the idea and desire for this book i

the idea and desire for this book is simply to offer a solution to an obvious but massive problem: the sadness we often experience in work and in life.

before embarking on the journey of writing this book, i read several books on peripheral topics. some general takeaways were 1. the books were too long, 2. some were pretty dull, and 3. they were largely written by academics, as opposed to people in the trenches. as to length, have you ever wondered whether authors feel obliged to deliver a long manuscript of 300+ pages to justify the cost of a book? most of us enjoy a long fiction novel with which we can escape from reality, but when it comes to an inspirational book, most of us want someting short, sweet, to the point, and impactful. by page 200, many of us are struggling to figure out the few key takeaways or exercises that we need to go through to actually accomplish to goals of the book

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความคิดและความปรารถนาสำหรับหนังสือเล่มนี้เป็นเพียงการ นำเสนอการแก้ไขปัญหาชัดเจน แต่ขนาดใหญ่: ความโศกเศร้าเรามักจะพบ ในการทำงาน และ ในชีวิต ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการในการเดินทางของการเขียนหนังสือเล่มนี้ ฉันอ่านหนังสือหลายหัวข้ออุปกรณ์ต่อพ่วง บางอย่างเกี่ยวกับภัตตาคารทั่วไปได้ 1 หนังสือมีความยาวเกินไป 2 บางคนสวยน่าเบื่อ และ 3 นอกจากนี้พวกเขาส่วนใหญ่ที่เขียน โดยนักวิชาการ ตรงข้ามกับคน trenches เป็นความยาว คุณเคยสงสัยว่า ว่า เกรงส่งฉบับยาว 300 + หน้าให้ต้นทุนของหนังสือผู้เขียน ส่วนมากของเราเพลิดเพลินกับนวนิยายนิยายยาวซึ่งเราสามารถหลีกหนีจากความจริง แต่เมื่อมันมาถึงหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ ส่วนใหญ่ของเราต้องการอะไรสั้น หวาน จุด และ impactful โดยหน้า 200 หลาย ๆ คนดิ้นรนเพื่อทราบเกี่ยวกับภัตตาคารคีย์น้อยหรือออกกำลังกายที่เราต้องไปผ่านจริง ทำให้เป้าหมายของหนังสือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความคิดและความปรารถนาสำหรับหนังสือเล่มนี้เป็นเพียงที่จะนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่จะเกิดปัญหาที่เห็นได้ชัด แต่ขนาดใหญ่. ความโศกเศร้าของเรามักจะมีประสบการณ์ในการทำงานและในชีวิตก่อนที่จะเริ่มดำเนินการในการเดินทางของการเขียนหนังสือเล่มนี้ผมอ่านหนังสือหลายเล่มในหัวข้อต่อพ่วง บางคนคบทั่วไปมีดังนี้ 1. หนังสือเป็นเวลานานเกินไป 2. บางคนที่น่าเบื่อสวยและ 3. พวกเขาถูกเขียนโดยนักวิชาการส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่ในสนามเพลาะ เป็นความยาวที่คุณเคยสงสัยว่าผู้เขียนรู้สึกว่าจำเป็นต้องส่งต้นฉบับยาว 300 + หน้าเพื่อแสดงให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายของหนังสือเล่ม? ส่วนใหญ่ของเราเพลิดเพลินกับนวนิยายยาวกับที่เราสามารถหลบหนีจากความเป็นจริง แต่เมื่อมันมาถึงหนังสือสร้างแรงบันดาลใจส่วนใหญ่ของเราต้องการ someting สั้นหวานไปยังจุดที่และมีประสิทธิภาพ โดยหน้า 200 เราหลายคนกำลังดิ้นรนที่จะคิดออกที่สำคัญบางประเด็นหรือการออกกำลังกายที่เราต้องผ่านไปจริงบรรลุเป้าหมายของหนังสือเล่มนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความคิดและความปรารถนาสำหรับหนังสือเล่มนี้ เป็นเพียงการเสนอทางออกที่ชัดเจน แต่ปัญหาใหญ่ : ความเศร้าที่เรามักพบในงานและในชีวิต

ก่อน embarking ในการเดินทางของการเขียนหนังสือเล่มนี้ ฉันอ่านหนังสือหลายเล่มในหัวข้ออุปกรณ์ต่อพ่วง ประเด็นทั่วไปได้แก่ 1 . หนังสือยาวเกินไป 2 . บางคนก็กร่อย และ 3 . พวกเขาส่วนใหญ่ที่เขียนโดยนักวิชาการตรงข้ามกับคนที่อยู่ลึกๆ ตามความยาว คุณเคยสงสัยว่าผู้เขียนรู้สึกผูกพันที่จะต้องส่งมอบต้นฉบับยาว 300 หน้า การปรับค่าใช้จ่ายของหนังสือ ส่วนใหญ่ของเราเพลิดเพลินกับนวนิยายยาวซึ่งเราสามารถหนีจากความจริง แต่เมื่อมาเป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดเราต้องการบางอย่างสั้น หวาน ตรงประเด็น และสุดยอด . โดยหน้า 200คนเราจะดิ้นรนเพื่อหาคีย์ไม่กี่ประเด็น หรือแบบฝึกหัดที่เราต้องผ่านไปได้จริง บรรลุเป้าหมายของหนังสือ