ConclusionsSocial disability affect

Conclusions
Social disability affects the individual’s occupational and school performance, impacts on self-care, and hinders family relationships and interpersonal interactions. Social skills interventions are the treatment of choice to improve this disability. Although there are a wide variety of programs that aim to improve social functioning in people suffering from schizophrenia, it seems clear that these programs must address directly the essential components of both pillars of functional outcome: social cognition and social competence. Furthermore, depression and social anxiety are common concomitants of schizophrenia that have been treated almost exclusively with medication. However, by integrating
social skills training procedures into evidence-based psychological treatments for these comorbid disorders, mood and anxiety disorders will be more effectively treated (Kopelowicz et al., 2006). This integration should take into account the
stage of the illness: family interventions and psychoeducation for crisis therapy; the pure behavioural approaches (token economy) for negative symptoms in chronic patients; and CBT for positive symptoms, poor insight and poor compliance, in the early stages of the disorder. Thus, a pragmatic combination of psychosocial interventions, such us SST plus CBT or SST plus psychoeducation, could clearly enhance the treatment outcomes and the patient’s recovery process.Although the fifth edition of the Diagnostic and statistical manual of mental disorders introduces no change on the diagnostic B criteria (social/occupational dysfunction) for schizophrenia, some changes made in the A criteria should be taken into consideration when planning to offer SST to a person presenting negative symptoms and poor social functioning. Experts have found that avolition and diminished emotional expression are key aspects of negative symptoms; and they consider that diminished emotional expression describes better the nature of the affect abnormality in schizophrenia than the affective flattening. Thus, the A criteria’s fifth characteristic is now negative symptoms, i.e. diminished emotional
expression and avolition (Tandon et al., 2013).Finally, the generalization of social skills to clients’ natural environments is
clearly one of the main challenges for clinicians when applying SST interventions.In fact, they can be further supplemented by community-based in vivo skills training (Glynn et al., 2002) and by enlisting “indigenous supporters” to prompt Social skills training for people with schizophrenia 473 the use of skills in real-life situations (Tauber et al., 2000), as well as by the use of advanced technologies like VR (Rus-Calafell et al., 2014).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปความพิการทางสังคมมีผลต่อประสิทธิภาพการศึกษา และอาชีพของแต่ละบุคคล ผลกระทบต่อการดูแลตนเอง และเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวและปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล แทรกแซงสังคมมีทางเลือกในการปรับปรุงนี้พิการ แม้ว่าจะมีความหลากหลายของโปรแกรมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการทำงานสังคมในคนทุกข์ทรมานจากโรคจิตเภท ดูเหมือนชัดเจนว่า โปรแกรมเหล่านี้ต้องอยู่ตรงส่วนประกอบที่สำคัญของทั้งสองหลักการทำงานผล: สังคมความรู้ความเข้าใจและความสามารถทางสังคม นอกจากนี้ โรคจิตเภท concomitants ทั่วไปที่ได้รับโดยเฉพาะกับยามีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลทางสังคม อย่างไรก็ตาม โดยการบูรณาการทักษะทางสังคมการฝึกอบรมกระบวนการไปตามหลักฐานทางจิตวิทยารักษาความผิดปกติเหล่านี้ comorbid ความผิดปกติของอารมณ์และความวิตกกังวลจะเพิ่มเติมปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ (Kopelowicz et al. 2006) รวมนี้ควรคำนึงถึงการขั้นตอนของการเจ็บป่วย: แทรกแซงครอบครัวและ psychoeducation สำหรับวิกฤตบำบัด วิธีพฤติกรรมบริสุทธิ์ (โทเค็นเศรษฐกิจ) สำหรับอาการเชิงลบในผู้ป่วยเรื้อรัง และ CBT บวกอาการ ความเข้าใจที่ดี และ ปฏิบัติดี ในระยะแรก ๆ ของโรคที่ ดังนั้น ผสมในทางปฏิบัติของการแทรกแซงจิตสังคม เรา SST บวก CBT หรือ SST บวก psychoeducation อาจชัดเจนเพิ่มผลการรักษาและการกู้คืนของผู้ป่วยดังกล่าวดำเนินการ แม้ว่ารุ่นที่ห้าของคู่มือการวินิจฉัย และสถิติของการผิดปกติทางจิตแนะนำการเปลี่ยนแปลงในการวินิจฉัยเกณฑ์ B (อาชีวสังคมเสื่อมสมรรถภาพ) สำหรับโรคจิตเภท บางการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไข A ควรจะนำมาพิจารณาเมื่อวางแผนให้ SST บุคคลนำเสนออาการเชิงลบและการทำงานทางสังคมไม่ดี ผู้เชี่ยวชาญพบว่า avolition และแสดงออกทางอารมณ์ลดลงสำคัญของอาการเชิงลบ และพวกเขาพิจารณาว่า แสดงออกทางอารมณ์ลดลงดีกว่าอธิบายธรรมชาติของความผิดปกติมีผลต่อในโรคจิตเภทมากกว่าราบตลอด ลักษณะของเกณฑ์ A ห้าจึงตอนนี้ลบอาการ ลดน้อยลงนั่นคืออารมณ์นิพจน์และ avolition (Tandon et al. 2013) ในที่สุด เป็นลักษณะทั่วไปของสังคมกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติของลูกค้าชัดเจนหนึ่งในความท้าทายหลักสำหรับแพทย์เมื่อใช้ SST แทรกแซง ในความเป็นจริง พวกเขาสามารถเพิ่มเติมเสริม โดยชุมชนในร่างกายการฝึกอบรมทักษะ (Glynn et al. 2002) และไทย "ชนพื้นเมืองผู้สนับสนุน" ให้ทักษะทางสังคมฝึกการใช้ทักษะ ในสถานการณ์ชีวิตจริง (Tauber et al. 2000), เช่นเดียว กับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเช่น VR (Rus Calafell et al. 2014) สำหรับคนที่มีโรคจิตเภท 473

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปผลการวิจัย
ความพิการสังคมส่งผลกระทบต่อของแต่ละบุคคลอาชีวอนามัยและโรงเรียนประสิทธิภาพส่งผลกระทบต่อการดูแลตนเองและเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การแทรกแซงทักษะทางสังคมที่มีการรักษาทางเลือกในการปรับปรุงความพิการนี้ แม้ว่าจะมีความหลากหลายของโปรแกรมที่มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการทำงานทางสังคมในคนที่ทุกข์ทรมานจากอาการจิตเภทดูเหมือนว่าชัดเจนว่าโปรแกรมเหล่านี้ต้องอยู่โดยตรงในองค์ประกอบที่สำคัญของทั้งสองเสาหลักของผลการทำงาน: ความรู้ความเข้าใจทางสังคมและความสามารถทางสังคม นอกจากนี้ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลทางสังคมเป็น concomitants ทั่วไปของผู้ป่วยโรคจิตเภทที่ได้รับการรักษาเกือบเฉพาะกับยา อย่างไรก็ตามโดยการบูรณาการ
ทักษะทางสังคมขั้นตอนการฝึกอบรมเข้าสู่การรักษาทางจิตวิทยาตามหลักฐานสำหรับความผิดปกติเหล่านี้ comorbid อารมณ์และความวิตกกังวลความผิดปกติจะได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Kopelowicz et al., 2006) บูรณาการนี้ควรคำนึงถึง
ขั้นตอนของการเจ็บป่วย: การแทรกแซงครอบครัวและสุขภาพจิตศึกษาสำหรับการบำบัดวิกฤต; วิธีการที่บริสุทธิ์พฤติกรรม (เศรษฐกิจโทเค็น) สำหรับอาการทางลบในผู้ป่วยเรื้อรัง และ CBT สำหรับอาการบวกความเข้าใจที่ไม่ดีและการปฏิบัติที่ไม่ดีในระยะแรกของโรค ดังนั้นการรวมกันในทางปฏิบัติของการแทรกแซงทางจิตสังคมเรา SST บวกเช่น CBT หรือ SST บวกสุขภาพจิตอย่างชัดเจนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของผลการรักษาและการกู้คืนของผู้ป่วย process.Although รุ่นที่ห้าของคู่มือการวินิจฉัยและสถิติของผิดปกติทางจิตแนะนำการเปลี่ยนแปลงในการวินิจฉัยไม่ เกณฑ์ B (สังคม / ความผิดปกติของการประกอบอาชีพ) สำหรับโรคจิตเภทการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในเกณฑ์ที่ควรจะนำมาพิจารณาเมื่อมีการวางแผนที่จะนำเสนอ SST กับบุคคลที่นำเสนออาการทางลบและการทำงานทางสังคมที่น่าสงสาร ผู้เชี่ยวชาญได้พบว่าลดลง avolition และการแสดงออกทางอารมณ์มีลักษณะที่สำคัญของอาการทางลบ; และพวกเขาพิจารณาว่าลดลงการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดีกว่าอธิบายลักษณะของการส่งผลกระทบต่อความผิดปกติในผู้ป่วยโรคจิตเภทกว่าแฟบอารมณ์ ดังนั้นเกณฑ์ของลักษณะที่ห้าในขณะนี้คืออาการทางลบลดลงเช่นอารมณ์
การแสดงออกและการ avolition (Tandon et al., 2013) .Finally ลักษณะทั่วไปของทักษะทางสังคมให้กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของลูกค้าเป็น
อย่างหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญสำหรับแพทย์เมื่อมีการใช้ SST interventions.In เป็นจริงพวกเขาสามารถเสริมต่อไปโดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการฝึกอบรมทักษะร่างกาย (กลีนน์ et al., 2002) และโดยการสมัครเป็น "ผู้สนับสนุนพื้นเมือง" เพื่อให้การฝึกอบรมทักษะทางสังคมสำหรับคนที่มีอาการจิตเภท 473 การใช้ทักษะในการจริง สถานการณ์ -Life (โตเบอร์ et al., 2000) เช่นเดียวกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเช่น VR (ที่ Rus-Calafell et al., 2014)