Advantages of PrototypingPrototypin

Advantages of Prototyping
Prototyping has the following advantages
Better definition of user needs. Because of intensive end - user involvement, prototyping usually results in a good definition of user needs.
Higher user involvement and satisfaction. When user requirements are met, the results are greater user satisfaction and less risk that the AIS will not be used. Early user involvement helps to build a climate of acceptance rather than skepticism and criticism about the new AIS.

Faster development time. It takes only a few days or weeks to get a prototype system up and running, which allows users to immediately evaluate significant changes in the way business is transacted. In contrast, it may take a year or more under the traditional approach before the new system can be evaluated. John Hancock Mutual Life Insurance developed the prototype of an executive information system in only one month, as described in Focus 19 - 2.

Fewer errors. Because the user experiments with and uses each version of the prototype, errors are detected and eliminated early in the development process. In addition, it is much easier to identify and terminate an infeasible AIS before a great deal changes of time and expense are incurred.

More opportunity for changes. Under the traditional SDLC approach, the design team is responsible for identifying AIS requirements the first time around. These requirements are then frozen so that the team can complete the AIS. With prototyping, users can continue to suggest changes until the system is exactly what they want.

Prototyping: The Third Dimension
An architect develops two - dimensional blueprints that show how a custom home will look. However, a look at the third dimension, walking through the home, lets you actually see the rooms and get a feel for the layout. Creating customized software provides a similar challenge. Users must try to visualize the look and feel of their software from written specifications. Prototypes help users who have ideas or plans but do not know how to turn them into reality, as well as users who have a problem but do not know how to begin solving it. A prototype lets them walk through the proposed system and experiment with its look and feel before committing to the expense of application development.

John Hancock Mutual Life Insurance Company was dissatisfied with the traditional development process: determining user specifications (getting information from high - level executives was especially difficult), writing them up, developing the system, and presenting it to the end users. The typical reaction from a user was, "I may have said that this is what I wanted, but it isn't."

To counter these problems, Hancock used a prototyping approach to develop an executive information system (EIS). The EIS was needed because the company was dissatisfied with its inability to obtain data quickly and easily from the existing system.

Hancock formed a team that included systems development consultants from IBM, user representatives, systems analysts, and programmers. The prototyping process was highly interactive, and the continual involvement of the end users eliminated a great deal of misunderstanding. The programmers on the team stared programming almost immediately. They prepared sample screens for the first interview session with users. The development staff sat down with users and showed them how the system would work. Users were then given a chance to try the screens. Almost immediately, users could determine if what they said they wanted was really what they needed.

The result was a prototype for an EIS that took only one month to build. The prototype allows top management at Hancock to access and query current and historical financial data and measurements. Top managers who had been skeptical when the project began were impressed by how much the team was able to accomplish in a single month.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อดีของต้นแบบต้นแบบมีข้อดีดังต่อไปนี้คำนิยามที่ดีของความต้องการผู้ใช้ เนื่องจากสิ้นสุดคอร์ - ผู้ใช้มีส่วนร่วม ต้นแบบมักจะเกิดในคำนิยามที่ดีของความต้องการผู้ใช้สูงกว่าผู้ใช้มีส่วนร่วมและความพึงพอใจ เมื่อตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ผลลัพธ์พึงพอใจผู้ใช้มากกว่าและเสี่ยงน้อยที่จะใช้เอไอเอสที่ไม่ เริ่มต้นผู้ใช้มีส่วนร่วมช่วยสร้างบรรยากาศของการยอมรับมากกว่าสงสัย และวิจารณ์เกี่ยวกับเอไอเอสใหม่เวลาพัฒนาเร็วขึ้น ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือสัปดาห์จะระบบต้นแบบขึ้น และทำงาน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในลักษณะธุรกิจเป็นการทำรายการทันที ในทางตรงกันข้าม อาจใช้เวลาปีหรือมากกว่าภายใต้วิธีดั้งเดิมก่อนสามารถประเมินระบบใหม่ จอห์นแฮนค็อคประกันชีวิตร่วมกันพัฒนาต้นแบบของระบบการบริหารข้อมูลในเพียงหนึ่งเดือน ตามที่อธิบายไว้ในโฟกัส 19 - 2ข้อผิดพลาดน้อยลง เนื่องจากผู้ทดลองด้วย และใช้ต้นแบบแต่ละรุ่น ข้อผิดพลาดตรวจพบ และตัดต้นในกระบวนการพัฒนา นอกจากนี้ มันจะง่ายมากที่จะระบุ และสิ้นสุดเอไอเอสถอดก่อนดีที่สุดเกิดการเปลี่ยนแปลงของเวลาและค่าใช้จ่ายโอกาสเพิ่มเติมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ภายใต้วิธี SDLC แบบดั้งเดิม ทีมงานออกแบบรับผิดชอบสำหรับการระบุความต้องการของลูกค้าเอไอเอสในครั้งแรก ข้อกำหนดเหล่านี้แล้วจะแช่แข็งเพื่อให้ทีมงานสามารถทำเอไอเอส มีต้นแบบ ผู้ใช้สามารถยังแนะนำการเปลี่ยนแปลงจนกว่าระบบจะว่าสิ่งที่พวกเขาต้องต้นแบบ: มิติที่สามสถาปนิกพัฒนาสอง--พิมพ์เขียวบางส่วนมิติที่แสดงลักษณะบ้านแบบกำหนดเอง อย่างไรก็ตาม ตาสามมิติ เดินผ่านบ้าน ช่วยให้คุณดูห้องจริง และรับความรู้สึกแบบ สร้างซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองให้ท้าทายคล้ายกัน ผู้ใช้ต้องพยายามมองเห็นภาพลักษณะและความรู้สึกของซอฟท์แวร์ของตนจากข้อกำหนดที่เป็นลายลักษณ์อักษร ต้นแบบช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความคิดหรือแผนการ แต่ไม่ทราบวิธีการเปิดพวกเขาเป็นความจริง ตลอดจนผู้ที่มีปัญหา แต่ไม่รู้วิธีการเริ่มต้นการแก้ไขดังกล่าว ต้นแบบช่วยให้พวกเขาเดินผ่านระบบเสนอ และทดลองก่อนยอมรับกับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เป็นลักษณะและความรู้สึกบริษัทประกันชีวิตซึ่งกันและกันจอห์นแฮนค็อคไม่พอใจกับการพัฒนาแบบดั้งเดิม: กำหนดรายละเอียดผู้ใช้ (การรับข้อมูลจากสูง - ผู้บริหารระดับที่ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง), เขียนพวกเขาค่า พัฒนาระบบ และการนำเสนอสำหรับผู้ ปฏิกิริยาจากผู้ใช้ทั่วไปถูก "ฉันอาจได้กล่าวว่า นี้คือสิ่งที่ฉันต้อง แต่ไม่" แฮนค็อคใช้วิธีการต้นแบบเพื่อพัฒนาเป็นระบบสารสนเทศผู้บริหาร (EIS) เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ EIS ถูกต้องเนื่องจากบริษัทไม่พอใจกับการไม่สามารถรับข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายจากระบบที่มีอยู่แฮนค็อคก่อตั้งทีมที่ปรึกษาพัฒนาระบบ จาก IBM ผู้แทน นักวิเคราะห์ระบบ โปรแกรมเมอร์ กระบวนการต้นแบบโต้ตอบสูง และมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องของผู้ตัดมากเข้าใจผิด โปรแกรมเมอร์ในทีมเริ่มเขียนโปรแกรมทันที พวกเขาเตรียมตัวอย่างหน้าจอสำหรับเซสชันการสัมภาษณ์ครั้งแรกกับผู้ใช้ พนักงานพัฒนานั่งลงกับผู้ใช้ และแสดงให้พวกเขาเห็นระบบจะทำงานอย่างไร ผู้นั้นได้รับโอกาสที่จะลองหน้าจอ ทันที ผู้ใช้สามารถกำหนดถ้าผู้พูดจะต้องเป็นความจริงสิ่งที่พวกเขาจำเป็นผลคือ ต้นแบบสำหรับ EIS ที่ใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน ต้นแบบช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงที่แฮนค็อคเพื่อเข้าถึง และสอบถามข้อมูลทางการเงินปัจจุบัน และประวัติศาสตร์และวัด ผู้จัดการด้านบนที่เคยแคลงใจเมื่อเริ่มโครงการประทับใจเท่าทีมได้สำเร็จในเดือนเดียวกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อดีของการสร้างต้นแบบ
การสร้างต้นแบบมีข้อดีดังต่อไปนี้
ความหมายที่ดีขึ้นของความต้องการของผู้ใช้ เพราะความเข้มข้นปลาย - การมีส่วนร่วมของผู้ใช้, การสร้างต้นแบบมักจะส่งผลให้ความหมายที่ดีของความต้องการของผู้ใช้.
การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ที่สูงขึ้นและความพึงพอใจ เมื่อต้องการของผู้ใช้จะได้พบกับผลที่ได้คือความพึงพอใจของผู้ใช้มากขึ้นและมีความเสี่ยงน้อยกว่าที่เอไอเอสจะไม่ถูกนำมาใช้ การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในช่วงต้นช่วยในการสร้างบรรยากาศของการยอมรับมากกว่าความสงสัยและคำวิจารณ์เกี่ยวกับใหม่เอไอเอส. เวลาในการพัฒนาได้เร็วขึ้น มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือสัปดาห์ที่จะได้รับระบบต้นแบบและทำงานซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ในการประเมินผลทันทีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในทางธุรกิจเป็นธุรกรรม ในทางตรงกันข้ามมันอาจจะใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่าภายใต้วิธีการแบบดั้งเดิมก่อนที่ระบบใหม่สามารถประเมินได้ จอห์นแฮนค็อกประกันชีวิตร่วมกันพัฒนาต้นแบบของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารในเวลาเพียงหนึ่งเดือนตามที่อธิบายไว้ในโฟกัส 19 -. 2 ข้อผิดพลาดน้อยลง เพราะผู้ใช้ที่มีการทดลองและใช้รุ่นต้นแบบแต่ละข้อผิดพลาดที่มีการตรวจพบและกำจัดต้นในกระบวนการพัฒนา นอกจากนี้มันง่ายมากที่จะระบุและบอกเลิกไปไม่ได้เอไอเอสก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น. โอกาสมากขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง ภายใต้วิธีการแบบดั้งเดิม SDLC, ทีมออกแบบมีหน้าที่ในการระบุความต้องการเอไอเอสครั้งแรกรอบ ความต้องการเหล่านี้จะถูกแช่แข็งแล้วเพื่อให้ทีมงานสามารถดำเนินการเอไอเอส ด้วยการสร้างต้นแบบผู้ใช้สามารถดำเนินการต่อเพื่อแนะนำการเปลี่ยนแปลงจนกว่าระบบจะเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ. สร้างต้นแบบ: สามมิติสถาปนิกพัฒนาสอง - พิมพ์เขียวมิติที่แสดงวิธีการกำหนดเองที่บ้านจะมีลักษณะ แต่ดูที่มิติที่สามเดินผ่านบ้านที่ช่วยให้คุณเห็นจริงในห้องและได้รับความรู้สึกสำหรับรูปแบบ การสร้างซอฟแวร์ที่กำหนดเองให้เป็นความท้าทายที่คล้ายกัน ผู้ใช้จะต้องพยายามที่จะมองเห็นรูปลักษณ์และความรู้สึกของซอฟต์แวร์ของพวกเขาจากข้อกำหนดที่เขียน ต้นแบบความช่วยเหลือผู้ใช้ที่มีความคิดหรือแผนการ แต่ไม่ทราบวิธีที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นความจริงเช่นเดียวกับผู้ใช้ที่มีปัญหา แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นแก้มัน ต้นแบบช่วยให้พวกเขาเดินผ่านระบบที่นำเสนอและการทดสอบที่มีรูปลักษณ์และความรู้สึกก่อน committing ค่าใช้จ่ายของการพัฒนาแอพลิเคชัน. จอห์นแฮนค็อกชีวิตร่วมกับ บริษัท ประกันภัยไม่พอใจกับกระบวนการพัฒนาแบบดั้งเดิม: การกำหนดข้อกำหนดของผู้ใช้ (ได้รับข้อมูลจากสูง - ผู้บริหารระดับ เป็นเรื่องยากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง) เขียนพวกเขาขึ้นการพัฒนาระบบและนำเสนอให้ผู้ใช้ ปฏิกิริยาทั่วไปจากผู้ใช้เป็น "ฉันอาจจะบอกว่านี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ แต่มันไม่ได้เป็น." เพื่อตอบโต้ปัญหาเหล่านี้แฮนค็อกใช้วิธีการสร้างต้นแบบในการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (EIS) EIS เป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะ บริษัท ที่ไม่พอใจกับการไร้ความสามารถของตนที่จะได้รับข้อมูลจากอย่างรวดเร็วและง่ายดายระบบที่มีอยู่. แฮนค็อกกลายเป็นทีมที่รวมที่ปรึกษาการพัฒนาระบบจาก IBM, ผู้แทนผู้ใช้นักวิเคราะห์ระบบและโปรแกรมเมอร์ ขั้นตอนการสร้างต้นแบบเป็นแบบโต้ตอบสูงและการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องของผู้ใช้กำจัดการจัดการที่ดีของความเข้าใจผิด โปรแกรมเมอร์ในทีมจ้องโปรแกรมเกือบจะในทันที พวกเขาเตรียมที่หน้าจอตัวอย่างสำหรับการสัมภาษณ์ครั้งแรกกับผู้ใช้ พัฒนาบุคลากรนั่งลงกับผู้ใช้และพบว่าพวกเขาวิธีการที่ระบบจะทำงาน ผู้ใช้ถูกแล้วได้รับโอกาสที่จะลองหน้าจอ เกือบจะในทันทีที่ผู้ใช้สามารถตรวจสอบว่าสิ่งที่พวกเขากล่าวว่าพวกเขาต้องการก็คือจริงๆสิ่งที่พวกเขาต้องการ. ผลที่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับ EIS ที่ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนในการสร้าง ต้นแบบช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงที่แฮนค็อกในการเข้าถึงและค้นหาข้อมูลทางการเงินในปัจจุบันและประวัติศาสตร์และการวัด ผู้จัดการยอดนิยมที่ได้รับการสงสัยเมื่อโครงการเริ่มประทับใจเท่าใดทีมก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จในเดือนเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อดีของการสร้างต้นแบบ มีข้อได้เปรียบดีกว่า

ความหมายของความต้องการของผู้ใช้ต่อไปนี้ เพราะจบ - เข้มผู้ใช้มีส่วนร่วมสร้างมักจะส่งผลในความหมายที่ดีในความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้มีส่วนร่วม
ที่สูงขึ้นและความพึงพอใจ เมื่อความต้องการของผู้ใช้จะพบผลความพึงพอใจของผู้ใช้มากขึ้นและความเสี่ยงน้อยกว่าที่ เอไอเอส จะไม่ใช้การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ก่อน ช่วยสร้างบรรยากาศของการยอมรับมากกว่าความสงสัยและการวิจารณ์เกี่ยวกับใหม่ AIS

เร็วพัฒนาเวลา มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือสัปดาห์จะได้ระบบต้นแบบ และเรียกใช้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทันทีเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในทางธุรกิจผ่าน . ในทางตรงกันข้ามมันอาจจะใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้นตามวิธีการแบบดั้งเดิมก่อนที่ระบบใหม่สามารถประเมิน จอห์นแฮนค็อกประกันชีวิตร่วมกันพัฒนาต้นแบบของระบบสารสนเทศผู้บริหารในเดือนเดียวตามที่อธิบายไว้ในโฟกัส 19 - 2

ข้อผิดพลาดน้อยลง . เพราะผู้ใช้ทดลองและใช้รุ่นต้นแบบแต่ละข้อผิดพลาดที่ตรวจพบแล้วตกรอบแรก ในขั้นตอนการพัฒนานอกจากนี้มันเป็นเรื่องง่ายที่จะระบุและยกเลิกการเปลี่ยนแปลงที่เอไอเอส ก่อนจัดการที่ดีของเวลาและค่าใช้จ่ายเกิด

โอกาสมากขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวทางของดั้งเดิม ทีมออกแบบ มีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุความต้องการ เอไอเอส ในครั้งแรก ความต้องการเหล่านี้จะแช่แข็งเพื่อที่ทีมงานจะดำเนินการโดย กับการสร้างต้นแบบผู้ใช้ยังคงสามารถแนะนำการเปลี่ยนแปลงจนกว่าระบบเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ การสร้างมิติที่สาม :

สถาปนิกพัฒนาสองมิติ - พิมพ์เขียวที่แสดงวิธีการบ้านอยู่เอง จะดู อย่างไรก็ตาม มองมิติที่สาม เดินผ่านบ้านที่ช่วยให้คุณเห็นห้องพัก และรับความรู้สึกสำหรับรูปแบบ การสร้างซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งให้เป็นความท้าทายที่คล้ายคลึงกันผู้ใช้ต้องพยายามเห็นมองและความรู้สึกของซอฟต์แวร์ของพวกเขาจากที่เขียนรายละเอียด ต้นแบบช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความคิดหรือแผนการ แต่ไม่ทราบวิธีที่จะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นจริง รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง แก้ได้ต้นแบบช่วยให้พวกเขาเดินผ่านระบบ และทดลองกับลักษณะของความรู้สึกก่อนที่จะยืนยันค่าใช้จ่ายของการพัฒนาโปรแกรม

จอห์นแฮนค็อกประกันชีวิตร่วมกันบริษัทไม่พอใจแบบดั้งเดิมการพัฒนา : การกำหนดข้อมูลผู้ใช้ ( ข้อมูลที่ได้จากผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาก ) , เขียนไว้พัฒนาระบบ และนำเสนอให้กับผู้ใช้ ปฏิกิริยาโดยทั่วไปจากผู้ใช้ คือ " ฉันอาจจะบอกว่านี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ แต่มันทำไม่ได้ "

เพื่อตอบโต้ปัญหาเหล่านี้แฮนค็อกใช้ต้นแบบแนวทางพัฒนาระบบสารสนเทศผู้บริหาร ( EIS )