบสิ่งต่าง ๆ ได้สร้างสรรค์ได้อธิบายได้จัดระเบียบใหม่ได้วางแผนได้สร้างใหม่ได้1.6 ประเมินค่า ได้แก่ เกิดความซาบซึ้งเห็นความแตกต่างเปรียบเทียบ ได้สรุปความได้วิจารณ์ได้บรรยายได้แยกแยะได้ตัดสินได้อธิบายได้แปลความได้สัมพันธ์เรื่องราวได้สรุปย่อได้2 ด้านทักษะ (จิต Domain) ๆ ทางกาย และพัฒนาเป็นทักษะชั้นสูงโดยการตอบสนองสิ่งที่ซับซ้อนขึ้น พฤติกรรมที่แสดงว่ามีทักษะอาจแสดงออกมาให้เห็นได้ดังนี้2.1 แสดงได้ถูกลักษณะเช่นว่ายน้ำวิ่งนั่งเดิน ฯลฯ2.2 ปฏิบัติได้ถูกต้องเช่นตัดเย็บตอกตะปูเลื่อย ฯลฯ2.3 แสดงความคล่องแคล่วให้เห็นเช่นตัดเย็บเสื้อผ้าทอผ้า ซ่อมจักรเย็บผ้าปะชุนเสื้อผ้า ฯลฯ3 ด้านความรู้สึกนึกคิด (Affective Domain) ความรู้สึกนึกคิดและเจตคติ ๆ และเกิดการรับรู้ในสิ่งนั้น ๆ แล้วตอบสนองและให้คุณค่าต่าง ๆ ในสิ่งที่ตนรับรู้ พฤติกรรมที่แสดงทัศนคติรัตนาแสดงออกได้ดังนี้3.1 การยอมรับ ได้แก่ สอบถามเลือกตอบชี้ประเด็นยึดถือ3.2 การตอบสนอง ได้แก่ ตอบนำเสนอต้อนรับรายงานเลือกบอก3.3 การสร้างคุณค่า ได้แก่ ชี้ความแตกต่างพิสูจน์มีส่วนร่วมทำตามริเริ่ม3.4 การจัด ระบบ ได้แก่ รวมเปรียบเทียบเปลี่ยนแปลงผสมผสานจัด3.5 การสร้างลักษณะตามคุณค่า ได้แก่ ถามฟังใช้หลากหลายกระทำคุณภาพเขียนโดย perapon ที่ 01:50

































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมเป็นวัตถุประสงค์ที่ระบุว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะสามารถทำอะไรได้

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมหรือรู้อะไรหลังจากได้รับการฝึกอบรมแล้วการแสดงความสามารถตามวัตถุประสงค์นี้ไม่จำกัดด้วยเวลายอม



ให้แต่ละคนเรียนตามความพร้อมของตนเองและสนใจการเกิดทักษะหรือรอบรู้เนื้อหาและบรรลุวัตถุประสงค์เชิงปฏิบัติวัตถุประสงค์พฤติกรรมกำหนดในลักษณะที่สามารถสังเกตผลการปฏิบัติได้ทั้งส่วนที่เป็นความรู้และทักษะที่ต้องการในการปฏิบัตินั้นๆวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมประกอบด้วย

1บอกถึงทักษะหรือพฤติกรรมที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแสดงออกหลังฝึกอบรมแล้ว
2 บอกเงื่อนไขที่ใช้ในการพิจารณาหรือประเมินผลการปฏิบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
3 บอกถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่สามารถยอมรับได้

หลักการกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
1 วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อควรเขียนสั้นจะแต่ให้ได้ใจความชัดเจนเพียงหนึ่งหรือสองประโยคเท่านั้นและมีความยาว

2วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อจะระบุพฤติกรรมที่คาดว่าจะเกิดเพียงหนึ่งพฤติกรรม
3 ไม่ใช่สิ่งที่เป็นนามธรรมพฤติกรรมที่ระบุในวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องเป็นพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้

4 .คำที่ใช้ในการเขียนวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องเป็นคำที่มีลักษณะชี้เฉพาะเจาะจงไม่ใช้คำที่มีความหมายกว้างจนยากแก่การตีความ

5วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมไม่ควรกำหนดเป็นหัวข้อย่อยจะหลายข้อเกินไปควรจะเน้นที่
สำคัญจะเท่านั้น
6 วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมควรครอบคลุมลักษณะสำคัญจะของการเรียนรู้ทั้งในด้านความรู้
ทักษะและความรู้สึกนึกคิด
7 วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแต่ละข้อต้องระบุพฤติกรรมปลายทางที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้รับ

วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมการฝึกจำแนกได้เป็น 3 ด้านความ
1ด้านความรู้หรือสติปัญญา ( ความรู้ ) เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาหรือสติปัญญาโดยเริ่มตั้งแต่การที่บุคคลมีความสามารถในการจดจำเนื้อหาหรือข้อเท็จจริง

ทางสมองเกี่ยวกับสิ่งนั้นจะแล้วนำสิ่งที่รู้ ( ความรู้ ) ไปสร้างให้เกิดความเข้าใจวิเคราะห์สังเคราะห์และประเมินผล
ในที่สุดแบ่งออกเป็น 6 ระดับโดยเรียงลำดับจากที่ซับซ้อนน้อยที่สุดไปหามากที่สุด
11 ความรู้ได้แก่ให้ความหมายได้บอกเรื่องราวได้บอกชื่อได้กล่าวเป็นถ้อยคำ

หรือข้อความได้เลือกได้ 1.2 ความเข้าใจได้แก่แยกแยะได้อธิบายได้แปลความหมายได้เปลี่ยนข้อความ
ได้ให้เหตุผลได้ขยายความได้คาดคะเนได้สรุปความได้ย่อความได้อ้างอิงได้ยกตัวอย่างได้

ทำนายได้เขียนข้อความใหม่ได้ 1.3 การนำไปใช้ได้แก่ปฏิบัติได้แสดงได้เตรียมการได้ผลิตได้เปลี่ยนแปลงได้
สาธิตได้คำนวณได้แก้ปัญหาได้ใช้สิ่งต่างๆได้สัมพันธ์เรื่องราวได้คิดค้นได้ทำให้ดูได้
1.4 วิเคราะห์ได้แก่แยกแยะได้จำแนกได้แบ่งกลุ่มได้อ้างอิงได้
15 สังเคราะห์ได้แก่รวบรวมได้จัดกลุ่มได้รวมกันได้ประกอบสิ่งต่างจะได้
สร้างสรรค์ได้อธิบายได้จัดระเบียบใหม่ได้วางแผนได้สร้างใหม่ได้
16 ประเมินค่าได้แก่เกิดความซาบซึ้งเห็นความแตกต่างเปรียบเทียบได้สรุป
ความได้วิจารณ์ได้บรรยายได้แยกแยะได้ตัดสินได้อธิบายได้แปลความได้สรุปย่อได้สัมพันธ์เรื่องราวได้

2ด้านทักษะ ( พิสัย ) เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาทางด้านทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมต่างจะโดยเริ่มตั้งแต่ที่บุคคลรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้ารวมทั้งการ

เคลื่อนไหวด้วยกล้ามเนื้อแล้วเตรียมความพร้อมทางสติปัญญาทางกายและทางอารมณ์ที่จะปฏิบัติหรือจากนั้นจึงตอบสนองโดยแสดงออกด้วยการเลียนแบบหรือลองผิดลองถูกจนเกิด

ลงมือทำอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นทักษะนิสัยและพัฒนาเป็นทักษะชั้นสูงโดยการตอบสนองสิ่งที่ซับซ้อนขึ้นและสามารถแสดงการใช้
ทักษะที่ผสมผสานอย่างคล่องแคล่วและมั่นใจพฤติกรรมที่แสดงว่ามีทักษะอาจแสดงออกมาให้เห็นได้ดังนี้
21 แสดงได้ถูกลักษณะเช่นว่ายน้ำวิ่งนั่งเดินฯลฯ
2.2 ปฏิบัติได้ถูกต้องเช่นตัดเย็บตอกตะปูเลื่อยฯลฯ
2.3 แสดงความคล่องแคล่วให้เห็นเช่นตัดเย็บเสื้อผ้าทอผ้าซ่อมจักรเย็บผ้า
ปะชุนเสื้อผ้าฯลฯ

3ด้านความรู้สึกนึกคิด ( เจตคติ ) เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการพัฒนา
ทางด้านจิตใจความรู้สึกนึกคิดและเจตคติโดยเริ่มตั้งแต่ที่บุคคลรับประสบการณ์จากสิ่งหนึ่งจะและเกิด
การรับรู้ในสิ่งนั้นจะไม่มีแล้วตอบสนองและให้คุณค่าต่างในสิ่งที่ตนรับรู้จากนั้นจึงนำสิ่งที่เป็นคุณค่าเหล่านั้นพฤติกรรมที่แสดงทัศนคติอาจแสดง

มาจัดเรียงเป็นระบบแล้วสร้างเป็นลักษณะนิสัยหรือบุคลิกตามคุณค่าออกได้ดังนี้
3.1 การยอมรับได้แก่สอบถามเลือกตอบชี้ประเด็นยึดถือ
3.2 การตอบสนองได้แก่ตอบนำเสนอต้อนรับรายงานเลือกบอก
3.3 การสร้างคุณค่าได้แก่ชี้ความแตกต่างพิสูจน์มีส่วนร่วมทำตามริเริ่ม
34 การจัดระบบได้แก่รวมเปรียบเทียบเปลี่ยนแปลงผสมผสานจัด
3.5 การสร้างลักษณะตามคุณค่าได้แก่ถามฟังใช้หลากหลายกระทำคุณภาพ
เขียนโดยพีระพลที่ 01:50
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: