Her Majesty the Queen has made it h

Her Majesty the Queen has made it her duty to be at the King’s side on every possible occasion. These functions include royal audiences, receptions held on the occasion of the state visits by heads of states, royal and state functions, Buddhist and traditional ceremonies, commencement ceremonies of various universities, etc. Their Majesties frequently travel on extended journeys to visit their subjects in all corners of the realm, especially the most remote and neglected. They have always felt particular concern for those in dire need of help and support, whether material or moral.

In the course of her visits to wounded soldiers or policemen, Her Majesty gives them presents and inquires after their condition. In some of the more serious cases of injury, such as when the patient has been blinded, Her Majesty will show great concern to the extent of giving personal attention to the patients, and asking for minute details of their medical history and treatment. Her special care and concern on these occasions have been greatly appreciated and have infinitely boosted the morale of the military and police forces.

As the number of wounded soldiers, policemen and civilian volunteers increased, Her Majesty founded the “Sai Jai Thai Foundation” on April 2, 1975. The aim of the foundation is to help those soldiers, policemen, and civilian volunteers, who became wounded or disabled, to be able to live a more or less comfortable life. The foundation also looks after the families of the deceased to some extent. Her Majesty graciously entrusts this foundation to H.R.H. Princess Maha Chakri Sirindhorn, her second daughter, who is now chairman of the foundation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมเด็จพระราชินีได้ทำหน้าที่ของเธอจะอยู่เคียงข้างกษัตริย์ในทุกโอกาสที่เป็นไปได้ ฟังก์ชันเหล่านี้รวมถึงผู้ชมที่รอยัล ต้อนรับจัดขึ้นเนื่องในโอกาสเยี่ยมชมรัฐ โดยหัวของรัฐ รอยัล และฟังก์ชันสถานะ พุทธ และพิธีแบบดั้งเดิม พิธีเริ่มของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ฯลฯ สมเด็จบ่อย ๆ เดินทางขยายการเดินทางไปของวัตถุในทุกมุมของอาณาจักร รีโมทโดยเฉพาะมากที่สุด และถูกทอดทิ้ง พวกเขาได้รู้สึกกังวลโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ในต้องหายนะของความช่วยเหลือและสนับสนุน เสมอว่าวัสดุ หรือศีลธรรมในระหว่างที่เธอเข้าชมตำรวจหรือทหารได้รับบาดเจ็บ สมเด็จให้พวกเขานำเสนอ และสอบถามหลังจากสภาพของพวกเขา ในกรณีรุนแรงของการบาดเจ็บ เช่นเมื่อผู้ป่วยมีการตาบอด สมเด็จจะแสดงกังวลให้ขอบเขตของการให้ผู้ป่วยที่สำคัญ และขอรายละเอียดของประวัติทางการแพทย์และการรักษา เธอใส่ใจและกังวลในโอกาสเหล่านี้ได้รับการชื่นชมอย่างมาก และมีเพียบยกระดับขวัญกำลังใจของทหารและกองกำลังตำรวจเป็นจำนวนบาดเจ็บทหาร ตำรวจ และพลเรือนอาสาสมัครที่เพิ่มขึ้น สมเด็จก่อตั้ง "สายใจไทยมูลนิธิ" บน 2 เมษายน 1975 จุดมุ่งหมายของมูลนิธิคือ เพื่อช่วยเหล่าทหาร ตำรวจ และอาสา สมัครพลเรือน ที่กลายเป็นได้รับบาดเจ็บ หรือถูกปิดใช้งาน เพื่อให้สามารถมีชีวิตที่สะดวกสบายมากหรือน้อย มูลนิธิยังดูหลังจากที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตบ้าง สมเด็จพระบรมราช entrusts มูลนิธินี้ให้สมเด็จพระเทพรัตน สองลูกสาวของเธอ ซึ่งตอนนี้ประธานมูลนิธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีได้ทำหน้าที่ของมันให้เธอเป็นที่ด้านข้างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสที่เป็นไปได้ทุก ฟังก์ชั่นเหล่านี้รวมถึงผู้ชมพระราชลูกเต้าจัดขึ้นในโอกาสของการเข้าชมรัฐโดยหัวของรัฐ, ฟังก์ชั่นและพระราชรัฐที่นับถือศาสนาพุทธและพิธีแบบดั้งเดิมพิธีกรของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ฯลฯ เสด็จฯ เดินทางบ่อยในการเดินทางไปเยี่ยมชมการขยายเรื่องของพวกเขาใน ทุกมุมของดินแดนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ห่างไกลที่สุดและถูกทอดทิ้ง พวกเขามักจะรู้สึกกังวลโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องตกระกำลำบากของความช่วยเหลือและการสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือศีลธรรม.

ในหลักสูตรของการเข้าชมของเธอที่จะได้รับบาดเจ็บหรือทหารตำรวจที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมช่วยให้พวกเขานำเสนอและสอบถามหลังจากที่สภาพของพวกเขา ในบางกรณีที่รุนแรงมากขึ้นของการบาดเจ็บเช่นเมื่อผู้ป่วยได้รับการตาบอดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะแสดงความกังวลมากในขอบเขตของการให้ความสนใจส่วนบุคคลให้แก่ผู้ป่วยและขอรายละเอียดนาทีประวัติทางการแพทย์ของพวกเขาและการรักษา การดูแลเป็นพิเศษของเธอและความกังวลในโอกาสเหล่านี้ได้รับการชื่นชมอย่างมากและได้แรงหนุนอนันต์ขวัญและกำลังใจของทหารและตำรวจกองกำลัง.

ขณะที่จำนวนของทหารที่ได้รับบาดเจ็บตำรวจและอาสาสมัครพลเรือนเพิ่มขึ้นสมเด็จก่อตั้ง "มูลนิธิสายใจไทย" เมื่อวันที่ 2 ปี 1975 โดยมีจุดมุ่งหมายของมูลนิธิคือการช่วยให้ผู้ที่ทหารตำรวจและอาสาสมัครพลเรือนซึ่งกลายเป็นที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการเพื่อให้สามารถที่จะมีชีวิตที่มากหรือน้อยกว่าความสะดวกสบาย มูลนิธิยังดูหลังจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่มีขอบเขต สมเด็จพระกรุณาโปรดเกล้าฯมอบหมายมูลนิธินี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ลูกสาวคนที่สองของเธอซึ่งตอนนี้เป็นประธานของมูลนิธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำให้เธอต้องอยู่ที่กษัตริย์ข้างในโอกาสที่เป็นไปได้ทุก . ฟังก์ชั่นเหล่านี้รวมถึงผู้ชมรอยัล งานเลี้ยงจัดขึ้นในโอกาสของรัฐเข้าชมโดยผู้นำประเทศ พระราชกรณียกิจ และรัฐ , พุทธและพิธีแบบดั้งเดิม พัทธยา ของมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นต้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ มักเดินทางในการเดินทางไปขยายวิชาของพวกเขาในทุกมุมของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ห่างไกลและถูกทอดทิ้ง พวกเขารู้สึกกังวลโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ในต้องหายนะของการสนับสนุน ช่วยเหลือ และ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ หรือศีลธรรมในหลักสูตรของการเข้าชมของเธอได้รับบาดเจ็บเป็นทหารหรือตำรวจ ฝ่าบาทให้พวกเขาเสนอและสอบถามตามสภาพของตน ในบางกรณีร้ายแรงของการบาดเจ็บ เช่น เมื่อคนไข้มีอาการพร่ามัว พระมเหสีจะแสดงความกังวลมากในขอบเขตของการให้ความสนใจส่วนบุคคลให้กับผู้ป่วย และถามรายละเอียดนาทีของประวัติทางการแพทย์ของพวกเขาและการรักษา การดูแลพิเศษของเธอ และความกังวลในโอกาสเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากและมียิ่งเพิ่มกำลังใจของหน่วยทหารและตำรวจเป็นหมายเลขของทหารได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครพลเรือนมากขึ้น ทรงก่อตั้ง " มูลนิธิสายใจไทย ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. เป้าหมายของมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือทหาร ตำรวจและอาสาสมัครพลเรือนเหล่านั้น , กลายเป็นผู้บาดเจ็บ หรือพิการ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นหรือน้อยลง มูลนิธิยังดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่มีขอบเขต ฝ่าบาทมอบหมายมูลนิธิฯให้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร ลูกสาวคนที่สองของเธอ ซึ่งตอนนี้ ประธานมูลนิธิ