OverviewImmediately after the Civil

Overview
Immediately after the Civil War, Susan B. Anthony, a strong and outspoken advocate of women's rights, demanded that the Fourteenth Amendment include a guarantee of the vote for women as well as for African-American males. In 1869, Anthony and Elizabeth Cady Stanton founded the National Woman Suffrage Association. Later that year, Lucy Stone, Julia Ward Howe, and others formed the American Woman Suffrage Association. However, not until the passage of the Nineteenth Amendment in 1919 did women throughout the nation gain the right to vote.
During the late 1800s and early 1900s, women and women's organizations not only worked to gain the right to vote, they also worked for broad-based economic and political equality and for social reforms. Between 1880 and 1910, the number of women employed in the United States increased from 2.6 million to 7.8 million. Although women began to be employed in business and industry, the majority of better paying positions continued to go to men. At the turn of the century, 60 percent of all working women were employed as domestic servants. In the area of politics, women gained the right to control their earnings, own property, and, in the case of divorce, take custody of their children. By 1896, women had gained the right to vote in four states (Wyoming, Colorado, Idaho, and Utah). Women and women's organizations also worked on behalf of many social and reform issues. By the beginning of the new century, women's clubs in towns and cities across the nation were working to promote suffrage, better schools, the regulation of child labor, women in unions, and liquor prohibition.
Not all women believed in equality for the sexes. Women who upheld traditional gender roles argued that politics were improper for women. Some even insisted that voting might cause some women to "grow beards." The challenge to traditional roles represented by the struggle for political, economic, and social equality was as threatening to some women as it was to most men.
To find additional documents on this topic in American Memory, use such key words as women's rights, equality, social reform, and voting rights.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาพรวมทันทีหลังจากสงครามกลางเมือง ซูซาน B. Anthony ความแข็งแรง และเปิดเผยผู้สนับสนุนสิทธิสตรี ต้องการให้ แก้ไข Fourteenth รวมรับประกันโหวตสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างดีสำหรับชาย African-American ในงแมง Anthony และเอลิซาเบธ Cady สแตนตันก่อตั้งสมาคม Suffrage ผู้หญิงแห่งชาติ ต่อปี ลูซี่หิน จูเลียวอร์ดฮาว และอื่น ๆ เกิดขึ้นสมาคม Suffrage ผู้หญิงอเมริกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ถึงกาลแก้ไขตกแต่งใน 1919 ได้ผู้หญิงทั่วประเทศด้านขวาลงโดยไม่รับเพราะช่วงปลายและช่วงภาพกลาย องค์กรผู้หญิงและผู้หญิงไม่เพียงแต่ทำเพื่อสิทธิในการลงคะแนนเสียง พวกเขายังทำงาน ในหลากหลายทางเศรษฐกิจ และการเมืองความเสมอภาค และ การปฏิรูปสังคม ระหว่าง 1880 และ 1910 จำนวนของผู้หญิงที่ทำงานในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นจาก 2.6 ล้านถึง 7.8 ล้าน แม้ว่าผู้หญิงที่เริ่มทำงานในธุรกิจ และอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ ดีขึ้น จ่ายตำแหน่งต่อไปผู้ชาย ที่เปิดศตวรรษ ร้อยละ 60 ของคนทำงานทั้งหมดถูกจ้างเป็นข้าราชการในประเทศ ในพื้นที่เมือง ผู้หญิงได้รับสิทธิในการควบคุมรายได้ของพวกเขา ที่ดิน และ ในกรณีของการหย่าร้าง ใช้เวลาของเด็ก โดย 1896 ผู้หญิงได้รับสิทธิในอเมริกา 4 (ไวโอมิง โคโลราโด ไอดาโฮ และยูทาห์) องค์กรผู้หญิงและผู้หญิงยังทำงานในนามของปัญหาสังคม และปฏิรูปมาก โดยจุดเริ่มต้นของศตวรรษใหม่ ชมรมสตรีในเมืองและเมืองทั่วประเทศได้ทำงานเพื่อส่งเสริม suffrage โรงเรียนที่ดี ระเบียบของแรงงานเด็ก สตรีในสหภาพแรงงาน และเหล้า prohibitionผู้หญิงที่ไม่เชื่อในความเท่าเทียมกันสำหรับเพศ ผู้หญิงที่ยึดถือบทบาทเพศดั้งเดิมโต้เถียงว่า การเมืองไม่เหมาะสมสำหรับผู้หญิง บางอย่างแม้จะยืนยันว่า การลงคะแนนเสียงอาจเป็นการทำให้ผู้หญิงบางคนจะ "เติบโตเบียด" ท้าทายกับบทบาทที่แสดง โดยการต่อสู้เพื่อความเสมอภาคทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมดั้งเดิมถูกตามคุกคามกับผู้หญิงบางคนเพราะเป็นชายมากที่สุดค้นหาเอกสารเพิ่มเติมในหัวข้อนี้ในหน่วยความจำอเมริกัน ใช้คำสำคัญเช่นสิทธิสตรี ความเสมอภาค ปฏิรูปสังคม และสิทธิออกเสียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาพรวมทันทีหลังจากสงครามกลางเมืองซูซานบีแอนโทนี่เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งและตรงไปตรงมาของสิทธิสตรีถามว่าสิบสี่คำแปรญัตติรวมถึงการรับประกันการโหวตสำหรับผู้หญิงเช่นเดียวกับเพศชายแอฟริกันอเมริกัน ในปี 1869 แอนโธนีและลิซาเบ ธ เคดี้สแตนตันผู้ก่อตั้งผู้หญิงแห่งชาติสมาคมคะแนน ปีหลังจากนั้นหินลูซี่จูเลียวอร์ดฮาวและคนอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นผู้หญิงอเมริกันสมาคมคะแนน แต่ไม่ได้จนกว่าทางเดินของสิบเก้าแก้ไขเพิ่มเติมในปี 1919 ไม่ผู้หญิงทั่วประเทศที่ได้รับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน. the
ในช่วงปลายยุค 1800 และต้นปี 1900 ผู้หญิงและองค์กรสตรีไม่เพียง แต่ทำงานที่จะได้รับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนที่พวกเขายังทำงานให้กว้าง ชั่นความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและทางการเมืองและการปฏิรูปทางสังคม ระหว่าง 1880 และ 1910 จำนวนของผู้หญิงที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 2,600,000-7,800,000 แม้ว่าผู้หญิงเริ่มที่จะได้รับการว่าจ้างในธุรกิจและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของตำแหน่งที่จ่ายที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องที่จะไปกับผู้ชาย ที่หันของศตวรรษที่ร้อยละ 60 ของผู้หญิงที่ทำงานทั้งหมดถูกจ้างมาเป็นคนรับใช้ในประเทศ ในพื้นที่ของการเมืองที่ผู้หญิงได้รับสิทธิในการควบคุมกำไรของพวกเขาทรัพย์สินของตัวเองและในกรณีของการหย่าร้างที่ใช้ดูแลเด็กของพวกเขา โดยปี 1896 ผู้หญิงที่ได้รับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนในสี่รัฐ (ไวโอมิง, โคโลราโด, ไอดาโฮและยูทาห์) ผู้หญิงและองค์กรสตรียังทำงานในนามของหลายประเด็นทางสังคมและการปฏิรูป โดยจุดเริ่มต้นของศตวรรษใหม่ที่สโมสรของสตรีในเมืองและเมืองทั่วประเทศที่กำลังทำงานเพื่อส่งเสริมการอธิษฐานโรงเรียนที่ดีกว่าการควบคุมการใช้แรงงานเด็กผู้หญิงในสหภาพและห้ามสุรา.
ผู้หญิงทุกคนไม่เชื่อในความเท่าเทียมกันทางเพศ ผู้หญิงที่ยึดถือบทบาททางเพศแบบดั้งเดิมที่ถกเถียงกันอยู่ว่าการเมืองเป็นที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้หญิง บางคนยืนยันว่าแม้การลงคะแนนอาจทำให้ผู้หญิงบางคนที่จะ "เติบโตเครา." ท้าทายกับบทบาทแบบดั้งเดิมที่แสดงโดยการต่อสู้เพื่อการเมืองเศรษฐกิจและความเท่าเทียมกันทางสังคมเป็นขู่ว่าจะผู้หญิงบางคนที่มันเป็นกับผู้ชายมากที่สุด.
เพื่อหาเอกสารเพิ่มเติมในหัวข้อนี้ในหน่วยความจำของชาวอเมริกันใช้ที่สำคัญเช่นคำพูดเป็นสิทธิสตรีเท่าเทียมกัน การปฏิรูปสังคมและมีสิทธิออกเสียง