Mandi M. Johnson (2013) studied abo

Mandi M. Johnson (2013) studied about “The relationship between reading fluency ,spelling ability and knowledge in elementary students” The aim of this study was to determine the effects spelling has on reading fluency and reading knowledge, various studies must be analyzed and discussed to identify the most proficient practices elementary teachers can amalgamate into their classrooms. Teachers who instrument effective practices into their classrooms should see reorganization during their students’ spelling skills. As reading fluency, spelling skills improve, and knowledge should improve. Different strategies and methods have also been diagnosed to see which are the most proficient for elementary students. Some teachers feel that spelling is not an important constitutive in the curriculum. Doing some research, spelling is a critical component not only in comprehension and reading fluency, but also across the curriculum in all subject areas. In addition, he said that if the student often practices the words by reading, the students will spell the words fluently and word learning will be increased.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Mandi ม. Johnson (2013) ศึกษาเกี่ยวกับ "ความสัมพันธ์ระหว่างอ่านแคล่ว ความสามารถในการสะกด และความรู้ในนักเรียนประถมศึกษา" จุดมุ่งหมายของการศึกษาได้กำหนดลักษณะพิเศษที่มีการสะกดอ่านแคล่ว และอ่านความรู้ การศึกษาต่าง ๆ ต้องวิเคราะห์ และอธิบายระบุปฏิบัติความเชี่ยวชาญมากที่สุดที่ครูระดับประถมศึกษาสามารถ amalgamate ในห้องเรียนของพวกเขา ตราผลปฏิบัติในห้องเรียนของครูควรดูลูกจ้างระหว่างทักษะการสะกดคำของนัก อ่านแคล่ว พัฒนาทักษะการสะกดคำ และความรู้ควรปรับปรุง กลยุทธ์ต่าง ๆ และวิธีได้ยังรับการวินิจฉัยดูซึ่งมีความเชี่ยวชาญมากที่สุดสำหรับนักเรียนประถมศึกษา ครูบางอย่างรู้สึกว่า การสะกดคำไม่มีความสำคัญขึ้นในหลักสูตร ทำบางวิจัย การสะกดคำเป็นส่วนประกอบสำคัญไม่เพียงแต่ทำความเข้าใจและอ่านแคล่ว แต่ยัง ผ่านหลักสูตรในเรื่องทั้งหมด นอกจากนี้ เขากล่าวว่า ถ้านักเรียนมักจะปฏิบัติคำ โดยการอ่าน นักเรียนจะสะกดคำว่า fluently และจะเพิ่มการเรียนรู้คำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดิเอ็มจอห์นสัน (2013) ศึกษาเกี่ยวกับ "ความสัมพันธ์ระหว่างความคล่องแคล่วอ่านความสามารถในการสะกดคำและความรู้ในนักเรียนชั้นประถม" จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบการสะกดผลกระทบที่มีต่อความคล่องแคล่วในการอ่านและความรู้การอ่านการศึกษาต่างๆจะต้องวิเคราะห์และพูดคุยกัน ในการระบุการปฏิบัติที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดครูประถมสามารถผสมเข้าไปในห้องเรียนของพวกเขา ครูที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติเครื่องดนตรีเข้าไปในห้องเรียนของพวกเขาจะเห็นการปฏิรูปในช่วงทักษะการสะกดคำของนักเรียน การอ่านคล่องแคล่วปรับปรุงทักษะการสะกดคำและความรู้ควรจะปรับปรุง กลยุทธ์ที่แตกต่างและวิธีการยังได้รับการวินิจฉัยเพื่อดูว่ามีความเชี่ยวชาญมากที่สุดสำหรับนักเรียนชั้นประถม ครูบางคนรู้สึกว่าการสะกดคำไม่ได้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในหลักสูตร การทำวิจัยบางอย่างสะกดเป็นส่วนประกอบที่สำคัญไม่เพียง แต่ในความเข้าใจและความคล่องแคล่วในการอ่าน แต่ยังข้ามหลักสูตรในทุกสาขาวิชา นอกจากนี้เขาบอกว่าถ้านักเรียนมักจะปฏิบัติคำโดยการอ่านของนักเรียนจะสะกดคำได้อย่างคล่องแคล่วและการเรียนรู้คำว่าจะเพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Mandi เมตร จอห์นสัน ( 2013 ) ศึกษาเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างการอ่านคล่อง การสะกด ความสามารถและความรู้ของนักศึกษา " ระดับประถมศึกษา จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาผลที่มีต่อความสามารถในการอ่านสะกดคำและความรู้ การอ่าน การศึกษาต่าง ๆต้องถูกวิเคราะห์และอภิปรายเพื่อหาแนวทางที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดครูประถมศึกษา สามารถรวมกันเป็นห้องเรียนของพวกเขาครูที่ปฏิบัติเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเรียนของพวกเขาควรจะเห็นการปรับปรุงในทักษะการสะกดคำของนักเรียนของพวกเขา เท่าที่อ่าน ความสามารถ ทักษะการเขียนสะกดคำศัพท์ปรับปรุง และความรู้ที่ควรปรับปรุง กลยุทธ์ที่แตกต่างกันและวิธีการได้รับการวินิจฉัยดูว่ามีมากที่สุดเชี่ยวชาญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาครูบางคนรู้สึกว่าสะกดเป็นสำคัญ และในหลักสูตรนี้ ทำวิจัยบาง สะกดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญไม่เพียง แต่ในความเข้าใจ และอ่านคล่อง แต่ยังผ่านหลักสูตรในสาขาวิชาทั้งหมด นอกจากนี้ เขากล่าวว่า ถ้านักเรียนมักจะปฏิบัติคำโดยการอ่าน นักเรียนจะสะกดคำได้อย่างคล่องแคล่วและการเรียนรู้คำจะเพิ่มขึ้น