Kalasin is one of the most fertile

Kalasin is one of the most fertile provinces in the northeastern region. According to archaeological evidence, it points that the area was once inhabited by the Lawa tribe, whose civilization dates back to about 1,600 years ago. The historical evidence points out that the city was first established during the Rattanakosin period in 1793. Thao Somphamit and his troops escaped from the left bank of the Mekong River and settled on the bank of the Pao River, which was called ‘Ban Kaeng Samrong.’ Then, he sent tribute to King Rama I, the Great who later promoted Ban Kaeng Samrong as a city and renamed it ‘Kalasin’ or ‘Mueang Nam Dam’ (a black water town), which later became an important city. ‘Kala’ means ‘black’; ‘sin’ means ‘water’, so Kalasin means ‘black water.’ The king also appointed Thao Somphamit as ‘Phraya Chaisunthon’ who became the first ruler of Kalasin.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในภาคอีสานอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามหลักฐานทางโบราณคดี จะชี้ที่บริเวณที่อาศัยของชนเผ่าละว้า อารยธรรมซึ่งย้อนไปเมื่อประมาณ 1,600 ปี หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า เมืองก่อตั้งในช่วงรัตนโกสินทร์ใน 1793 บันทึกท้าวและกองกำลังของเขาหลบหนีออกจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และตั้งรกรากบนธนาคารของแม่น้ำปาว ซึ่งเรียกว่า 'บ้านแก่งสำโรง' แล้ว เขาส่งบรรณาการไปพระรามผม ดีที่ส่งเสริมบ้านแก่งสำโรงเป็นเมืองในภายหลัง และเปลี่ยนชื่อ 'กาฬสินธุ์' หรือ 'เมืองน้ำเขื่อน' (ดำน้ำเมือง), ซึ่งภายหลังกลายเป็นเมืองสำคัญ 'กะลา' หมายถึง 'สีดำ' 'บาป' หมายถึง 'น้ำ' เพื่อกาฬสินธุ์หมายถึง 'ดำน้ำ' นอกจากนี้กษัตริย์ยังแต่งตั้งท้าวบันทึกเป็น 'พระยา Chaisunthon' ที่กลายเป็นไม้บรรทัดแรกของกาฬสินธุ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กาฬสินธุ์เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามหลักฐานทางโบราณคดีชี้ว่าพื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยครั้งโดยชนเผ่าละว้าซึ่งอารยธรรมวันที่กลับไปประมาณ 1,600 ปีที่ผ่านมา หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าเป็นเมืองที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ใน 1793 ท้าว Somphamit และกองกำลังของเขาหนีออกมาจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงและตั้งรกรากอยู่บนฝั่งของแม่น้ำปาวซึ่งถูกเรียกว่า 'บ้านแก่งสำโรง ' จากนั้นเขาส่งส่วยให้รัชกาลที่ยิ่งใหญ่ซึ่งต่อมาได้รับการเลื่อนตำแหน่งบ้านแก่งสำโรงเป็นเมืองและเปลี่ยนชื่อเป็น 'กาฬสินธุ์' หรือ 'เมืองน้ำเขื่อน (เมืองน้ำดำ) ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเมืองสำคัญ 'กะลา' หมายถึง 'สีดำ'; 'บาป' หมายถึง 'น้ำ' เพื่อกาฬสินธุ์หมายถึง 'น้ำดำ. พระมหากษัตริย์นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งท้าว Somphamit เป็น 'พระยาชัยสุนทร' ที่กลายเป็นเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดกาฬสินธุ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามหลักฐานทางโบราณคดี จุดที่พื้นที่ที่เคยอาศัยอยู่ โดยชนเผ่าละว้า ที่อารยธรรมวันที่กลับไปประมาณ 1 , 600 ปีมาแล้ว หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าเมืองถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ใน 1793 . ท้าว somphamit และกองทหารของเขาหนีออกมาจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงและตัดสินในธนาคารของแม่น้ำปาว ซึ่งถูกเรียกว่า " บ้านแก่งสำโรง " แล้ว เขาส่งบรรณาการแด่รัชกาลที่ ใหญ่ ที่ บ้านแก่งสำโรง ต่อมาเลื่อนเป็นเมืองและเปลี่ยนชื่อเป็น " กาฬสินธุ์ " หรือ " เมืองนัมเขื่อน ( เมืองน้ำดำ ) ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นเมืองสำคัญ " กะลา " หมายถึง " สีดำ " " บาป " หมายถึง " น้ำ " ดังนั้น กาฬสินธุ์ หมายถึง " น้ำดำ " กษัตริย์แต่งตั้งท้าว somphamit เป็นพระยา chaisunthon " ที่กลายเป็นไม้บรรทัดแรกของจังหวัดกาฬสินธุ์