Mindfulness has been described as a

Mindfulness has been described as a state of awareness characterized by refined attentional skills and a non-evaluative attitude toward internal and external events. Recently, it has been suggested that higher levels of mindfulness may be beneficial in the workplace and first programs aiming to increase mindful awareness in occupational settings have been introduced. The current study underpins these developments with empirical evidence regarding the involved psychological processes, by investigating the relationship between dispositional mindfulness, work engagement, and well-being in 299 adults in full-time employment. As hypothesized, the results confirm that self-reported mindfulness predicts work engagement and general well-being. Furthermore, these relationships are mediated by positive job-related affect and psychological capital (hope, optimism, resiliency, and self-efficacy). Investigating mindfulness and psychological capital as multi-faceted concepts by means of structural equation modeling yielded a more precise picture. The ability to step back from automatic, habitual reactions to distress turned out to be the mindfulness facet most central for predicting work engagement and well-being. Furthermore, mindfulness exerts its positive effect on work engagement by increasing positive affect, hope, and optimism, which on their own and in combination enhance work engagement (full mediation). Well-being, on the other hand, is directly influenced by mindfulness, which exerts additional indirect influence via positive affect, hope, and optimism (partial mediation). Although exploratory in nature, the results identify non-reactivity and non-judging as important mindfulness skills in the workplace.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สติมีการอธิบายว่า รัฐตระหนักโดยกลั่น attentional ทักษะและทัศนคติไม่ใช่ evaluative ต่อเหตุการณ์ภายใน และภายนอก ล่าสุด มันได้ถูกแนะนำว่า ระดับสูงของสติอาจเป็นประโยชน์ในการทำงาน และได้รับการแนะนำโปรแกรมแรกที่มุ่งเพิ่มความระวังในการตั้งค่าอาชีพ การศึกษาปัจจุบัน underpins เหล่านี้พัฒนา ด้วยประจักษ์หลักฐานเกี่ยวกับกระบวนการทางจิตวิทยาเกี่ยวข้อง โดยตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการโอนการครอบครองสติ งานหมั้น และสุขภาพในผู้ใหญ่ 299 ทำงานเต็มเวลา ตามที่ตั้งสมมติฐานว่า ผลยืนยันที่ตนรายงานสติทำนายความผูกพันในงานและความเป็นอยู่ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์เหล่านี้มี mediated โดยผลบวกที่เกี่ยวข้องกับงานและทุนทางจิตใจ (ความหวัง มองในแง่ดี ความ และ ประสิทธิภาพตนเอง) ตรวจสอบสติและทุนทางจิตใจเป็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นให้ผลประกอบหลายแนวคิด โดยการสร้างโมเดลสมการโครงสร้าง ความสามารถในการก้าวจากปฏิกิริยาอัตโนมัติ เป็นทุกข์ให้ พได้สติสำหรับคาดการณ์งานหมั้นและความเป็นกลางที่สุด นอกจากนี้ สติ exerts ผลบวกของงานหมั้น โดยการเพิ่มผลบวก ความหวัง และมองในแง่ ดี ซึ่งตนเอง และร่วมงานหมั้น (กาชาดเต็ม) สุขภาพ ในทางกลับกัน ได้โดยตรงรับอิทธิพลจากสติ ที่ exerts อิทธิพลทางอ้อมเพิ่มเติมผ่านผลบวก ความหวัง และมองในแง่ดี (กาชาดบางส่วน) แม้เชิงบุกเบิกในธรรมชาติ ผลระบุไม่เกิดปฏิกิริยา และไม่ตัดสินเป็นทักษะสำคัญสติในทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สติได้รับการอธิบายเป็นรัฐของการรับรู้ที่โดดเด่นด้วยทักษะตั้งใจกลั่นและทัศนคติที่ไม่ประเมินต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอก เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการแนะนำว่าระดับที่สูงขึ้นของสติอาจจะเป็นประโยชน์ในการทำงานและโปรแกรมแรกที่มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการรับรู้สติในการตั้งค่าการประกอบอาชีพได้รับการแนะนำ การศึกษาในปัจจุบันรมย์การพัฒนาเหล่านี้มีหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับกระบวนการทางจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องโดยการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสติ dispositional ที่มีส่วนร่วมในการทำงานและความเป็นอยู่ใน 299 ผู้ใหญ่ในการจ้างงานเต็มเวลา ในฐานะที่เป็นสมมติฐานผลยืนยันว่าสติตนเองรายงานคาดการณ์การมีส่วนร่วมในการทำงานและทั่วไปเป็นอยู่ที่ดี นอกจากนี้ความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นผู้ไกล่เกลี่ยโดยบวกที่เกี่ยวข้องกับการส่งผลกระทบต่องานและทุนทางจิตวิทยา (ความหวังในแง่ดี, มีความยืดหยุ่นและการรับรู้ความสามารถตนเอง) ตรวจสอบสติและทุนทางจิตวิทยาเป็นแนวความคิดหลายเหลี่ยมเพชรพลอยโดยวิธีการของการสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้างผลภาพที่แม่นยำมากขึ้น ความสามารถในการย้อนกลับอัตโนมัติจากปฏิกิริยาเป็นนิสัยไปสู่​​ความทุกข์เปิดออกมาเป็นแง่สติมากที่สุดกลางในการทำนายการมีส่วนร่วมในการทำงานและความเป็นอยู่ นอกจากสติออกแรงผลในเชิงบวกที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการทำงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อโดยบวกความหวังและมองโลกในแง่ที่เกี่ยวกับของตัวเองและในการรวมกันเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการทำงาน (ไกล่เกลี่ยเต็ม) ความเป็นอยู่ในมืออื่น ๆ ที่ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากสติซึ่งมีอิทธิพลทางอ้อมเพิ่มเติมผ่านส่งผลกระทบในเชิงบวกหวังและมองในแง่ดี (ไกล่เกลี่ยบางส่วน) แม้ว่าการสำรวจในธรรมชาติผลการระบุที่ไม่เกิดปฏิกิริยาและไม่ใช่การตัดสินเป็นทักษะที่สำคัญสติในการทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สติที่ได้รับการอธิบายเป็นรัฐของการรับรู้ลักษณะการกลั่นความสนใจทักษะและไม่ประเมินทัศนคติภายในและงานภายนอก เมื่อเร็วๆ นี้ จะได้รับการชี้ให้เห็นว่าระดับที่สูงขึ้นของตนอาจเป็นประโยชน์ในการทำงาน และโปรแกรมแรกที่มุ่งเพิ่มสติรับรู้ในการตั้งค่าอาชีพได้รับการแนะนำการศึกษาปัจจุบันสนับสนุนการพัฒนาเหล่านี้มีหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมด้านกระบวนการ โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง dispositional สติ งานหมั้น และความเป็นอยู่ในผู้ใหญ่ในการจ้างงานเต็มเวลา . เป็นสมมติฐาน ผลการวิจัยยืนยันว่า self-reported สติคาดการณ์งานหมั้น และความเป็นอยู่ทั่วไป นอกจากนี้ความสัมพันธ์เหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับงาน โดยมีผลบวกทางจิตวิทยา ) และทุน ( หวังว่า การมองโลกในแง่ดี ความยืดหยุ่น และความสามารถของตนเอง ) ตรวจสอบสติและจิตเป็นทุนวันนี้แนวคิดโดยใช้แบบจำลองสมการโครงสร้าง จากภาพที่แม่นยำมากขึ้น ความสามารถในการยืนหลังอัตโนมัติปฏิกิริยาที่เคยชินกับความทุกข์กลายเป็นสติแง่กลางส่วนใหญ่ในงานหมั้นและความเป็นอยู่ นอกจากนี้ สติที่จะมีผลบวกในงานหมั้นโดยการเพิ่มผล บวก ความหวัง และการมองโลกในแง่ดี ซึ่งตนเองและการเพิ่มประสิทธิภาพงานหมั้นแบบเต็ม ( ไกล่เกลี่ย ) เป็นอย่างดี , บนมืออื่น ๆได้รับอิทธิพลโดยตรงจากสติ ซึ่งมีอิทธิพลทางอ้อมเพิ่มเติมผ่านทางบวกต่อความหวังและการมองโลกในแง่ดี ( ไกล่เกลี่ยบางส่วน ) แม้ว่าเครื่องมือในธรรมชาติ การระบุการไม่และไม่ตัดสินที่สำคัญฝึกทักษะในการทำงาน