First, the traditional society. A t

First, the traditional society. A traditional society is one whose structure is developed within
limited production functions, based on pre-Newtonian science and technology, and on pre-
Newtonian attitudes towards the physical world. Newton is here used as a symbol for that
watershed in history when men came widely to believe that the external world was subject to a
few knowable laws, and was systematically capable of productive manipulation.
The conception of the traditional society is, however, in no sense static; and it would not exclude
increases in output. Acreage could be expanded; some ad hoc technical innovations, often highly
productive innovations, could be introduced in trade, industry and agriculture; productivity could
rise with, for example, the improvement of irrigation works or the discovery and diffusion of a
new crop. But the central fact about the traditional society was that a ceiling existed on the level of
attainable output per head. This ceiling resulted from the fact that the potentialities which flow
from modern science and technology were either not available or not regularly and systematically
applied.
Both in the longer past and in recent times the story of traditional societies was thus a story of
endless change. The area and volume of trade within them and between them fluctuated, for
example, with the degree of political and social turbulence, the efficiency of central rule, the
upkeep of the roads. Population--and, within limits, the level of life--rose and fell not only with
the sequence of the harvests, but with the incidence of war and of plague. Varying degrees of
manufacture developed; but, as in agriculture, the level of productivity was limited by the
inaccessibility of modern science, its applications, and its frame of mind.
Generally speaking, these societies, because of the limitation on productivity, had to devote a very
high proportion of their resources to agriculture; and flowing from the agricultural system there
was an hierarchical social structure, with relatively narrow scope--but some scope--for vertical
mobility. Family and clan connexions played a large role in social organization. The value system
of these societies was generally geared to what might be called a long-run fatalism; that is, the
assumption that the range of possibilities open to one's grandchildren would be just about what it
had been for one's grandparents. But this long-run fatalism by no means excluded the short-run

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครั้งแรก สังคมดั้งเดิม เป็นสังคมดั้งเดิมมีโครงสร้างที่ได้รับการพัฒนาภายใน ฟังก์ชันจำกัดผลิต โดยใช้นิวตันก่อนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ การล่วงหน้าทัศนคติโลกนิวตัน นิวตันจะใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับที่นี่ ลุ่มน้ำในประวัติศาสตร์เมื่อผู้ชายมากันอย่างแพร่หลายเชื่อว่า โลกภายนอกเพื่อการ ไม่กี่ knowable กฎหมาย และความสามารถในการจัดการที่มีประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบความคิดของสังคมดั้งเดิมคือ อย่างไรก็ตาม ในความไม่คงที่ และมันจะรวม เพิ่มผลผลิต ขุดสามารถขยาย นวัตกรรมทางเทคนิคบางอย่างกิจ มักจะสูง สามารถนำนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ การค้า อุตสาหกรรม และการ เกษตร สามารถเพิ่มผลผลิต ขึ้นกับ เช่น ปรับปรุงงานชลประทาน หรือการค้นพบและการกระจายของการ การครอบตัดใหม่ แต่ความจริงเกี่ยวกับสังคมดั้งเดิมกลาง เพดานอยู่ในระดับของ ผลผลิตที่รับต่อหัว เพดานนี้เกิดจากความจริงที่ potentialities ซึ่งไหล จากวิทยาการสมัยใหม่และเทคโนโลยีไม่มี หรือไม่อย่างสม่ำเสมอ และเป็นระบบ นำไปใช้ทั้ง ในอดีตอีกต่อไป และ ในครั้งล่าสุดเรื่องราวของสังคมดั้งเดิมจึงเป็นเรื่องราวของ สิ้นสุดการเปลี่ยนแปลง พื้นที่และปริมาตรของการค้าภาย ในพวกเขา และ ระหว่างนั้นผันผวน สำหรับ ระดับของความปั่นป่วนทางการเมือง และสังคม ประสิทธิภาพของกฎกลาง ตัวอย่างการ upkeep of the roads. Population--and, within limits, the level of life--rose and fell not only with the sequence of the harvests, but with the incidence of war and of plague. Varying degrees of manufacture developed; but, as in agriculture, the level of productivity was limited by the inaccessibility of modern science, its applications, and its frame of mind.Generally speaking, these societies, because of the limitation on productivity, had to devote a very high proportion of their resources to agriculture; and flowing from the agricultural system there was an hierarchical social structure, with relatively narrow scope--but some scope--for vertical mobility. Family and clan connexions played a large role in social organization. The value system of these societies was generally geared to what might be called a long-run fatalism; that is, the assumption that the range of possibilities open to one's grandchildren would be just about what it had been for one's grandparents. But this long-run fatalism by no means excluded the short-run

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ครั้งแรก สังคมแบบดั้งเดิม สังคมแบบดั้งเดิมเป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ถูกพัฒนาขึ้นภายในฟังก์ชันการผลิต จำกัด ยึดก่อนนิวตัน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และก่อนนิวตันทัศนคติต่อโลกทางกายภาพ นิวตัน มาใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับลุ่มน้ำในประวัติศาสตร์เมื่อผู้ชายมาอย่างกว้างขวาง เชื่อว่า โลกภายนอกมันขึ้นอยู่กับกฎหมายที่เรียนรู้ได้น้อยและมีความสามารถในการจัดการระบบที่มีประสิทธิภาพความคิดของสังคมไทย แต่ในความรู้สึกไม่คงที่ มันก็ไม่ยกเว้นเพิ่มผลผลิต หน่วยวัดพื้นที่เป็นเอเคอร์อาจจะขยาย ; เฉพาะกิจนวัตกรรมทางเทคนิคบาง มักจะสูงนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้ในทางการค้า อุตสาหกรรม และการเกษตร ผลผลิตที่สามารถเพิ่มขึ้นด้วย เช่น การปรับปรุงงานชลประทานหรือการค้นพบและการแพร่กระจายของตัดใหม่ . แต่กลางความเป็นจริงเกี่ยวกับสังคมแบบดั้งเดิมนั้นอยู่ในระดับของฝ้าเพดานได้ผลผลิตต่อหัว เพดานนี้เป็นผลมาจากความจริงที่ว่าศักยภาพซึ่งไหลจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ถ้าไม่สามารถใช้ได้หรือไม่สม่ำเสมอและอย่างเป็นระบบประยุกต์ทั้งในเวลาที่ผ่านมา และในครั้งล่าสุดเรื่องราวของสังคมดั้งเดิมจึงเป็น เรื่องราวของเปลี่ยนไม่รู้จบ พื้นที่และปริมาตรของการค้าภายในและระหว่างพวกเขาไม่ได้ ,ตัวอย่าง ด้วยระดับของการเมืองและสังคมที่มี ประสิทธิภาพของกฎกลางการบำรุงรักษาของถนน ประชากร และ ภายใน จำกัด ระดับของชีวิตเพิ่มขึ้นและลดลงไม่เพียง แต่กับลำดับการเก็บเกี่ยว แต่กับการเกิดสงครามและโรคระบาด องศาที่แตกต่างของผลิต พัฒนา แต่เป็นเกษตร ระดับของการผลิตมีจำกัดโดยความฉลาดของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ , การประยุกต์ใช้งาน และกรอบของจิตใจพูดโดยทั่วไป , เหล่านี้ เป็นเพราะข้อจำกัดในการผลิต ต้องทุ่มเทมากสัดส่วนของทรัพยากรของตนเอง เพื่อการเกษตร และไหลจากระบบการเกษตรมีเป็นโครงสร้างทางสังคมแบบมีขอบเขต ขอบเขตค่อนข้างแคบ . . . แต่บาง -- แนวตั้งการเคลื่อนไหว ครอบครัวและตระกูล Connexions เล่นบทบาทขนาดใหญ่ในองค์กรทางสังคม ระบบคุณค่าของสังคมเหล่านี้ มักมุ่งไปที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นประเภทเชื่อโชคชะฅา ; นั่นคือสมมติว่าช่วงของความเป็นไปได้เปิดให้หลานจะเป็นเพียงเกี่ยวกับสิ่งที่มันได้รับการหนึ่งของปู่ย่า แต่ในระยะยาวเชื่อโชคชะฅาโดยไม่รวมช่วงระยะสั้น