Plate tectonics is a scientific the

Plate tectonics is a scientific theory describing the large-scale motion of 7 large plates and the movements of a larger number of smaller plates of theEarth's lithosphere, over the last 100's of millions of years. The theoretical model builds on the concept of continental drift developed during the first few decades of the 20th century. The geoscientific community accepted plate-tectonic theory after seafloor spreading was validated in the late 1950s and early 1960s. The lithosphere, which is the rigid outermost shell of a planet (the crust and upper mantle), is broken up into tectonic plates. The Earth's lithosphere is composed of seven or eight major plates (depending on how they are defined) and many minor plates. Where the plates meet, their relative motion determines the type of boundary: convergent, divergent, or transform. Earthquakes, volcanic activity, mountain-building, and oceanic trench formation occur along these plate boundaries. The relative movement of the plates typically ranges from zero to 100 mm annually. Tectonic plates are composed of oceanic lithosphere and thicker continental lithosphere, each topped by its own kind of crust. Along convergent boundaries, subduction carries plates into the mantle; the material lost is roughly balanced by the formation of new (oceanic) crust along divergent margins by seafloor spreading. In this way, the total surface of the lithosphere remains the same. This prediction of plate tectonics is also referred to as the conveyor belt principle. Earlier theories (that still have some supporters) propose gradual shrinking (contraction) or gradual expansion of the globe. Tectonic plates are able to move because the Earth's lithosphere has greater strength than the underlying asthenosphere. Lateral density variations in the mantle result in convection. Plate movement is thought to be driven by a combination of the motion of the seafloor away from the spreading ridge (due to variations in topography and density of the crust, which result indifferences in gravitational forces) and drag, with downward suction, at the subduction zones. Another explanation lies in the different forces generated by tidal forces of the Sun and Moon. The relative importance of each of these factors and their relationship to each other is unclear, and still the subject of much debate

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แผ่นเปลือกโลกคือ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อธิบายการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่แผ่นใหญ่ 7 และการเปลี่ยนแปลงของธรณีภาคของ theEarth จานขนาดเล็กจำนวนกว่า 100 สุดท้ายของล้านปี สร้างแบบจำลองทางทฤษฎีแนวคิดการพัฒนาในช่วงสองสามทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 20 ของทวีป ชุมชน geoscientific ยอมรับทฤษฎีธรณีแผ่นหลังจากก้นกระจายถูกตรวจสอบในปลายปี 1950 และช่วงต้นทศวรรษ 1960 ธรณีภาค ซึ่งเป็นเปลือกแข็งด้านนอกสุดของดาวเคราะห์ (เปลือกและเสื้อคลุมบน), จะแตกออกเป็นแผ่นเปลือกโลก ธรณีภาคของโลกประกอบด้วยเจ็ด หรือแปดแผ่นใหญ่ (ขึ้นอยู่กับว่าจะกำหนด) และแผ่นรองมากมาย แผ่นตอบสนอง การเคลื่อนที่สัมพัทธ์กำหนดชนิดของขอบเขต: องค์กร แตก ต่าง หรือเปลี่ยนแปลง แผ่นดินไหว ปะทุ สลักภูเขาอาคาร และมหาสมุทรก่อเกิดขึ้นไปตามขอบเขตของแผ่นเหล่านี้ การเคลื่อนที่สัมพัทธ์ของแผ่นปกติช่วงจากศูนย์ถึง 100 มม.ต่อปี แผ่นเปลือกโลกประกอบด้วยมหาสมุทรธรณีภาคและธรณีภาคทวีปหนา แต่ละมุง ด้วยชนิดของเปลือกโลก ตามขอบเขตขององค์กร เหลื่อมล้ำนำแผ่นลงในเสื้อคลุม วัสดุสูญหายประมาณความสมดุล โดยการก่อตัวของเปลือกโลก (มหาสมุทร) ใหม่ตามขอบที่แตกต่าง โดยการกระจายก้น ในวิธีนี้ พื้นผิวทั้งหมดของธรณีภาคยังคงเหมือนเดิม การคาดเดาของแผ่นเปลือกโลกเรียกว่าหลักการของสายพานลำเลียง ทฤษฎีก่อนหน้านี้ (ที่ยัง มีผู้สนับสนุนบาง) เสนอทีละส่วน (หดตัว) การหดตัวหรือขยายตัวทีละน้อยของโลก แผ่นเปลือกโลกจะสามารถย้ายเนื่องจากธรณีภาคของโลกมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าฐานธรณีภาคต้น เปลี่ยนแปลงความหนาแน่นข้างในผลหิ้งในการพาความร้อน การเคลื่อนไหวของแผ่นเป็นความคิดที่ได้มาจากการรวมกันของการเคลื่อนที่ของก้นทะเลห่างจากแพร่ริดจ์ (เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศและความหนาแน่นของเปลือก ซึ่งส่งผลให้ indifferences ในแรงโน้มถ่วง) และลาก มีลงดูด ที่โซนเหลื่อมล้ำ อื่นที่อยู่ในกองกำลังต่าง ๆ ที่สร้างขึ้น โดยกองกำลังยาวของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ความสำคัญของแต่ละปัจจัยเหล่านี้และความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ชัดเจน และยังเรื่องของการถกเถียงกันมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แผ่นเปลือกโลกเป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อธิบายการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ของ 7 แผ่นที่มีขนาดใหญ่และการเคลื่อนไหวของจำนวนที่มีขนาดใหญ่ของแผ่นเปลือกโลกขนาดเล็กของ theEarth ของกว่า 100 สุดท้ายของล้านปี แบบจำลองทางทฤษฎีสร้างขึ้นบนแนวคิดของทวีปที่พัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 20 ชุมชน geoscientific ยอมรับทฤษฎีแผ่นเปลือกโลกหลังจากที่ก้นทะเลปูได้รับการตรวจสอบในช่วงปลายปี 1950 และต้นปี 1960 เปลือกโลกซึ่งเป็นเปลือกนอกสุดเข้มงวดของดาวเคราะห์ (เปลือกโลกและเสื้อคลุมบน) ถูกแบ่งออกเป็นแผ่นเปลือกโลก เปลือกโลกของโลกประกอบด้วยเจ็ดหรือแปดแผ่นใหญ่ (ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะกำหนด) และแผ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกมากมาย ที่แผ่นเปลือกโลกตอบสนองความต้องการของพวกเขาเคลื่อนที่สัมพัทธ์กำหนดประเภทของขอบเขต: บรรจบที่แตกต่างกันหรือเปลี่ยน แผ่นดินไหวภูเขาไฟภูเขาอาคารและการก่อร่องลึกก้นสมุทรเกิดขึ้นพร้อมรอยต่อแผ่นเปลือกโลกเหล่านี้ การเคลื่อนไหวของญาติของแผ่นเปลือกโลกโดยทั่วไปช่วงจากศูนย์ถึง 100 มิลลิเมตรต่อปี แผ่นเปลือกโลกที่มีองค์ประกอบของเปลือกโลกมหาสมุทรและเปลือกโลกคอนติเนนหนาแต่ละยอดชนิดของตัวเองของเปลือกโลก ตามแนวรอยบรรจบเหลื่อมดำเนินแผ่นเข้าไปในเสื้อคลุม; วัสดุที่หายไปจะมีความสมดุลโดยประมาณการก่อตัวของใหม่ (มหาสมุทร) เปลือกโลกตามขอบที่แตกต่างจากก้นทะเลปู ด้วยวิธีนี้พื้นผิวทั้งหมดของเปลือกโลกยังคงเหมือนเดิม การคาดการณ์ของแผ่นเปลือกโลกนี้จะเรียกว่าเป็นหลักการสายพานลำเลียง ทฤษฎีก่อนหน้านี้ (ที่ยังคงมีผู้สนับสนุนบางส่วน) เสนอค่อยๆหดตัว (หดตัว) หรือการขยายค่อยเป็นค่อยไปของโลก แผ่นเปลือกโลกมีความสามารถที่จะย้ายเพราะเปลือกโลกของโลกมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่า asthenosphere พื้นฐาน รูปแบบความหนาแน่นด้านข้างในเสื้อคลุมผลในการพาความร้อน การเคลื่อนไหวของแผ่นเป็นความคิดที่ถูกผลักดันจากการรวมกันของการเคลื่อนที่ของพื้นทะเลห่างจากสันเขาแพร่กระจายได้ (เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิประเทศและความหนาแน่นของเปลือกโลกซึ่งส่งผลให้เกิด indifferences ในแรงโน้มถ่วง) และลากด้วยการดูดลงที่มุดตัว โซน อีกสาเหตุหนึ่งที่อยู่ในกองกำลังที่แตกต่างกันที่เกิดจากแรงน้ำขึ้นน้ำลงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ความสำคัญของแต่ละปัจจัยเหล่านี้และความสัมพันธ์ของพวกเขากับแต่ละอื่น ๆ ก็ไม่มีความชัดเจนและยังคงเป็นเรื่องของการอภิปรายมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ธรณีวิทยาเป็นวิทยาศาสตร์ทฤษฎีอธิบายการเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ของ 7 แผ่นใหญ่ และการเคลื่อนไหวของตัวเลขขนาดใหญ่ของแผ่นเล็กของ theearth ของเปลือกโลก ตั้งแต่ 100 ล้านปี แบบจำลองทางทฤษฎีที่สร้างขึ้นบนแนวคิดการเลื่อนไหลของทวีปที่พัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 20 ชุมชน geoscientific ยอมรับทฤษฎีแผ่นธรณีแปรสัณฐานหลังจากการแยกตัวของพื้นมหาสมุทรถูกตรวจสอบในปลายปี 1950 และต้นปี 1960 . เปลือกโลกซึ่งมีเปลือกนอกแข็งของดาวเคราะห์ ( เปลือกโลกและแมนเทิลส่วนบน ) จะแตกออกเป็นแผ่นเปลือกโลก . ของโลกเปลือกโลกประกอบด้วยเจ็ดหรือแปดจานหลัก ( ขึ้นอยู่กับวิธีที่พวกเขาจะถูกกำหนดและหลายรองจาน ที่จานพบการเคลื่อนที่สัมพัทธ์จะกำหนดชนิดของขอบเขต : ลู่เข้าลู่ออก หรือเปลี่ยน แผ่นดินไหวกิจกรรมภูเขาไฟสร้างภูเขาและการพัฒนาร่องลึกก้นสมุทรเกิดขึ้นตามขอบเขตที่แผ่นเหล่านี้ เทียบกับการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกมักจะช่วงจาก 0 ถึง 100 มิลลิเมตรต่อปี แผ่นเปลือกโลกจะประกอบด้วยเปลือกโลกมหาสมุทรและหนาทวีปเปลือกโลกแต่ละวงเงิน โดยชนิดของตัวเองของเปลือก ตามขอบเขตการมุดตัวของเปลือกโลกแผ่นลงเนิน , เสื้อคลุม ; วัสดุที่สูญเสียเป็นประมาณแบบสมดุล โดยการสร้างใหม่ ( มหาสมุทร ) คราบตามขอบอเนกโดยเปลือกโลกใต้มหาสมุทร . ในวิธีนี้ , พื้นผิวทั้งหมดของเปลือกโลกยังคงเหมือนเดิม นี้ทำนายของแผ่นเปลือกโลกเป็นยังเรียกว่าสายพานหลัก ก่อนหน้านี้ทฤษฎี ( ที่ยังมีผู้สนับสนุน ) เสนอค่อยๆหดตัว ( หดตัว ) หรือที่ค่อยๆขยายตัวของโลก แผ่นเปลือกโลกจะสามารถย้ายเพราะของโลกเปลือกโลกมีความแข็งแกร่งมากกว่าถึงราศีกุมภ์ . ความหนาแน่นของการเปลี่ยนแปลงในการปกคลุมผลการพาความร้อน เคลื่อนไหวจานเป็นความคิดที่จะขับเคลื่อนโดยการรวมกันของการเคลื่อนไหวของพื้นห่างจากแพร่ ริดจ์ ( เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในภูมิประเทศ และความหนาแน่นของเปลือก ซึ่งผล indifferences ในแรงโน้มถ่วงแรง ) และลาก กับการดูดลงในเขตมุดตัวของเปลือกโลก . มีคำอธิบายอยู่ในกองกําลังที่แตกต่างกันสร้างขึ้นโดยคลื่นพลังของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ความสําคัญของแต่ละปัจจัยเหล่านี้และความสัมพันธ์ของพวกเขากับแต่ละอื่น ๆ มันยังไม่ชัดเจน และยังเรื่องของการอภิปรายมาก