saying any more about that, I shoul

saying any more about that, I should clear up some possible confusions about the doctrine ofkarnla and rebirth. The
first point to make is that as Buddhists understand it, kam1a is not divine retribution fo r one's sins. The laws of karma basically have to do with receiving pleasant results fo r acting out of morally good motives, and receiving painful results for acting with evil intentions. This prompts some to ask who detem1ines what is good and what is evil. For Buddhists the answer is that no one does. Kam1a is not a set of rules that are decreed by a cosmic ruler and enforced by the cosmic moral police. Kam1a is understood instead as a set of impersonal causal laws that simply describe how the world happens to work. In this respect the karmic laws are just like the so-called natural laws that science investigates. It is a causal law that when I let go of a rock while standing on a bridge, it will fa ll toward the water below with a certain acceleration. No one passed this law, and no one enforces it. The laws of physics are not like the laws passed by legislative bodies. There are no gravity police. And if something were to behave contrary to what we take to be the law of gravity, that would be evidence that we were wrong to think it was a law. A true causal law has no exceptions. Likewise, the laws of karma are understood not as rules that can be either obeyed or broken, but as exception less.. generalizations about what always fo llows what. If we could keep track of enough persons over enough successive lives, we could find out what the laws of karma are in the same way that science discovers what the laws of nature are: our observations would disclose the patterns of regular succession that show causation at work.6

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บอกว่า เติมที่ ฉันควรล้าง confusions บางเป็นไปได้เกี่ยวกับหลักคำสอน ofkarnla และการเกิดใหม่ การ จุดแรกให้เป็นว่า เป็นชาวพุทธเข้าใจมัน kam1a ไม่ยอาจศักดิ์สิทธิ์วิบากกรรมของคนบาป โดยทั่วไปกฎหมายของกรรมต้องทำรับผลดีโฟ r ทำหน้าที่จากแรงจูงใจศีลธรรมดี และได้รับผลที่เจ็บปวดสำหรับทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจที่ชั่วร้าย นี้จะแจ้งบางถามใคร detem1ines อะไรคือดีและอะไรคือความชั่วร้าย สำหรับพุทธ คำตอบคือ ไม่มีใครไม่ Kam1a ไม่ใช่ชุดของกฎที่ประกาศิต โดยผู้ปกครองจักรวาล และบังคับใช้ โดยตำรวจศีลธรรมของจักรวาล Kam1a เป็นที่เข้าใจกันแต่เป็นชุดของตัวตนเชิงสาเหตุกฎหมายที่เพียงแค่อธิบายว่า โลกเกิดขึ้นในการ ทำงาน ในแง่นี้ กฎหมาย karmic อยู่เหมือนเรียกว่ากฎหมายธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์ตรวจสอบ มันเป็นกฎหมายเชิงสาเหตุว่า เมื่อปล่อยให้ไปของก้อนหินขณะยืนอยู่บนสะพาน มันจะฟ้าจะไปทางน้ำด้านล่างด้วยการเร่งความเร็วบาง ไม่มีใครผ่านกฎหมายนี้ และไม่มีใครบังคับ กฎหมายของฟิสิกส์ไม่ได้เช่นกฎหมายที่ผ่าน โดยร่างกฎหมาย มีตำรวจไม่มีแรงโน้มถ่วง และถ้าสิ่งที่ไปทำงานขัดกับสิ่งที่เราใช้กฎแห่งแรงโน้มถ่วง ที่จะเป็นหลักฐานว่า เราไม่ผิดที่จะคิดว่า มัน จะถูกกฎหมาย กฎหมายจริงเชิงสาเหตุมีข้อยกเว้นไม่ ทำนองเดียวกัน กฎของกรรมที่มีความเข้าใจไม่ได้ เป็นกฎที่สามารถจะเชื่อฟัง หรือเสีย แต่ เป็นข้อยกเว้นน้อยกว่า... เดิม ๆ เกี่ยวกับสิ่งเสมอ fo ธชอะไร ถ้าเราสามารถติดตามของคนพอผ่านชีวิตพอต่อ ๆ มา เราอาจหาว่ากฎหมายของกรรมทางวิทยาศาสตร์พบว่ากฎของธรรมชาติคืออะไร: สังเกตการณ์ของเราจะเปิดเผยรูปแบบการสืบทอดตำแหน่งปกติที่แสดงสาเหตุที่ work.6

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พูดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ฉันควรจะชัดเจนขึ้นสับสนไปได้บางอย่างเกี่ยวกับ ofkarnla หลักคำสอนและการเกิดใหม่
จุดแรกที่จะทำคือว่าเป็นชาวพุทธเข้าใจมัน kam1a ไม่ได้เป็นสาวกวิบากสำหรับบาป R หนึ่งของ กฎหมายของกรรมโดยทั่วไปมีจะทำอย่างไรกับการได้รับผลที่น่าพอใจสำหรับ r ทำหน้าที่ออกของแรงจูงใจที่ดีทางศีลธรรมและรับผลการเจ็บปวดสำหรับการทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจที่ชั่วร้าย นี้จะแจ้งให้บางอย่างที่จะขอให้ผู้ที่ detem1ines สิ่งที่ดีและสิ่งที่เป็นความชั่วร้าย สำหรับชาวพุทธคำตอบคือว่าไม่มีใครไม่ Kam1a ไม่ได้เป็นชุดของกฎที่ถูกกำหนดโดยผู้ปกครองจักรวาลและบังคับใช้โดยตำรวจศีลธรรมจักรวาล Kam1a เป็นที่เข้าใจกันแทนที่จะเป็นชุดของกฎหมายสาเหตุที่ไม่มีตัวตนที่เพียงอธิบายว่าโลกที่เกิดขึ้นในการทำงาน ในแง่นี้กฎหมายกรรมก็เป็นเหมือนที่เรียกว่ากฎของธรรมชาติว่าวิทยาศาสตร์สำรวจ มันเป็นกฎหมายสาเหตุที่เมื่อฉันปล่อยให้ไปของร็อคในขณะที่ยืนอยู่บนสะพานก็จะมีต่อเอฟเอ LL น้ำอยู่ด้านล่างด้วยอัตราเร่งที่บาง ไม่มีใครผ่านกฎหมายนี้และไม่มีใครบังคับมัน กฎหมายของฟิสิกส์จะไม่ชอบกฎหมายที่ผ่านโดยร่างกฎหมาย ไม่มีตำรวจมีแรงโน้มถ่วง และถ้ามีอะไรที่จะประพฤติตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราใช้จะเป็นกฎหมายของแรงโน้มถ่วงที่จะเป็นหลักฐานที่แสดงว่าเรามีความผิดที่จะคิดว่ามันเป็นกฎหมาย กฎหมายสาเหตุที่แท้จริงยังไม่มีข้อยกเว้น ในทำนองเดียวกันกฎหมายของกรรมที่มีความเข้าใจไม่เป็นกฎที่สามารถเชื่อฟังหรือเสีย แต่เป็นข้อยกเว้นน้อย .. ภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่เสมอสำหรับสิ่งที่ llows ถ้าเราสามารถติดตามคนพออายุการต่อเนื่องพอเราสามารถหาสิ่งที่กฎหมายของกรรมอยู่ในลักษณะเดียวกับที่วิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งที่กฎของธรรมชาติคือการสังเกตของเราจะเปิดเผยรูปแบบของการสืบทอดปกติที่แสดงสาเหตุที่ work.6

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กล่าวอีกว่า น่าจะชัดเจนขึ้นความสับสนบางอย่างที่เป็นไปได้เกี่ยวกับลัทธิ ofkarnla และการเกิดใหม่ ที่จุดแรกที่จะทำคือเป็นชาวพุทธเข้าใจ kam1a ไม่ใช่การแก้แค้น r หนึ่งของบาป กฎของกรรมโดยทั่วไปจะต้องได้รับผลที่ทำออกมาถูกใจ r ศีลธรรม แรงจูงใจที่ดีและได้รับผลลัพธ์ที่เจ็บปวดสำหรับการแสดงด้วยเจตนาร้าย ให้บางอย่างที่จะถามใคร detem1ines อะไรดีอะไรชั่ว สำหรับชาวพุทธ คำตอบคือ ที่ไม่มีใครรู้ kam1a ไม่ได้เป็นชุดของกฎที่กำหนดโดยผู้ปกครองของจักรวาลและบังคับใช้โดยคอสมิกจริยธรรมตำรวจ kam1a เข้าใจแทนที่จะเป็นชุดของกฎหมายที่อธิบายสาเหตุที่เพียงแค่ว่าโลกเกิดขึ้นกับงาน ในส่วนนี้กฎหมายกรรมเหมือนที่เรียกว่าธรรมชาติกฎหมายวิทยาศาสตร์ศึกษา . มันเป็นกฎหมายสาเหตุว่าเมื่อฉันปล่อยหินในขณะที่ยืนอยู่บนสะพาน จะฟ้าจะต่อน้ำด้านล่างด้วยอัตราเร่งที่แน่นอน ไม่มีใครผ่านกฎหมายนี้ และไม่มีใครบังคับมันได้ กฎหมายของฟิสิกส์ไม่เหมือนกฎหมายที่ผ่านโดยองค์กรนิติบัญญัติ . ไม่มีตำรวจแรงโน้มถ่วง และถ้าอะไรที่ประพฤติขัดกับสิ่งที่เราใช้เป็นกฎหมายของแรงโน้มถ่วง นั่นเป็นหลักฐานว่าเราคิดผิดที่คิดว่ามันเป็นกฎหมาย จริงสาเหตุที่กฎหมายไม่มีข้อยกเว้น อนึ่ง กฎของกรรมได้เข้าใจ ไม่ได้เป็นกฎที่สามารถให้เชื่อฟัง หรือเสีย แต่เป็นข้อยกเว้นน้อย . . . . . . . ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งที่เสมอสำหรับ llows อะไร ถ้าเราได้ติดตามท่าน พอผ่านเพียงพอต่อเนื่องอยู่ เราสามารถค้นหาสิ่งที่กฎหมายของกรรมในลักษณะเดียวกับที่วิทยาศาสตร์ค้นพบว่า กฎของธรรมชาติ : การสังเกตของเราจะเปิดเผยรูปแบบการแสดงผลปกติในการทำงาน 6 .