It was obvious that the most import

It was obvious that the most important inter-specific barrier of the cross between C. baccatum L. accession no. KKU-P34021 (cv. B)and C. chinense Jacq. accession no. KKU-P11176 (cv. C) occurred during the development of the embryo. The pollen germination posed no barriers for hybridization because pollen of both cultivars was able to germinate well in the germination medium, although pollen germination was higher for those collected on the blooming day than one day before blooming and the pollen should be germinated immediately after collection. The most suitable germination medium was the one supplemented with 5% sucrose. The ‘cv.C’ pollen tended to give a slightly higher germination percentage than ‘cv. B’. The flowering stage at which the pollen was collected(day −1 or day 0) had variable effects on the pollen tube length of ‘cv. C’, but for ‘cv. B’ the pollen collected on day 0 in most cases could grow a longer pollen tube than those collected on day −1. The germination medium supplemented with 5% sucrose also induced the best pollen tube growth for ‘cv. C’ in addition to giving the high-est percent germination. It is well-established that sucrose is the most common energy source utilized during pollen germinationand pollen tube growth for synthesis of cell wall materials including pectins, cellulose and callose (Mascarenhas, 1993) and optimum sucrose concentrations for different plant species varied greatly.Similar to this study, Mercado et al. (1994) found that pepper pollen (C. annuum L.) required relatively low sucrose concentration(5–10%) for germination and gave rise to comparable maximum percentage of pollen germination. However, media with sucrose concentration higher than 30% gave the low pollen germination and pollen tube growth due to their imbalance between water and sugar, and resulted in loss of pollen germination (Chaengkrachanget al., 2006; Mascaren has and Bell, 1969). It appeared that pollen of ‘cv. C’ could develop as much as 2–3 times longer pollen tubes than ‘cv. B’ under most conditions tested. The genotypic differencein pollen germination and pollen tube growth could be due to thevariation in their pollen carbohydrate concentration (Pacini, 1996).The information on factors affecting pollen germination and tube growth of C. chinense and C. baccatum in this study could be useful for preparing the good quality pollen in producing the hybrid seeds between these two species.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชัดเจนว่า อุปสรรคสำคัญที่สุดระหว่างการข้ามระหว่าง C. baccatum L. ทะเบียนไม่ได้ ดิ-P34021 (พันธุ์ B) และ C. chinense Jacq ทะเบียนไม่มี ดิ-P11176 (พันธุ์ C) เกิดขึ้นในระหว่างการพัฒนาของตัวอ่อน การงอกละอองเกสรอึ้งไม่อุปสรรคการ hybridization เนื่องจากละอองเกสรของพันธุ์ทั้งสองได้ germinate ในการงอกกลาง แม้ว่าการงอกของละอองเกสรสูงขึ้นสำหรับผู้รวบรวมในช่วงต้นร้ายพันธุวันมากกว่าหนึ่งวันก่อน blooming และควร germinated ละอองเกสรในทันทีหลังจากคอลเลกชัน สื่อการงอกที่เหมาะสมที่สุดหนึ่งที่เสริม ด้วย 5% ซูโครส ' CvC' ละอองเกสรมีแนวโน้มที่จะ ให้เปอร์เซ็นต์การงอกสูงขึ้นเล็กน้อยกว่า 'พันธุ์ B' ระยะดอกซึ่งละอองเกสรที่ถูกรวบรวม (−1 วันหรือวัน 0) มีความยาวท่อละอองเกสรของ 'พันธุ์ C' แปรผล แต่สำหรับ 'พันธุ์ B' ละอองเกสรรวบรวมในวันที่ 0 ใหญ่สามารถเติบโตหลอดละอองเกสรยาวกว่าผู้รวบรวมในวัน −1 การงอกสื่อเสริม ด้วย 5% ซูโครสยังเกิดเติบโตท่อละอองเกสรสุดสำหรับ 'พันธุ์ C' นอกจากให้การงอกเปอร์เซ็นต์สูง-est ก็ดีขึ้นว่าซูโครสแหล่งพลังงานทั่วไปที่ใช้ระหว่างละอองเกสร germinationand ท่อละอองเกสรเจริญเติบโตการสังเคราะห์วัสดุผนังเซลล์ pectins เซลลูโลส และ callose (Mascarenhas, 1993) และความเข้มข้นของซูโครสที่เหมาะสมสำหรับชนิดของพืชที่แตกต่างกันแตกต่างกันมากเช่นเดียวกับการศึกษานี้ Mercado et al. (1994) พบว่า ละอองเกสรพริก (C. annuum L.) ซูโครสค่อนข้างต่ำ concentration(5–10%) ที่จำเป็นสำหรับการงอก และให้เปอร์เซ็นต์สูงสุดเทียบเท่าของการงอกของละอองเกสร อย่างไรก็ตาม สื่อกับซูโครสความเข้มข้นสูงกว่า 30% ให้การงอกของละอองเกสรต่ำและเจริญเติบโตของละอองเกสรหลอดเนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างน้ำและน้ำตาล และส่งผลให้สูญเสียการงอกของละอองเกสร (Chaengkrachanget al., 2006 Mascaren และ ระฆัง 1969) ปรากฏว่า ละอองเกสรของ 'พันธุ์ C' สามารถพัฒนาหลอดละอองเกสรมากถึง 2-3 ครั้งนานกว่าทดสอบเงื่อนไข 'พันธุ์ B' ภายใต้ส่วนใหญ่ จีโนไทป์ differencein ละอองเกสร pollen tube และการงอกเจริญเติบโตอาจเป็น เพราะ thevariation ในของละอองเกสรคาร์โบไฮเดรตความเข้มข้น (Pacini, 1996)ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อละอองเกสรการงอกและยางเจริญเติบโตของ C. chinense และ C. baccatum ในการศึกษานี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับเตรียมละอองเกสรคุณภาพดีในการผลิตเมล็ดพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์เหล่านี้สอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเห็นได้ชัดว่าอุปสรรคระหว่างเฉพาะที่สำคัญที่สุดของการผสมผสานกันระหว่าง C. baccatum ภาคยานุวัติลิตรไม่มี KKU-P34021 (CV. B) และ C. chinense Jacq ภาคยานุวัติไม่มี KKU-P11176 (CV. C) ที่เกิดขึ้นในระหว่างการพัฒนาของตัวอ่อน การงอกของละอองเกสรวางอุปสรรคไม่มีการผสมข้ามพันธุ์เพราะเรณูของข้าวทั้งสองพันธุ์ก็สามารถที่จะงอกได้ดีในวัสดุเพาะแม้ว่าการงอกของละอองเกสรสูงสำหรับผู้ที่เก็บรวบรวมได้ในวันที่เบ่งบานกว่าหนึ่งวันก่อนที่จะเบ่งบานและละอองเกสรดอกไม้ที่ควรจะงอกทันทีหลังจากที่คอลเลกชัน วัสดุเพาะที่เหมาะสมที่สุดเป็นหนึ่งในอาหารที่มีน้ำตาลซูโครส 5% เกสร 'cv.C' มีแนวโน้มที่จะให้เปอร์เซ็นต์การงอกสูงกว่า 'พันธุ์ B ' ระยะออกดอกที่เกสรถูกเก็บรวบรวม (-1 วันหรือวันที่ 0) มีผลตัวแปรอยู่กับความยาวหลอดเกสรของพันธุ์ C 'แต่สำหรับ' พันธุ์ B 'เกสรเก็บในวันที่ 0 ในกรณีส่วนใหญ่จะเติบโตหลอดเกสรนานกว่าผู้ที่เก็บรวบรวมได้ในวันที่ -1 กลางงอกเสริมด้วย 5% ซูโครสเหนี่ยวนำให้เกิดการเจริญเติบโตยังหลอดเกสรที่ดีที่สุดสำหรับ 'พันธุ์ C 'นอกเหนือจากการให้เปอร์เซ็นต์การงอกสูงคือ มันเป็นเรื่องที่ดีขึ้นที่น้ำตาลซูโครสเป็นแหล่งพลังงานที่พบมากที่สุดที่ใช้ในระหว่างการเจริญของหลอดเกสรเกสรงอกและการสังเคราะห์วัสดุผนังเซลล์รวมทั้ง pectins เซลลูโลสและ callose (คา, 1993) และความเข้มข้นของน้ำตาลซูโครสที่เหมาะสมสำหรับพันธุ์พืชที่แตกต่างกันแตกต่างกันที่จะ greatly.Similar การศึกษาครั้งนี้ Mercado และคณะ (1994) พบว่าเกสรพริก (พริกหยวก L. ) ที่จำเป็นค่อนข้างเข้มข้นของน้ำตาลซูโครสต่ำ (5-10%) สำหรับการงอกและก่อให้เกิดการเทียบเคียงเปอร์เซ็นต์สูงสุดของการงอกของละอองเกสร แต่สื่อที่มีความเข้มข้นสูงกว่าน้ำตาลซูโครส 30% ให้การงอกของละอองเกสรต่ำและการเจริญเติบโตของหลอดเกสรเนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างน้ำและน้ำตาลและผลในการสูญเสียการงอกของละอองเกสร (อั Chaengkrachanget 2006;. Mascaren มีและเบลล์, 1969) มันดูเหมือนเกสรของพันธุ์ที่ C 'สามารถพัฒนามากที่สุดเท่าที่ 2-3 ครั้งนานกว่าหลอดเกสร' พันธุ์ B 'ภายใต้เงื่อนไขการทดสอบมากที่สุด การงอกของละอองเกสร differencein ทางพันธุกรรมและการเติบโตของหลอดเกสรอาจเป็นเพราะ thevariation เข้มข้นคาร์โบไฮเดรตเกสรของพวกเขา (Pacini, 1996) ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของละอองเกสรและการเติบโตของหลอด C. chinense และ C. baccatum ในการศึกษาครั้งนี้อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับการได้โดยง่าย เตรียมเกสรที่มีคุณภาพดีในการผลิตเมล็ดพันธุ์ลูกผสมระหว่างทั้งสองสายพันธุ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดระหว่างอุปสรรคที่เฉพาะเจาะจงของข้ามระหว่าง C . baccatum ล. เข้าไม่ kku-p34021 พันธุ์ ข ) และ ค . chinense jacq . เข้า ไม่ kku-p11176 พันธุ์ C ที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาของตัวอ่อน . ละอองเกสรงอกจึงไม่มีอุปสรรคสำหรับเบส เพราะเกสรของถั่วเหลืองทั้งสองพันธุ์จะงอกได้ดีในการงอกกลางการงอกของละอองเกสรจะสูงกว่าผู้ที่รวบรวมไว้ในบานวันมากกว่าหนึ่งวันก่อนดอกบาน และเกสรดอกไม้จะงอกทันทีหลังจากคอลเลกชัน สื่อการงอกที่เหมาะสมที่สุดคือหนึ่งที่เติมซูโครส 5% . ' cv . C ' เกสรมีแนวโน้มให้เปอร์เซ็นต์ความงอกสูงกว่า ' พันธุ์ B 'ช่วงระยะออกดอกที่เกสร รวบรวมข้อมูล ( วัน− 1 หรือ 0 ) มีตัวแปรที่มีผลต่อความยาวของหลอดเรณู ' พันธุ์ C ' แต่ ' พันธุ์ B ' เกสรที่รวบรวมในวันที่ 0 ในกรณีส่วนใหญ่สามารถเติบโตขึ้นกว่าเก็บในหลอดเกสรวัน− 1 การงอกเติมน้ำตาลซูโครส 5% นอกจากนั้นเมื่อที่สุดของหลอดเรณู ' พันธุ์C ' ในนอกจากจะให้เปอร์เซ็นต์สูง และการงอก มันมีชื่อเสียงมากที่สุดที่ใช้แหล่งพลังงานที่ใช้ใน germinationand หลอดเรณูเกสรของการสังเคราะห์ผนังเซลล์ประกอบด้วยเซลลูโลสและเพกตินวัสดุ , แคลโล ( Mascarenhas , 1993 ) และความเข้มข้นของน้ำตาลซูโครสที่เหมาะสมสำหรับพืชชนิดต่างๆหลากหลายมาก คล้ายคลึงกับการศึกษาMercado et al . ( 1994 ) พบว่าพริกไทยเกสร ( C . annuum L . ) ต้องใช้น้ำตาลซูโครสความเข้มข้นต่ำ ( 5 – 10% ) สำหรับการงอกและให้เพิ่มขึ้นร้อยละสูงสุดเทียบเท่างอกของละอองเกสรดอกไม้ อย่างไรก็ตาม สื่อกับน้ำตาลซูโครสความเข้มข้นสูงกว่า 30% ให้ต่ำและการงอกหลอดเรณูเกสรของการเจริญเติบโตเนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างน้ำและน้ำตาลและผลในการสูญเสียของความงอกของละอองเกสร ( chaengkrachanget al . , 2006 ; mascaren มีกระดิ่ง , 1969 ) ปรากฎว่า เกสรของ ' พันธุ์ C ' สามารถพัฒนา–เท่า 2 ยาว 3 ครั้งเกสรท่อมากกว่า ' พันธุ์ B ' ภายใต้ส่วนใหญ่เงื่อนไขการทดสอบ ในการศึกษาการงอกและการเจริญเติบโตหลอดเกสรส่วนเกสรอาจจะเนื่องจากความหลากหลายของความเข้มข้นของละอองเกสรของคาร์โบไฮเดรต ( pacini , 1996 )ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการงอกและการเจริญเติบโตของหลอดละอองเกสรของ C และ C chinense baccatum ในการศึกษานี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมละอองเกสรดอกไม้ที่มีคุณภาพดีในการผลิตเมล็ดพันธุ์ลูกผสมระหว่างสองชนิด