The first colonyNew South Wales was

The first colony
New South Wales was settled as a penal colony – a place where Britain could send convicted criminals because her prisons were overcrowded. Many convicts had grown up in poverty and committed only minor offences, such as the theft of a loaf of bread. Conditions in the new colony were little better than at home – it took many years for British settlers to understand the different environment of the new colony, and disease and malnutrition were widespread during the first decades of settlement.

Convicts formed the majority of the colony's population for the first few decades of settlement. Convicts continued being sent to New South Wales until 1823, although as time went by, convicts were increasingly seen as a source of labour to build the colony, rather than just being sent away from Britain as punishment for their crimes.

Free settlers
The first wave of migrants to Australia included men of capital who were attracted by the colony's agricultural prospects and the availability of convict labour. Their enthusiasm, together with the Gold Rushes era of the mid-nineteenth century, pushed out the boundaries of the new settlement and by the end of the 1850s there were six separate Australian colonies:

New South Wales
Tasmania (originally settled in 1803, but separated from New South Wales in 1825)
Western Australia (established in 1829)
South Australia, including the Northern Territory (established in 1834)
Victoria (detached from New South Wales in 1851)
Queensland (detached from New South Wales in 1859)
Settlers living in Australia in the nineteenth century lived at the frontier of not only a new land, but of a new society.

Becoming Australians
The six Australian colonies were governed independently of each other, but during the second half of the 19th century there was a growing sense of an Australian identity and a push towards establishing Australia as an independent nation under a Federation.

The new nation remained loyal to Britain, and retained its identity as part of the British Empire. Many people thought of themselves as British people, living in a different land. However, substantial migration from Ireland enhanced an Australian identity that was increasingly independent of Britain.

Non-white immigrants were essentially excluded by the restrictions of the new Immigration Restriction Act, which required that they take a dictation test in a specific language with which they were not necessarily familiar. Non-white immigrants were often seen as a threat to working conditions in Australia and to Australia's 'British' character.

Policies such as this were to remain in place until after World War Two, when the government implemented migration schemes that actively sought first British, then European, migrants. Since then, the face of Australia has changed remarkably. While large numbers of migrants have continued to come from traditional sources like the United Kingdom and New Zealand, there have been large numbers of people from countries as diverse as Italy, Greece, China, Vietnam and Lebanon. Their contribution to Australian society, culture and prosperity has been an important factor in shaping the modern Australia.

Population today

Australia's population today is roughly 22 million people. The country's vast openness means it has the lowest population density in the world - only two people per square kilometre.

The Australian Bureau of Statistics (ABS) produces population estimates for the Australian Government and people. The ABS Population clock displays the current estimate of the resident population of Australia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฝูงแรกรัฐนิวเซาท์เวลส์ถูกตัดสินเป็นการทัณฑ์ – สถานที่สหราชอาณาจักรสามารถส่งประวัติอาชญากรเนื่องจากคุมขังเธอได้แน่น รวมหลายได้เติบโตขึ้นในความยากจน และมุ่งมั่นเพียงเล็กน้อยคือ เช่นการขโมยของก้อนขนมปัง เงื่อนไขในฝูงใหม่มีน้อยกว่าที่บ้าน – ใช้เวลาหลายปีสำหรับการตั้งถิ่นฐานชาวอังกฤษเพื่อทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันของฝูงใหม่ และโรคและขาดสารอาหารได้อย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษแรกของการชำระเงินรวมรูปแบบส่วนใหญ่ของประชากรของอาณานิคมในครั้งแรกไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาของการชำระเงิน การรวมอย่างต่อเนื่องส่งนิวเซาธ์เวลส์จนกระทั่ง 1823 แม้ว่าจะเป็นเวลาไปโดย รวมได้มากขึ้นเห็นเป็นแหล่งแรงงานสร้างฝูง มากกว่าเพียงการส่งจากสหราชอาณาจักรเป็นการลงโทษสำหรับอาชญากรรมของพวกเขาตั้งถิ่นฐานอิสระคลื่นแรกของออสเตรเลียรวมคนเมืองหลวงที่ถูกดึงดูด โดยแนวโน้มเกษตรของโคโลนีและความพร้อมของแรงงานนักโทษ ความกระตือรือร้นของพวกเขา พร้อมที่ดินทองยุคศตวรรษกลางปั้นจั่น ผลักออกขอบเขตของการชำระเงินใหม่ และ โดย 1850s มีหกอาณานิคมออสเตรเลียแยกต่างหาก:รัฐนิวเซาท์เวลส์ทัสมาเนีย (เดิมจ่ายใน 1803 แต่แยกออกจากนิวเซาธ์เวลส์ใน 1825)ออสเตรเลียตะวันตก (ก่อตั้งใน 1829)ออสเตรเลียใต้ รวมถึงดินแดนภาคเหนือ (ก่อตั้งใน 1834)วิคตอเรีย (แยกออกจากนิวเซาธ์เวลส์ใน 1851)รัฐควีนส์แลนด์ (แยกออกจากนิวเซาธ์เวลส์ในปี 1859)ตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในออสเตรเลียในศตวรรษที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนไม่เพียงที่ดินใหม่ แต่สังคมใหม่เป็นชาวออสเตรเลียอาณานิคมออสเตรเลีย 6 ถูกปกครองเป็นอิสระจากกัน แต่ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 มีความรู้สึกประจำออสเตรเลียและผลักดันต่อสร้างออสเตรเลียเป็นประเทศมีอิสระภายใต้สภาการเติบโตประเทศใหม่ยังคงภักดีกับสหราชอาณาจักร และรักษาเอกลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษ หลายคนคิดว่า ตัวเองเป็นคนอังกฤษ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายจากไอร์แลนด์พบเพิ่มประจำออสเตรเลียที่มีอิสระมากขึ้นของสหราชอาณาจักรหละหลวมไม่ขาวถูกแยกออกเป็นตามข้อจำกัดของการตรวจคนเข้าเมืองข้อจำกัดกฏหมายใหม่ ซึ่งจำเป็นที่จะใช้ทดสอบการเขียนตามคำบอกในภาษาที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องคุ้นเคย สีขาวไม่นานก็มักจะเห็นเป็นภัยคุกคามต่อสภาพการทำงานในออสเตรเลีย และอักขระ 'อังกฤษ' ของออสเตรเลียนโยบายเช่นนี้ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งจนกระทั่งหลังจากสงครามโลกครั้งสอง เมื่อรัฐบาลดำเนินการแผนงานโยกย้ายที่กำลังค้นหาอังกฤษครั้งแรก แล้วยุโรป อพยพ ตั้งแต่นั้น หน้าของออสเตรเลียมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย ในขณะที่มีต่อจำนวนมากอพยพมาจากแหล่งดั้งเดิมเช่นสหราชอาณาจักรและนิวซีแลนด์ มีผู้คนจากประเทศที่มีความหลากหลายเช่นอิตาลี กรีซ จีน เวียดนาม และประเทศเลบานอน พวกเขามีส่วนทำให้สังคมออสเตรเลีย วัฒนธรรม และความเจริญรุ่งเรืองได้รับเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศออสเตรเลียทันสมัยประชากรปัจจุบันปัจจุบันประชากรของออสเตรเลียมีประมาณ 22 ล้านคน ของประเทศอย่างยิ่งใหญ่หมายความว่า มันมีความหนาแน่นประชากรต่ำที่สุดในโลก - คนเพียงสองคนต่อตารางกิโลเมตรออสเตรเลียสำนักของสถิติ (ABS) สร้างประเมินประชากรรัฐบาลออสเตรเลียและคน นาฬิกาประชากร ABS แสดงการประเมินปัจจุบันประชากรมีถิ่นที่อยู่ของออสเตรเลีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาณานิคมแรก
นิวเซาธ์เวลส์ถูกตัดสินว่าเป็นเรือนจำอาณานิคม - สถานที่ที่สหราชอาณาจักรสามารถส่งตัดสินลงโทษอาชญากรเพราะเธอเป็นเรือนจำแออัด นักโทษหลายคนได้เติบโตขึ้นมาในความยากจนและความมุ่งมั่นที่ความผิดเพียงเล็กน้อยเช่นการขโมยขนมปัง เงื่อนไขในอาณานิคมใหม่น้อยกว่าที่บ้าน -. มันต้องใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมาตั้งถิ่นฐานชาวอังกฤษที่จะเข้าใจสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันของอาณานิคมใหม่และโรคและการขาดสารอาหารได้อย่างกว้างขวางในช่วงทศวรรษแรกของการตั้งถิ่นฐานนักโทษที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ของประชากรของอาณานิคม ในช่วงสองสามทศวรรษแรกของการตั้งถิ่นฐาน นักโทษยังคงถูกส่งไปยังนิวเซาธ์เวลส์จนกระทั่ง 1823 แม้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปโดยนักโทษได้เห็นมากขึ้นเป็นแหล่งที่มาของการใช้แรงงานในการสร้างอาณานิคมมากกว่าแค่ถูกส่งออกไปจากสหราชอาณาจักรเป็นโทษสำหรับความผิดของพวกเขา. ฟรีตั้งถิ่นฐานคลื่นลูกแรก ของผู้อพยพไปยังประเทศออสเตรเลียรวมถึงผู้ชายของเงินทุนที่ถูกดึงดูดโดยโอกาสการเกษตรอาณานิคมและความพร้อมของแรงงานนักโทษ ความกระตือรือร้นของพวกเขาพร้อมกับยุค Rushes ทองของกลางศตวรรษที่สิบเก้า, ผลักออกขอบเขตของการตั้งถิ่นฐานใหม่และในตอนท้ายของยุค 1850 มีหกอาณานิคมออสเตรเลียเฉพาะกิจการ: นิวเซาธ์เวลส์รัฐแทสเมเนีย (ตัดสินครั้งแรกในปี 1803 แต่แยกออกจากกัน จากนิวเซาธ์เวลส์ 1825) ออสเตรเลียตะวันตก (ก่อตั้งขึ้นใน 1829) ใต้ของประเทศออสเตรเลียรวมทั้งดินแดนทางเหนือ (ก่อตั้งขึ้นใน 1834) วิกตอเรีย (ออกจากนิวเซาธ์เวลส์ในปี ค.ศ. 1851) ควีนส์แลนด์ (ออกจากนิวเซาธ์เวลส์ในปี 1859) มาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย ในศตวรรษที่สิบเก้าอาศัยอยู่ที่ชายแดนไม่เพียง แต่ที่ดินใหม่ แต่ของสังคมใหม่. กลายเป็นชาวออสเตรเลียหกอาณานิคมของออสเตรเลียถูกควบคุมเป็นอิสระจากกัน แต่ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 มีความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นของ ตัวตนของออสเตรเลียและผลักดันไปสู่การจัดตั้งออสเตรเลียเป็นประเทศอิสระภายใต้สหพันธ์. ประเทศใหม่ยังคงจงรักภักดีต่ออังกฤษและสะสมตัวตนเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษ มีหลายคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนอังกฤษที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามการย้ายถิ่นอย่างมีนัยสำคัญจากไอร์แลนด์เพิ่มความเป็นตัวตนของออสเตรเลียที่มีความเป็นอิสระมากขึ้นของสหราชอาณาจักร. ผู้อพยพที่ไม่ได้รับการยกเว้นสีขาวเป็นหลักโดยมีข้อ จำกัด ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองข้อ จำกัด ใหม่ซึ่งจำเป็นที่พวกเขาใช้เวลาทดสอบคำสั่งในภาษาเฉพาะกับที่พวกเขามี ไม่จำเป็นต้องเป็นที่คุ้นเคย ผู้อพยพที่ไม่ใช่สีขาวที่เห็นมักจะเป็นภัยคุกคามต่อสภาพการทำงานในประเทศออสเตรเลียและออสเตรเลีย 'อังกฤษ' ตัวละคร. นโยบายเช่นนี้จะยังคงอยู่ในสถานที่จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อรัฐบาลดำเนินการรูปแบบการย้ายถิ่นที่แข็งขันพยายามครั้งแรกของอังกฤษ จากนั้นชาวยุโรปอพยพ ตั้งแต่นั้นใบหน้าของออสเตรเลียที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าทึ่ง ในขณะที่จำนวนมากของแรงงานข้ามชาติยังคงมาจากแหล่งดั้งเดิมเช่นสหราชอาณาจักรและนิวซีแลนด์มีการจำนวนมากของผู้คนจากประเทศที่หลากหลายเช่นอิตาลี, กรีซ, จีนเวียดนามและเลบานอน มีส่วนร่วมของสังคมออสเตรเลียวัฒนธรรมและความเจริญรุ่งเรืองได้รับปัจจัยสำคัญในการสร้างที่ทันสมัยออสเตรเลีย. วันนี้ประชากรประชากรของออสเตรเลียในวันนี้คือประมาณ 22 ล้านคน การเปิดกว้างที่กว้างใหญ่ของประเทศหมายความว่ามันมีความหนาแน่นของประชากรต่ำที่สุดในโลก -. เพียงสองคนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตรสำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) ผลิตประมาณการประชากรรัฐบาลออสเตรเลียและผู้คน ABS นาฬิกาประชากรแสดงประมาณการปัจจุบันของประชากรที่อาศัยอยู่ของออสเตรเลีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก่อนอาณานิคม
New South Wales ถูกตัดสินเป็นไฟไหม้ฟาง–สถานที่ที่อังกฤษส่งนักโทษอาชญากร เพราะคุกของเธอโดยตรง มีนักโทษได้เติบโตขึ้นในความยากจน และยอมรับความผิดเล็กน้อยเท่านั้น เช่น การขโมยของก้อนขนมปังเงื่อนไขในอาณานิคมใหม่เล็ก ๆน้อย ๆที่ดีกว่าที่บ้าน – มันใช้เวลาหลายปีชาวอังกฤษมาตั้งถิ่นฐานเพื่อให้เข้าใจสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันของอาณานิคมใหม่ และโรคขาดสารอาหารเป็นอย่างกว้างขวางในช่วงทศวรรษแรกของการตั้งถิ่นฐาน

โทษที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ของประชากรของอาณานิคมในไม่กี่ทศวรรษแรกของการตั้งถิ่นฐานนักโทษยังคงถูกนิวเซาท์เวลส์จนถึง 1823 แม้เวลาผ่านไป นักโทษได้เห็นมากขึ้นในฐานะที่เป็นแหล่งที่มาของแรงงานเพื่อสร้างอาณานิคม , มากกว่าเพียงแค่การส่งจากอังกฤษเพื่อเป็นการลงโทษสำหรับอาชญากรรมที่พวกเขาก่อ ตั้งถิ่นฐาน

ฟรีคลื่นลูกแรกของผู้อพยพออสเตรเลียรวมผู้ชายของทุนที่หลงเสน่ห์ของนิคมเกษตรกรรมโอกาสและความพร้อมของแรงงานนักโทษ ความกระตือรือร้นของพวกเขา พร้อมกับวิ่งทองยุคศตวรรษที่สิบเก้ากลาง ผลักออกขอบเขตของข้อตกลงใหม่และโดยการสิ้นสุดของยุค 1850 มีหกอาณานิคมในออสเตรเลียแยก :

New South Wales
แทสมาเนีย ( ตอนแรกตัดสินใน 1803 , แต่แยกจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ในออสเตรเลียตะวันตก ( 1825 )

ก่อตั้งขึ้นในปี 1829 ) ออสเตรเลียใต้ รวมทั้งดินแดนทางเหนือ ( ก่อตั้งขึ้นในปี 1834 )
วิคตอเรีย ( แยกออกจาก New South Wales ใน 1851 )
ควีนส์แลนด์ ( แยกออกจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ในปี 1859 )
ตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย ในศตวรรษที่สิบเก้าอยู่ที่ชายแดนของไม่เพียง แต่เป็นดินแดนใหม่แต่สังคมใหม่


เป็นชาวออสเตรเลีย 6 ออสเตรเลียอาณานิคมถูกควบคุมอย่างอิสระของแต่ละอื่น ๆ แต่ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 มีการเติบโตของตัวตนและความรู้สึกของออสเตรเลียดันต่อการสร้างออสเตรเลียเป็นชาติเอกราชภายใต้สหพันธ์

ประเทศใหม่ที่ยังคงภักดีต่ออังกฤษและรักษาเอกลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษ หลายๆคนคิดว่า ตัวเองเป็นคนอังกฤษที่อาศัยอยู่ในดินแดนต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างมากจากไอร์แลนด์ออสเตรเลียตัวตนที่มากขึ้นอิสระของอังกฤษ

ไม่ขาวอพยพเป็นหลักยกเว้นโดยข้อ จำกัด ของใหม่ตรวจคนเข้าเมืองจำกัดแสดงซึ่งกำหนดว่า พวกเขาใช้เวลาการทดสอบการเขียนตามคำบอกในภาษาเฉพาะกับที่พวกเขาไม่คุ้นเคย ไม่ขาวอพยพมักจะถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อสภาพการทำงานในออสเตรเลียและออสเตรเลีย ' อังกฤษ ' ตัวละคร

นโยบายเช่นนี้จะยังคงอยู่ในสถานที่จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อรัฐบาลจัดทำแผนการอพยพที่กระตือรือร้นแสวงหาแรกอังกฤษ , ยุโรป , แรงงาน จากนั้นใบหน้าของออสเตรเลียมีการเปลี่ยนแปลงมาก ในขณะที่จำนวนมากของแรงงานข้ามชาติก็ยังคงมาจากแหล่งดั้งเดิม เช่น สหราชอาณาจักร และนิวซีแลนด์ มีตัวเลขขนาดใหญ่ของผู้คนจากประเทศต่าง ๆ เช่น อิตาลี กรีซ จีนเวียดนาม และเลบานอน การมีส่วนร่วมของออสเตรเลียในสังคม วัฒนธรรม และความเจริญ ได้เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างประชากรออสเตรเลียทันสมัย

วันนี้

ออสเตรเลียของประชากรในวันนี้คือประมาณ 22 ล้านคน ความใหญ่ของประเทศก็มีประชากรหนาแน่นน้อยที่สุดในโลก เพียง 2 คนต่อตารางกิโลเมตร .

สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย ( ABS ) ผลิตประชากรประมาณสำหรับรัฐบาลออสเตรเลีย และคน ABS ประชากรนาฬิกาแสดงประมาณการปัจจุบันของประชากรที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย