DiscussionReading habit is an essen

Discussion
Reading habit is an essential life skill. It not only increases
knowledge, but it also builds maturity and identity, sharpens
our thinking, and increases awareness in all daily life issues 1.
Acquiring knowledge through reading is crucial for learning
process of a medical student. In clinical practice, it is
important as it relates to clinical competencies.1
Medical students spent on average 5.7 h per week (median
3 h) on reading lecture hand outs and 4.9 h per week on reading
pocket books (median 4 h), which was nearly similar to the
results of similar study performed at King Saud Medical college
2009.8 A study of reading habits of medical clerks at John
Hopkins University School of Medicine in 2002–2003 revealed
that medical clerks reported for an average of 10.8 h per week.9
Medical students were reported in another study to read for an
average of 10.8 h per week and relied solely on medical textbooks.
10 One study reported that internists read for an average
of 4.4 h per week.11
The most useful source rated by students in the current
study was pocket books followed by lecture hand outs and focused
on them more than online updated sources. While online
sources are easily accessible and provides up to date information,
it may not be the most efficient source for students to obtain
critical information. However, students need to be
encouraged and motivated to use these online sources. The
same result was obtained by the study performed at King Saud
University.8 Meanwhile, online sources were the most useful
source rated by students of John Hopkins University School
of Medicine.9 Another study reported that the medical journals
were the most useful source.11
All students reported problems with reading. Time was a
barrier stated by majority of the students that hinders the reading
process. Medical students face a huge volume of different

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนานิสัยการอ่านเป็นทักษะจำเป็นต่อชีวิต มันไม่เพียงแต่เพิ่มความรู้ แต่มันยังสร้างครบกำหนดและรหัสประจำตัว sharpensคิดของเรา และเพิ่มการรับรู้ในทุกทุกเรื่องในชีวิต 1ได้รับความรู้ผ่านการอ่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้กระบวนการของนักศึกษาแพทย์ ในคลินิกสำคัญเกี่ยวข้องกับคลินิก competencies.1นักศึกษาแพทย์ใช้เฉลี่ย 5.7 h ต่อสัปดาห์ (ค่ามัธยฐาน3 h) ในการอ่านการบรรยายมือลึกหนาบางและ h 4.9 ต่อสัปดาห์ในการอ่านหนังสือพ็อกเก็ต (มัธยฐาน 4 h), ซึ่งเกือบเหมือนกับการผลการศึกษาที่คล้ายกันวิทยาลัยแพทย์กษัตริย์สะอูด2009.8 การศึกษาการอ่านพฤติกรรมของจ่าพยาบาลที่จอห์นฮ็อปกินส์มหาวิทยาลัยโรงเรียนการแพทย์ใน 2002 – 2003 เปิดเผยที่ดูแลทางการแพทย์รายงานค่าเฉลี่ยของ h 10.8 ต่อ week.9นักศึกษาแพทย์มีรายงานในการศึกษาอื่นการอ่านการเฉลี่ยของ h 10.8 ต่อสัปดาห์ และอาศัยแต่เพียงผู้เดียวในตำราทางการแพทย์10 ศึกษาหนึ่งรายงานว่า อายุรแพทย์อ่านค่าเฉลี่ยของ h 4.4 ต่อ week.11แหล่งที่มาเป็นประโยชน์มากที่สุดคะแนนนักเรียนในปัจจุบันศึกษามีหนังสือพ็อกเก็ตตามบรรยายมือลึกหนาบาง และมุ่งเน้นได้ปรับปรุงแหล่งออนไลน์มากกว่า ในขณะที่ออนไลน์แหล่งที่มาได้โดยง่าย และให้ข้อมูลเสมออาจไม่ใช่แหล่งมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับนักเรียนที่ได้รับข้อมูลที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม นักเรียนจำเป็นต้องรับการสนับสนุน และแรงจูงใจใช้แหล่งเหล่านี้ออนไลน์ ที่ผลลัพธ์เช่นเดียวกับได้รับ โดยการศึกษาการดำเนินการที่กษัตริย์สะอูดUniversity.8 ในขณะเดียวกัน แหล่งออนไลน์มีประโยชน์มากที่สุดแหล่งข้อมูลคะแนนนักเรียนของวิทยาลัยจอห์นฮ็อปกินส์ของ Medicine.9 ศึกษาอื่นรายงานว่า สมุดรายวันทางการแพทย์source.11 มีประโยชน์มากที่สุดนักเรียนทั้งหมดรายงานปัญหาเกี่ยวกับการอ่าน เวลามีการอุปสรรคระบุไว้ โดยส่วนใหญ่นักเรียนที่ทำการอ่านกระบวนการ นักศึกษาแพทย์หน้าไดรฟ์ข้อมูลขนาดใหญ่ของแตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำอธิบาย
นิสัยรักการอ่านเป็นทักษะชีวิตที่จำเป็น มันไม่เพียง แต่เพิ่ม
ความรู้ แต่ก็ยังสร้างครบกําหนดและบัตรประจำตัว, คมชัด
ความคิดของเราและเพิ่มความตระหนักในปัญหาชีวิตประจำวันทั้งหมด 1.
การรับรู้ผ่านการอ่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้
กระบวนการของการเป็นนักเรียนแพทย์ ในทางปฏิบัติทางคลินิกก็เป็นสิ่ง
ที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับคลินิก competencies.1
นักเรียนแพทย์ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 5.7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (เฉลี่ย
3 ชั่วโมง) ในการอ่านลึกหนาบางมือบรรยายและ 4.9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการอ่าน
หนังสือพ็อกเก็ต (เฉลี่ย 4 ชั่วโมง) ซึ่ง เกือบคล้ายกับ
ผลของการศึกษาที่คล้ายกันดำเนินการที่พระมหากษัตริย์ซูดวิทยาลัยการแพทย์
2,009.8 ศึกษานิสัยการอ่านของเสมียนทางการแพทย์ที่จอห์น
ฮอปกินส์โรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยใน 2002-2003 เปิดเผย
ว่าเสมียนทางการแพทย์รายงานเฉลี่ย 10.8 ชั่วโมงต่อ week.9
นักศึกษาแพทย์ที่ได้รับรายงานในการศึกษาอีกครั้งเพื่อให้อ่าน
ค่าเฉลี่ย 10.8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และอาศัย แต่เพียงผู้เดียวในตำราทางการแพทย์.
10 การศึกษาชิ้นหนึ่งรายงานว่า internists อ่านเฉลี่ย
4.4 ชั่วโมงต่อ week.11
แหล่งที่มีประโยชน์มากที่สุดในการจัดอันดับโดยนักเรียนใน ปัจจุบัน
การศึกษาหนังสือพ็อกเก็ตตามมาด้วยมือบรรยายลึกหนาบางและมุ่งเน้น
เกี่ยวกับพวกเขามากขึ้นกว่าแหล่งอัพเดตออนไลน์ ในขณะที่ออนไลน์
แหล่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายและให้ข้อมูลถึงวันที่
มันอาจจะไม่เป็นแหล่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับนักเรียนที่จะได้รับ
ข้อมูลที่สำคัญ อย่างไรก็ตามนักเรียนจะต้องมี
การส่งเสริมและมีแรงจูงใจที่จะใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์เหล่านี้
ผลเหมือนกันที่ได้รับจากการศึกษาดำเนินการที่กษัตริย์ซาอุด
University.8 ขณะเดียวกันแหล่งข้อมูลออนไลน์มีประโยชน์มากที่สุด
ที่มาจัดอันดับโดยนักศึกษาของจอห์นฮอปกินส์มหาวิทยาลัยโรงเรียน
ของ Medicine.9 การศึกษาอีกรายงานว่าวารสารทางการแพทย์
เป็น source.11 ​​มีประโยชน์มากที่สุด
นักเรียนทุกคนรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นกับการอ่าน เวลาเป็น
สิ่งกีดขวางที่ระบุไว้โดยนักเรียนส่วนใหญ่ที่เป็นอุปสรรคต่อการอ่าน
กระบวนการ นักศึกษาแพทย์เผชิญปริมาณมากที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นิสัยรักการอ่านการอภิปราย
เป็นทักษะชีวิตที่จำเป็น มันไม่เพียง แต่เพิ่ม
ความรู้ แต่มันยังสร้างวุฒิภาวะและเอกลักษณ์ ลับ
คิดของเราและเพิ่มความตระหนักในชีวิตประจําวันประเด็น 1 .
รับความรู้ผ่านการอ่านเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการเรียนรู้
กระบวนการของนักศึกษาแพทย์ ในการปฏิบัติการวิจัยทางคลินิก มัน
ที่สำคัญในขณะที่มันเกี่ยวข้องกับความสามารถทางคลินิก 1
.นักศึกษาแพทย์ใช้เวลาเฉลี่ย 5.7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ( เฉลี่ย
3 H ) ในการอ่านมือบรรยายลึกหนาบางและ 4.9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการอ่าน
กระเป๋าหนังสือ ( เฉลี่ย 4 ชั่วโมง ) , ซึ่งเป็นเกือบคล้ายกับ
ผลที่คล้ายกันดำเนินการศึกษาที่กษัตริย์ซาอุด วิทยาลัยแพทย์
2009.8 ศึกษานิสัยรักการอ่านของพนักงานทางการแพทย์ที่ โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ใน 2002 – 2003 เปิดเผย

ทางการแพทย์ที่พนักงานรายงานเฉลี่ย 10.8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักศึกษาแพทย์ 9
ที่มีรายงานในการศึกษาอื่นอ่านสำหรับ
เฉลี่ย 10.8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และอาศัยเพียงในตำราทางการแพทย์ .
10 การศึกษาหนึ่งรายงานว่าภายในอ่านเฉลี่ย
4.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่ 11
มีประโยชน์มากที่สุดแหล่ง การจัดอันดับ โดยนักศึกษาปัจจุบัน
กระเป๋าหนังสือตามด้วยการบรรยายละเอียด และเน้น
มือพวกเขามากกว่าออนไลน์ปรับปรุงแหล่งข้อมูล ขณะที่แหล่งข้อมูลออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและมี

ถึงข้อมูลวันที่ มันอาจเป็นแหล่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับนักเรียนเพื่อขอรับ
ข้อมูลที่สําคัญ อย่างไรก็ตาม นักเรียนต้องมีการส่งเสริมและกระตุ้นให้ใช้
แหล่งข้อมูลออนไลน์เหล่านี้ ผล
เดียวกันได้โดยดำเนินการศึกษาที่มหาวิทยาลัย King Saud
8 ขณะแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เป็นประโยชน์
มากที่สุดแหล่งที่มาของ นักเรียนในโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยจอห์นฮอบกินส์
9 ศึกษาอื่นที่รายงานว่า วารสารทางการแพทย์
เป็นแหล่งที่มีประโยชน์มากที่สุด 11
นักเรียนรายงานปัญหาเกี่ยวกับการอ่าน เวลาถูก
อุปสรรคตามที่นักศึกษาส่วนใหญ่ที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการอ่าน

นักศึกษาแพทย์หน้าไดรฟ์ข้อมูลขนาดใหญ่ของต่าง ๆ