Most of these studies look at indiv

Most of these studies look at individual factors related to colony losses. In contrast, we here present our data on the interaction of pathogens and parasites in honey bee colonies. We performed a longitudinal cohort study over 6 years by closely monitoring 220 honey bee colonies kept in 22 apiaries (ten randomly selected colonies per apiary). Observed winter colony losses varied between 4.8% and 22.4%; lost colonies were replaced to ensure a constant number of monitored colonies over the study period. Data on mite infestation levels, infection with viruses, Nosema apis and Nosema ceranae, and recorded outbreaks of chalkbrood were continuously collected. We now provide statistical evidence (i) that Varroa destructor infestation in summer is related to DWV infections in autumn, (ii) that V. destructor infestation in autumn is related to N. apis infection in the following spring, and most importantly (iii) that chalkbrood outbreaks in summer are related to N. ceranae infection in the preceding spring and to V. destructor infestation in the same season," wrote K. Hedtke and colleagues, Department of Agriculture.

The researchers concluded: "These highly significant links between emerging parasites/pathogens and established pathogens need further experimental proof but they already illustrate the complexity of the host-pathogen-interactions in honey bee colonies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาเหล่านี้ส่วนใหญ่ดูที่แต่ละปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียอาณานิคม ในทางตรงข้าม เราที่นี่นำเสนอข้อมูลในการโต้ตอบของโรคและปรสิตในผึ้งอาณานิคม เราทำการศึกษาผู้ผ่านระยะยาว 6 ปี โดยอาณานิคมผึ้งน้ำผึ้ง 220 ที่เก็บไว้ใน apiaries 22 (10 สุ่มเลือกอาณานิคมต่อ apiary) การตรวจสอบอย่างใกล้ชิด หนาวพบอาณานิคมสูญเสียแตกต่างกันระหว่าง 4.8% และ 22.4% อาณานิคมที่หายไปถูกแทนที่ให้ตัวเลขคงที่ของอาณานิคมตรวจสอบระยะเวลาการศึกษา รวบรวมข้อมูลระดับไรทำลาย เชื้อไวรัส Nosema apis Nosema ceranae และระบาดบันทึกของ chalkbrood อย่างต่อเนื่อง เราตอนนี้มีหลักฐานทางสถิติ Varroa (i) ที่มีความสัมพันธ์กับเชื้อ DWV ทำลาย destructor ในฤดูร้อนในฤดูใบไม้ร่วง, (ii) ที่ทำลาย destructor V. ในฤดูใบไม้ร่วงจะเกี่ยวข้องกับเชื้อ apis ตอนเหนือในฤดูใบไม้ผลิต่อไปนี้ และสำคัญแพร่ระบาดในช่วงฤดูร้อน chalkbrood (iii) ที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ ceranae ตอนเหนือ ในฤดูใบไม้ผลิก่อนหน้า และ V. ทำลาย destructor ในฤดูกาลเดียวกัน, "เขียนคุณ Hedtke และเพื่อนร่วมงาน กรมวิชาการเกษตรนักวิจัยสรุป: "เชื่อมโยงเหล่านี้สำคัญมากระหว่างปรสิตโรคเกิดใหม่และโรคที่กำหนดขึ้นต้องเพิ่มเติมพิสูจน์ทดลอง ได้จะแล้วแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของโฮสต์การศึกษาโต้ตอบในอาณานิคมผึ้งน้ำผึ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนใหญ่ของการศึกษาเหล่านี้มองปัจจัยส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาณานิคมขาดทุน ในทางตรงกันข้าม เราเลยเสนอข้อมูลในปฏิสัมพันธ์ของเชื้อโรคและปรสิตในผึ้งอาณานิคม เราได้ทำการศึกษาติดตามระยะยาวกว่า 6 ปี โดยการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด 220 ผึ้งอาณานิคมอยู่ใน 22 apiaries ( สิบสุ่มโคโลนีต่อ ที่ ) สังเกตช่วงฤดูหนาวอาณานิคมจาก 4ร้อยละ 8 และร้อยละ 22.4 ; อาณานิคมหายไปถูกแทนที่เพื่อให้จำนวนคงที่ของการติดตามอาณานิคมในช่วงเวลาที่ศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับระดับการรบกวนไร การติดเชื้อ ด้วยไวรัส nosema APIs และ nosema ceranae และบันทึกการระบาดของโรคชอล์คบรูดอย่างต่อเนื่องเก็บรวบรวม ขณะนี้เรามีหลักฐานทางสถิติ ( ฉัน ) ที่วาร์โรเดสทรัคเตอร์มาในฤดูร้อนจะเกี่ยวข้องกับ dwv เชื้อในฤดูใบไม้ร่วง( 2 ) โวลต์เดสทรัคเตอร์มาในฤดูใบไม้ร่วงที่เกี่ยวข้องเพื่อ โดยการติดเชื้อในฤดูใบไม้ผลิต่อไป และที่สำคัญที่สุด ( III ) ที่ระบาดในฤดูร้อน ที่เกี่ยวข้องกับชอล์คบรูด . ceranae การติดเชื้อในฤดูใบไม้ผลิ และ วี เดสทรัคเตอร์มาก่อนหน้านี้ในฤดูกาลเดียวกัน " เขียน K . hedtke และเพื่อนร่วมงาน กรมวิชาการเกษตร .

นักวิจัยสรุปได้ :" เหล่านี้อย่างมาก ที่สำคัญการเชื่อมโยงระหว่างเกิดเชื้อโรคปรสิตและเชื้อโรคต้องการเพิ่มเติม / สร้างทดลองพิสูจน์ได้แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของปฏิสัมพันธ์โฮสต์นี้ในผึ้งอาณานิคม