The ocean bottom---a region nearly

The ocean bottom---a region nearly 2.5 times greater than the total land area of the Earth---is a vast frontier that even today is largely unexplored and unchart. Until about a century ago,the deep ocean floor was completely inaccessible,hidden beneath waters averaging over 3600 meters deep.Yotally without light and subjected to intense pressures hundreds of times greater than at the Earth’s surface,the deep ocean bottom is a hostile environment to humans,in some ways as forbidding and remote as the void of outer space.
Although researchers have taken samples of deep-ocean rocks and sediments for over a century,the first detailed global investigation of the ocean bottom did not actually start until 1968,with the beginning of the National Science Foundation’s Deep Sea Drilling Project (DSDP).Using techniques first developed for the offshore oil and gas industry.The DSDP’s drill ship,the Glomar Challenger,was able to maintain a steady position on the ocean’s surface and drill in very deep water,extracting samples of sediments and rock from the ocean floor.
The Glomar Challenger completed 96 voyages in a 15-year research program that ended in November 1983. During this time,thevessel logged 600000 kilometers and took almost 20000 core samples of seabed sediments and rocks at 624 drilling sites around the world.The Glomar Challenger’s core samples have allowed geologists to reconstruct what the planet looked like hundred of millions of years in the future.Today,largely on the strength of evidence gathered during the Glomar Challenger’s voyages,nearly all earth scientists agree on the theories of plate tectonics and continental drift that explain many og the geological processes that shape the Earth.
The cores of sediment drilled by the Glomar Challenger have also yielded information critical to understanding the world’s past climates.Deep-ocean sediments provide a climatic record stretching back hundredsbof millions of years,because they are largely isolated from the mechanical erosion and the intense chemical and biological activity that rapidly destroy much land-based evidence of past climates.This record has already provided insights into the patterns and causes of past climatic change---information that may be used to predict future climates

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โอเชี่ยนล่างพื้นที่เกือบ 2.5 เท่ามากกว่าพื้นที่ทั้งหมดของโลก---เป็นชายแดนใหญ่ที่ทุกวันนี้ unexplored เป็นส่วนใหญ่ และ unchart จนกว่าเกี่ยวกับศตวรรษ พื้นมหาสมุทรลึกได้ไม่สมบูรณ์ ซ่อนอยู่ใต้น้ำลึกกว่า 3600 เมตรการหาค่าเฉลี่ยYotally ไม่ มีไฟและต้องรุนแรงดันหลายร้อยเท่ากว่าที่พื้นผิวของโลก ด้านล่างทะเลลึกเป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับมนุษย์ ในบางวิธีเป็นห้ามปรามทำรีโมทเป็นโมฆะของอวกาศแม้ว่านักวิจัยได้นำตัวอย่างหินลึกทะเลและตะกอนในกว่าศตวรรษ การสอบสวนรายละเอียดโลกแรกของด้านล่างของมหาสมุทรไม่จริงเริ่มต้นจนถึง 1968 มีจุดเริ่มต้นของของรากฐานวิทยาศาสตร์ชาติลึกทะเลเจาะโครงการ (DSDP)ก่อนใช้เทคนิคที่พัฒนาขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซในต่างประเทศเรือของ DSDP สว่าน ชาเลนเจอร์ Glomar ก็สามารถรักษาตำแหน่งมั่นคงบนพื้นผิวของมหาสมุทร และเจาะในน้ำลึกมาก การแยกตัวอย่างหินและตะกอนจากพื้นมหาสมุทรชาลเลนเจอร์ Glomar เสร็จสมบูรณ์ 96 วอเยจส์ในโปรแกรมวิจัย 15 ปีที่สิ้นสุดในเดือน 1983 พฤศจิกายน ในช่วงเวลานี้ thevessel ล็อก 600000 กิโลเมตร และเอาเกือบ 20000 ตัวอย่างแกนหินและตะกอนก้นทะเลที่ 624 เจาะไซต์ทั่วโลกตัวอย่างหลักของชาลเลนเจอร์ Glomar ยอมให้นักธรณีวิทยาจะสร้างดาวเคราะห์ที่มองเช่นร้อยล้านปีในอนาคตวันนี้ ส่วนใหญ่ความแรงของหลักฐานที่รวบรวมระหว่างวอเยจส์ของชาลเลนเจอร์ Glomar นักวิทยาศาสตร์โลกเกือบทั้งหมดยอมรับทฤษฎีแผ่นเปลือกโลกและทวีปที่อธิบายการออกแบบธรณีวิทยาในกระบวนการที่รูปร่างโลกแกนของตะกอนที่เจาะ โดยผู้ท้าชิง Glomar ยังได้หาข้อมูลที่สำคัญเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพอากาศของโลกที่ผ่านมาลึกมหาสมุทรตะกอนให้ระเบียน climatic ยืดหลัง hundredsbof ล้านปี เนื่องจากส่วนใหญ่แยกต่างหากจากการพังทลายของเครื่องจักรกลและกิจกรรมรุนแรงเคมี และชีวภาพที่ทำลายมากที่ดินตามหลักฐานของสภาพอากาศที่ผ่านมาอย่างรวดเร็วบันทึกนี้มีอยู่แล้วให้ลึกรูปแบบและสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง climatic อดีต---ข้อมูลที่สามารถใช้เพื่อทำนายสภาพอากาศในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มหาสมุทรด้านล่าง --- เขตเกือบ 2.5 เท่าสูงกว่าพื้นที่ทั้งหมดของ --- โลกชายแดนมากมาย ที่แม้วันนี้เป็นส่วนใหญ่ และ unchart unexplored . จนถึงศตวรรษที่ผ่านมา พื้นมหาสมุทรลึกไม่สมบูรณ์ไม่สามารถเข้าถึงที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำเฉลี่ยกว่า 3 , 600 เมตรลึกyotally ไร้แสง และต้องดุเดือดหลายร้อยเท่ามากกว่าที่พื้นผิวโลก ก้นมหาสมุทรลึกเป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นศัตรูกับมนุษย์ ในบางวิธี เช่น การห้ามและระยะไกลเป็นช่องว่างของอวกาศ .
ถึงแม้ว่านักวิจัยได้นำตัวอย่างของหินและตะกอนทะเลลึกสำหรับกว่าศตวรรษครั้งแรกของโลกการตรวจสอบก้นมหาสมุทรไม่ได้จริง ๆเริ่ม จนกระทั่ง 1968 กับจุดเริ่มต้นของโครงการการขุดเจาะในทะเลลึกของมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ( dsdp ) โดยใช้เทคนิคการพัฒนาครั้งแรกสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งของ dsdp เจาะเรือ ผู้ท้าชิง glomar ก็สามารถที่จะรักษาตำแหน่งบนพื้นผิวคงที่ ของมหาสมุทรและเจาะในน้ำที่ลึกมากการสกัดตัวอย่างดินและหินจากพื้นมหาสมุทร .
ผู้ท้าชิง glomar เสร็จ 96 การเดินทางใน 15 ปีโครงการวิจัย ที่สิ้นสุดในพฤศจิกายน 1983 ในช่วงเวลานี้ thevessel เข้าสู่ระบบ 600000 กิโลเมตรและใช้เวลาเกือบ 20 , 000 แกนตัวอย่างตะกอนก้นทะเลและโขดหินที่เขาเจาะเว็บไซต์ทั่วโลกตัวอย่างหลัก glomar ผู้ท้าชิงต้องให้นักธรณีวิทยาเพื่อสร้างสิ่งที่ดาวเคราะห์ดูเหมือนร้อยล้านปีในอนาคต วันนี้คือความแข็งแรงของหลักฐานที่รวบรวมในช่วง glomar ชาลเลนเจอร์การเดินทางเกือบทั้งหมดบนโลก นักวิทยาศาสตร์ยอมรับในทฤษฎีของเปลือกโลกและทวีปที่อธิบายกระบวนการทางธรณีวิทยาที่รูปร่างมากมาย และ โลก
แกนตะกอนเจาะโดยผู้ท้าชิง glomar ยังหาข้อมูลที่สำคัญเพื่อความเข้าใจของโลกอดีต climates.deep-ocean ตะกอนให้ภูมิอากาศประวัติยืดกลับ hundredsbof ล้านปีเพราะส่วนใหญ่ที่แยกได้จากดินกลและสารเคมีที่รุนแรงและชีวภาพ กิจกรรมที่ทำลายหลักฐานอย่างรวดเร็วมากที่ใช้ในอดีตของดินฟ้าอากาศ บันทึกนี้ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบและสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศในอดีต --- ข้อมูลที่อาจถูกใช้เพื่อทำนาย
สภาพอากาศในอนาคต