ภาพลักษณ์ (Body image)
หมายถึง ความรู้สึกรับรู้ของบุคคลต่อร่างกายของตนเอง รวมทั้งทัศนคติต่อบุคลิกภาพ
ความสามารถของตนเอง เป็นการแสดงความรู้สึกของบุคคลต่อรูปร่าง ว่า สวย หล่อ
รูปทรงสมส่วน การเจริญเติบโตตามวัย การเจ็บป่วยที่ส่งผลทำให้ภาพลักษณ์เปลี่ยนแปลง
มีผลกระทบให้เกิดความกังวล ความกลัว ความไม่มั่นใจ
เด็กมีการพัฒนาภาพลักษณ์ตั้งแต่ในวัยทารก โดยถูกกระตุ้นรับรู้ความรู้สึกจากส่วนต่างๆ
ของร่างกายโดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นบิดามารดาและผู้เลี้ยงดูควรให้ความรัก
และมีการสัมผัสร่างกายของเด็กทุกส่วนตั้งแต่ปากโดยการให้ดูดนม ให้ทารกรู้จักส่วนต่างๆ
ของร่างกายตั้งแต่ใบหน้า จากการส่องกระจกและสอนให้เรียกอวัยวะต่างๆของร่างกาย ทำให้ทารกเริ่มมีการรับรู้
เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตนเอง
วัยหัดเดิน ในระยะการขับถ่ายทำให้เริ่มมีการควบคุมการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะทำให้เป็น
ภาพลักษณ์ของเด็กวัยนี้ ซึ่งบิดามารดาและผู้เลี้ยงดูจะต้องฝึกหัดการควบคุมการขับถ่าย
ของเด็กให้เด็กเกิดความมั่นใจต่อไป
วัยก่อนเรียน เด็กมีความสนใจและรับรู้เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างเพศอย่างชัดเจน บิดามารดาและเพื่อน
มีอิทธิพลต่อเด็กวัยนี้อย่างมากที่ให้เด็กรับรู้ว่าตัวเองเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย
วัยเรียน เด็กมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย อารมณ์และสังคมอย่างมาก
และเพื่อนมีส่วนเกี่ยวข้องในภาพลักษณ์ของเด็กวัยนี้ เด็กอายุ 7 ปี จะเริ่มมีบุคลิกลักษณะเป็นของตนเอง
และปลายวัยเรียนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอารมณ์และสังคมเพื่อเข้าสู่วัยรุ่นต่อไป
วัยรุ่น มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย อารมณ์และสังคมอย่างรวดเร็วมีการพัฒนาการทางเพศ
มีผลต่อภาพลักษณ์ของตนเองอย่างมาก เช่น อ้วนมากเกินไป ผอมเกินไป ไม่สวย เป็นต้น
ดังนั้นพยาบาลบิดามารดาจะต้องเข้าใจเด็กแต่ละวัยว่ามีความรู้สึกต่อภาพลักษณ์ของตนเอง
อย่างไรและบิดามารดาและเด็กแต่ละวัยจะต้องมีสัมพันธภาพและปฏิสัมพันธ์ต่อผู้ใกล้ชิด
และเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี ซึ่งเด็กจะต้องมีทัศนคติต่อภาพลักษณ์ของตนเองและของผู้อื่น
ทำให้เป็นรากฐานของการพัฒนาที่มั่นคงของเด็กต่อไปในอนาคต ถ้าอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับภาพลักษณ์
มั่นคงจะทำให้เด็กโตขึ้นมีความเข้มแข็งทางจิตใจสามารถพึ่งพาตนเอง และแก้ปัญหาให้กับตนเองได้
มีความกังวลน้อยลงและต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นน้อยลง
การเจ็บป่วยทำให้ภาพลักษณ์เปลี่ยนแปลงไป
ปัญหาของการเจ็บป่วยมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของภาพลักษณ์ พยาบาลควรต้องศึกษาว่าเด็กมีปฎิกิริยา
ต่อการเปลี่ยนแปลงดังนี้
- มีท่าทีต่อการเปลี่ยนแปลงของภาพลักษณ์ของตนเอง
- มีความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง เช่น กลัวตาย ทำให้ทุพลภาพของร่างกายทำให้เสียโฉม
ปฏิเสธ ไม่รักร่างกายของตนเอง
- ถามซ้ำๆ เช่น “ทำไมฉันจึงถูกทำโทษ” “ทำไมจึงเกิดกับฉัน”
- เศร้าโศกเสียใจ สูญเสียภาพลักษณ์
ในเรื่องภาพลักษณ์เกี่ยวกับตนเองมีความสำคัญมากสำหรับวัยรุ่น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็วของร่างกายทำให้เด็กเกิดความไม่มั่นใจในภาพลักษณ์ของตนเอง
และการเจ็บป่วยเรื้อรังหลายโรคทำให้เด็กวัยรุ่นเตี้ยและผอม พัฒนาการทางเพศล่าช้า
ร่างกายผิดปกติ มีการจำกัดการเคลื่อนไหวและจะพบเสมอว่าผู้ป่วยวัยรุ่นที่เจ็บป่วยเรื้อรังหรือร่างกายพิการ
เป็นสาเหตุที่ทำให้เขามีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตนเอง และมีความนับถือตัวเองต่ำต้อย
ทั้งสองสิ่งนี้จะเป็นปัญหาสุขภาพ และเกี่ยวกับการยอมรับของกลุ่มด้วย
นอกจากนี้ผู้ป่วยประเภทนี้ยังถูกจำกัดในแง่ความเป็นอิสระ และการสังคมกับเพื่อนเพศเดียวกัน
และเพื่อนต่างเพศด้วย
สำหรับการช่วยเหลือผู้ป่วยนั้น ครอบครัว เพื่อนและทีมสุขภาพ จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ
ผู้ป่วย โดยเฉพาะเพื่อนที่มีปัญหาคล้ายๆกันจะทำให้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด อาจจัดให้มีการอภิปรายเป็นกลุ่ม
เกี่ยวกับการปฏิบัติรักษา เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้แสดงความรู้สึกและปรับตัว
ดังนั้นพยาบาลต้องดูแลโดยอธิบายให้บิดามารดาเข้าใจถึงปฏิกิริยาที่เด็กแสดง
ออกและช่วยให้เด็กและครอบครัวปรับตัวยอมรับภาพลักษณ์ของตนเองในแง่ดี เพื่อจะได้ใช้ชีวิตในสังคม
ได้อย่างเป็นปกติสุข