In recent years, firms have greatly

In recent years, firms have greatly increased the amount of resources allocated to activities classified as Corporate Social Responsibility (CSR). While an increase in CSR expenditure may be consistent with firm value maximization if it is a response to changes in stakeholders’ preferences, we argue that a firm’s insiders (managers and large blockholders) may seek to over- invest in CSR for their private benefit to the extent that doing so improves their reputations as good global citizens and has a “warm-glow” effect. We test this hypothesis by investigating the relation between firms’ CSR ratings and their ownership and capital structures. Employing a unique data set that categorizes the largest 3000 U.S. corporations as either socially responsible (SR) or socially irresponsible (SI), we find that on average, insiders’ ownership and leverage are negatively related to the firm’s social rating, while institutional ownership is uncorrelated with it. Assuming that higher CSR ratings is associated with higher CSR expenditure level, these results support our hypothesis that insiders induce firms to over-invest in CSR when they bear little of the cost of doing so.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปีที่ผ่านมา บริษัท ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากจำนวนของทรัพยากรที่จัดสรรให้กับกิจกรรมที่จัดว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย csr อาจจะสอดคล้องกับมูลค่าสูงสุดของ บริษัท หากมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย,เรายืนยันว่าบุคคลภายในของ บริษัท (ผู้จัดการและ blockholders ขนาดใหญ่) อาจหาทางที่จะมากกว่าการลงทุนในความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของพวกเขาในขอบเขตที่การทำเช่นนั้นจะช่วยเพิ่มชื่อเสียงของพวกเขาเป็นพลเมืองโลกที่ดีและมี "อุ่นเรืองแสง" ผล เราจะทำการทดสอบสมมติฐานนี้โดยการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง บริษัท 'คะแนน csr และเป็นเจ้าของของพวกเขาและโครงสร้างเงินทุนจ้างชุดข้อมูลที่ไม่ซ้ำที่ categorizes ที่ใหญ่ที่สุด 3000 เรา บริษัท เป็นทั้งความรับผิดชอบต่อสังคม (SR) หรือขาดความรับผิดชอบต่อสังคม (Si) เราพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วเจ้าของภายในและยกระดับการมีความสัมพันธ์ทางลบกับคะแนนทางสังคมของ บริษัท ในขณะที่เจ้าของสถ​​าบันเป็น uncorrelated กับมัน สมมติว่าคะแนนสูงกว่าความรับผิดชอบต่อสังคมมีความสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าระดับ csr,ผลลัพธ์เหล่านี้สนับสนุนสมมติฐานของเราที่ก่อให้เกิดภายใน บริษัท ไปลงทุนใน csr เมื่อพวกเขาแบกรับค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการทำเช่นนั้น.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เพิ่มจำนวนทรัพยากรที่ปันส่วนให้กับกิจกรรมที่จัดเป็นองค์กรทางสังคมความรับผิดชอบ (CSR) ขึ้นอย่างมาก ในขณะที่การเพิ่มรายจ่ายของ CSR อาจสอดคล้องกับมูลค่าของบริษัท maximization ถ้าการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของเสีย เราโต้แย้งว่า บุคคลภายในของบริษัท (ผู้จัดการและ blockholders ขนาดใหญ่) อาจพยายามเกินลงทุนใน CSR เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของพวกเขาที่ทำเพื่อปรับปรุงตนย่อมเป็นพลเมืองโลกที่ดี และได้ผล "อุ่นเรืองแสง" เราทดสอบสมมติฐานนี้ โดยตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างอันดับของ CSR ของบริษัท และเป็นเจ้าของ และโครงสร้างเงินทุน เราใช้ชุดข้อมูลเฉพาะที่จัดประเภท 3000 ฿บริษัทใหญ่ที่สุด เป็นการรับผิดชอบต่อสังคม (SR) หรือสังคมหลาย (ซี), พบว่า โดยเฉลี่ย บุคคลภายในของเจ้าและยกระดับส่งสัมพันธ์ของบริษัทสังคมอันดับ ขณะ uncorrelated กับเจ้าของสถาบัน สมมติว่า CSR จัดอันดับที่สูงขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายสูงกว่า CSR ระดับ ผลลัพธ์เหล่านี้สนับสนุนสมมติฐานของเราว่า บุคคลภายในก่อให้เกิดบริษัทมากเกินไปลงทุนใน CSR เมื่อพวกหมีน้อยต้นทุนทำให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นของทรัพยากรที่จัดสรรไว้เพื่อไปยังแหล่งกิจกรรมการจำแนกให้เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท( CSR )เป็นอย่างมาก ในขณะที่การเพิ่มขึ้นในส่วนของการใช้จ่าย CSR Remote Call Station อาจจะต้องสอดคล้องกับผลความคุ้มค่าบริษัทหากเป็นการตอบสนองที่การเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าของผู้มีส่วนได้เสียเราให้เหตุผลว่าที่บริษัทของนักวิชาการออก(ผู้จัดการและมีขนาดใหญ่ blockholders )อาจเลื่อนไปมากกว่า - ลงทุนใน CSR Remote Call Station สำหรับของตนส่วนตัวได้รับประโยชน์เท่าที่ทำได้ดีขึ้นได้ผลักดันเป็นพลเมืองดีระดับโลกและมี"ความอบอุ่น - แสง"มีผล เราจะทำการทดสอบสมมุติฐานนี้ด้วยการสืบความสัมพันธ์ระหว่าง CSR การจัดอันดับของบริษัทและเป็นเจ้าของและโครงสร้างเงินทุนใช้ชุดข้อมูลที่โดดเด่นที่รวบรวมคอนเทนต์ต่างๆ 3000 บริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาเป็นทั้งผู้รับผิดชอบต่อสังคม( SR )หรือขาดความรับผิดชอบต่อสังคม(ศรี)เราก็จะพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วความเป็นเจ้าของของนักวิชาการออกมาช่วยและจะส่งผลกระทบในทางลบที่เกี่ยวข้องกับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางสังคมของบริษัทที่เป็นเจ้าของสถาบันในขณะที่มี uncorrelated พร้อมด้วย สมมติว่าการจัดอันดับ CSR Remote Call Station ที่สูงขึ้นมีการเชื่อมโยงกับระดับการใช้จ่าย CSR สูงขึ้นผลการทดสอบนี้สนับสนุนสมมติฐานของเราที่นักวิชาการออกมากระตุ้นให้บริษัทมากกว่าไปลงทุนใน CSR เมื่อเขาจะต้องรับโทษเพียงเล็กน้อยของค่าใช้จ่ายในการทำเช่นนั้น.