From Fig. 4, it is also evident tha

From Fig. 4, it is also evident that voltages at different rates of charging and discharging are also different; this is due to internal resistance of the battery [9]. The differences in voltages are not uniform for the whole range of SoC, as the internal resistance is also a non-linear function if the SoC [11]. When the battery is at rest, that is, no current flow takes place, the voltage becomes lower [10]. Polynomial interpolation technique applied in [12] to model the discharge curves of the batteries will be used in this paper. For a given state of charge (SoC), the voltage level when charging is different to that when discharging as shown in Fig. 4. This is due to the fact that some energy used to charge the battery is not recovered when the battery is discharged [13]. This will be considered in modeling the charge and discharge profiles of the battery. The
charge and discharge profiles will be interpolated using polynomial functions.
The charging power of the battery, Pchg, can be obtained from the battery voltage during the charging operation, Vchg, and the charging current Ichg as follows:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จาก Fig. 4 ก็ยังเห็นได้ชัดว่า แรงดันที่ชาร์จ และปล่อยก็แตกต่างกัน นี่คือเนื่องจากความต้านทานภายในของแบตเตอรี่ [9] ความแตกต่างของแรงดันไม่สม่ำเสมอในการทั้งช่วงของ SoC เป็นความต้านทานภายในก็ไม่เชิงเส้นฟังก์ชันถ้า SoC [11] เมื่อแบตเตอรี่ที่เหลือ คือ กระแสปัจจุบันไม่เกิด แรงดันไฟฟ้าจะลดลง [10] จะใช้เทคนิคแทรกแทรงพหุนามที่ใช้ใน [12] แบบโค้งปล่อยของแบตเตอรี่กระดาษนี้ รัฐกำหนดค่า (SoC), ระดับแรงดันไฟฟ้าเมื่อชาร์จไฟจะแตกต่างที่เมื่อปล่อยตามที่แสดงใน Fig. 4 นี่คือเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าพลังงานบางอย่างที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่จะไม่กู้คืนเมื่อแบตเตอรี่หมดพลังงาน [13] นี้จะเป็นในค่าธรรมเนียม และถ่ายของแบตเตอรี่ ใน
จะการสค่าและปล่อยส่วนกำหนดค่าโดยใช้ฟังก์ชันพหุนาม
ไฟชาร์จแบตเตอรี่ Pchg ได้จากแรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่ในการชาร์จ Vchg และ Ichg ปัจจุบันชาร์จดัง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากรูปที่ 4 ก็ยังเห็นว่าแรงดันไฟฟ้าในอัตราที่แตกต่างกันของการเรียกเก็บเงินและการปฏิบัตินอกจากนี้ยังมีที่แตกต่างกันนี้เป็นเพราะความต้านทานภายในของแบตเตอรี่ [9] ความแตกต่างในแรงดันไฟฟ้าไม่เหมือนกันสำหรับทั้งช่วงของ SoC เป็นความต้านทานภายในยังเป็นฟังก์ชั่นไม่เป็นเชิงเส้นถ้า SoC [11] เมื่อแบตเตอรี่ที่เหลือนั่นคือไม่มีการไหลของกระแสจะเกิดขึ้นจะกลายเป็นแรงดันไฟฟ้าที่ลดลง [10] เทคนิคการแก้ไขพหุนามนำมาใช้ใน [12] แบบโค้งปฏิบัติของแบตเตอรี่จะถูกใช้ในบทความนี้ ของรัฐได้รับค่าใช้จ่าย (SoC) ระดับแรงดันไฟฟ้าเมื่อชาร์จจะแตกต่างกันไปว่าเมื่อปฏิบัติตามที่แสดงในรูปที่ 4 เพราะนี่คือความจริงที่ว่าพลังงานบางอย่างที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ไม่ได้รับการกู้คืนเมื่อแบตเตอรี่หมด [13] นี้จะได้รับการพิจารณาในการสร้างแบบจำลองค่าใช้จ่ายและการปล่อยโปรไฟล์ของแบตเตอรี่
ค่าใช้จ่ายและการปล่อยโปรไฟล์จะได้รับการสอดแทรกการใช้ฟังก์ชันพหุนาม
กำลังชาร์จของแบตเตอรี่ Pchg, สามารถหาได้จากแรงดันแบตเตอรี่ในระหว่างการดำเนินการเรียกเก็บเงิน Vchg และการเรียกเก็บเงินในปัจจุบัน Ichg ดังนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากรูปที่ 4 ก็ยังปรากฏชัดว่า แรงดันในอัตราที่แตกต่างกันของการชาร์จและคายประจุยังแตกต่างกัน เนื่องจากความต้านทานภายในของแบตเตอรี่ [ 9 ] ความแตกต่างของแรงดันไม่สม่ำเสมอสำหรับช่วงทั้งหมดของรายวิชา เช่น ความต้านทานภายในเป็นแบบฟังก์ชัน ถ้า ส [ 11 ] เมื่อแบตเตอรี่ที่เหลือ นั่นคือ ปัจจุบันไม่มีการใช้สถานที่แรงดันจะลดลง [ 10 ] การใช้เทคนิควิธีใน [ 12 ] รูปแบบการไหลโค้งของแบตเตอรี่จะถูกใช้ในบทความนี้ ให้รัฐเสียค่าใช้จ่าย ( ส ) , ระดับแรงดันเมื่อชาร์จไฟแตกต่างกันไป เมื่อปล่อยดังแสดงในรูปที่ 4เนื่องจากพลังงานที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่จะไม่หายเมื่อแบตเตอรี่ถูกไล่ออก [ 13 ] นี้จะได้รับการพิจารณาในการสร้างโปรไฟล์ของค่าใช้จ่ายและจำหน่ายแบตเตอรี่
ค่าใช้จ่ายและโปรไฟล์ปล่อยจะขัดโดยใช้ฟังก์ชันพหุนาม .
ชาร์จพลังงานของแบตเตอรี่ pchg , ,ได้จากแรงดันแบตเตอรี่ในระหว่างการดำเนินงาน vchg และชาร์จ ichg ในปัจจุบันดังนี้