English Listening TeachingUnderwood

English Listening Teaching
Underwood (1989 : 180) addressed that to teach means to facilitate learning,
and the role of the teacher is to support and guide learners their.
According to Euck (2001 : 159) good listeners need different sub- skills
according to different kinds of texts they are listening to and the reasons for listening
to their.
Moreover, the teacher can help students become effective listeners by
making them aware of the different kinds of listening, the different purposes of
listening, and the qualities of good listeners. Wolvin and Coakley (1992 : 7) identify
four different kinds of listening as follows :
1. Comprehensive (Informational) Listening: Students listen for the
content of the message.
2. Critical (Evaluative) Listening: Students judge the message
3. Appreciative (Aesthetic) Listening: Students listen for enjoyment
4. Therapeutic (Empathetic) Listening: Students listen to support others
but not to judge them.
In the classroom, when designing listening lessons, methods or techniques
should be applied to make the lessons challenging, effective, and interesting to the
students. To do this use a variety of activities should be used. If a teacher always used
the same activities, students would become bored. It is important to vary activities to
stimulate the students’ interest and challenge them with something new. Since the
learners have more chances to listen to many situations, they also can predict what
speakers are going to say. Mendelsohn (1995 : 253) says that the reason why listening
skills are not widespread in terms of teaching is that, the English aural materials as a
foreign language are not appropriate for the learners. They do not develop the
learners’ listening skills in real world.
9
Ur.P (1984 : 47-166) suggests organizing the listening lessons as follows :
1. Listening and making no response
1.1 Following a written text
1.2 Listen to a familiar text
1.3 Listen aided by visuals
1.4 Informal teacher talk
1.5 Entertainment
2. Listening and making short responses
2.1 Obeying instructions
2.2 Ticking off items
2.3 True or False
2.4 Detecting mistakes
2.5 Aral cloze
2.6 Guessing definitions
2.7 Noting specific Information
2.8 Family tree
2.9 Graphs
3. Listening and making longer responses
3.1 Repatriation and dictation
3.2 Paraphrase
3.3 Translation
3.4 Answering question
3.5 Multiple choices
3.6 Prediction
3.7 Filling in the gaps
3.8 Summarizing
4. Listening as a basic for study discussion
4.1 Problem- solving
4.2 Jigsaw listening
4.3 Interpretative listening
4.4 Evaluative and stylistic analysis
10
Thus, tales are an appropriate method to teach listening skills. The learners
are interested in tales because tales are stories about human’ ways of life and sources
of entertainment for the children. The learners are able to learn vocabulary,
pronunciation and grammar though the tales. The listening activities are the part of
daily life .They can best be developed with tales.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสอนภาษาอังกฤษฟังอันเดอร์วูด (1989:180) ได้รับการแก้ไขที่สอนหมายถึงการอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้และบทบาทของครูคือการ สนับสนุน และแนะนำผู้เรียนของตนตาม Euck (2001:159) ผู้ฟังที่ดีต้องทักษะย่อยที่แตกต่างตามชนิดของข้อความที่กำลังฟังและเหตุผลฟังไปของพวกเขานอกจากนี้ ครูสามารถช่วยให้นักเรียนกลายเป็นผู้ฟังที่มีประสิทธิภาพโดยทำให้ทราบถึงชนิดของวัตถุประสงค์แตกต่างกันของการฟังการฟัง และคุณภาพของผู้ฟังที่ดี Wolvin และ Coakley (1992:7) ระบุ4 ประเภทของการฟังเป็นดังนี้:1. ครอบคลุม (ให้ข้อมูล) ฟัง: นักศึกษาฟังการเนื้อหาของข้อความ2. สำคัญ (Evaluative) ฟัง: นักเรียนตัดสินข้อความ3. ยุค (งาม) ฟัง: นักเรียนฟังเพื่อความเพลิดเพลิน4. รักษา (Empathetic) ฟัง: นักศึกษาฟังสนับสนุนอื่น ๆแต่ไม่ ให้วินิจฉัยในห้องเรียน การออกแบบบทเรียนฟัง วิธีการ หรือเทคนิคควรใช้เพื่อให้บทเรียนท้าทาย มีประสิทธิภาพ และน่าสนใจเพื่อการนักเรียน การใช้งานนี้ ควรใช้ความหลากหลายของกิจกรรม ถ้าครูใช้เสมอกิจกรรมเดียวกัน นักเรียนจะเบื่อ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกิจกรรมกระตุ้นความสนใจของนักเรียน และท้าทายพวกเขา ด้วยสิ่งใหม่ เนื่องจากการผู้เรียนมีโอกาสเพิ่มเติมเพื่อฟังหลายสถานการณ์ พวกเขายังสามารถคาดการณ์ลำโพงจะไปบอก Mendelsohn (1995:253) กล่าวว่า เหตุผลทำไมฟังทักษะมีไม่แพร่หลายในแง่ของการสอนคือ วัสดุฟังภาษาอังกฤษเป็นการไม่เหมาะสมสำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศได้ พวกเขาไม่ได้พัฒนาของนักเรียนทักษะการฟังในโลกจริง9your.P (1984:47 166) แสดงให้เห็นการจัดระเบียบการฟังบทเรียนดังนี้:1. ฟัง และทำให้มีการตอบสนอง1.1 เขียนข้อความต่อไปนี้1.2 ฟังข้อความคุ้นเคย1.3 ฟังด้วยภาพ1.4 เป็นครูพูด1.5 ความบันเทิง2. ฟัง และทำให้การตอบสนองที่สั้น2.1 การเชื่อฟังคำแนะนำ2.2 รายการที่ปิดผ้าหุ้มที่นอน2.3 จริงหรือเท็จ2.4 ตรวจจับข้อผิดพลาดอารัล cloze 2.52.6 การคาดเดาคำนิยาม2.7 สังเกตข้อมูล2.8 ต้นไม้ครอบครัว2.9 กราฟ3. ฟัง และทำให้การตอบสนองอีกต่อไป3.1 ส่งกลับและบอก3.2 ถ่ายทอด3.3 การแปล3.4 การตอบคำถาม3.5 ทางเลือกหลาย3.6 ทำนาย3.7 การกรอกข้อมูลในช่องว่าง3.8 สรุป4. การฟังเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาอภิปราย4.1 ปัญหาแก้4.2 ฟังจิ๊กซอว์4.3 และฟัง4.4 Evaluative และวิเคราะห์โวหาร10ดังนั้น นิทานเป็นวิธีการที่เหมาะสมเพื่อสอนทักษะการฟัง เรียนมีความสนใจในนิทาน เพราะนิทานเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ ' วิถีชีวิตและแหล่งที่มาความบันเทิงสำหรับเด็ก เรียนจะสามารถเรียนรู้คำศัพท์การออกเสียงและไวยากรณ์ว่านิทาน กิจกรรมการฟังที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน พวกเขาที่ดีที่สุดจะพัฒนากับนิทาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเรียนการสอนภาษาอังกฤษฟัง
อันเดอร์วู้ด (1989: 180) จ่าหน้าที่จะสอนวิธีการที่จะอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
และบทบาทของครูคือการสนับสนุนและคู่มือการเรียนของพวกเขา.
ตามที่ Euck (2001: 159) ฟังที่ดีจำเป็นต้องมีทักษะย่อยที่แตกต่างกัน
ตามที่แตกต่างกัน ชนิดของตำราที่พวกเขากำลังฟังและเหตุผลสำหรับการฟัง
ของพวกเขา.
นอกจากนี้ครูสามารถช่วยให้นักเรียนกลายเป็นผู้ฟังที่มีประสิทธิภาพโดย
ทำให้พวกเขาตระหนักถึงความแตกต่างกันของการฟังวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันของ
การฟังและคุณภาพของผู้ฟังที่ดี Wolvin และ Coakley (1992: 7) ระบุ
สี่ชนิดที่แตกต่างกันของการฟังดังต่อไปนี้:
1 ที่ครอบคลุม (ข้อมูล) การฟัง: นักศึกษาฟังสำหรับ
เนื้อหาของข้อความ.
2 ที่สำคัญ (ประเมิน) ฟัง: นักศึกษาตัดสินข้อความ
3 ชื่นชม (ความงาม) ฟัง: นักศึกษาฟังเพื่อความบันเทิง
4 การรักษา (Empathetic) ฟัง: นักศึกษาฟังเพื่อสนับสนุนคนอื่น ๆ
. แต่ไม่ได้ไปตัดสินพวกเขา
ในห้องเรียนเมื่อออกแบบฟังบทเรียนวิธีการหรือเทคนิค
ที่ควรจะนำมาใช้เพื่อให้บทเรียนที่ท้าทายความสามารถที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจให้กับ
นักเรียน การทำเช่นนี้ใช้ความหลากหลายของกิจกรรมที่ควรจะใช้ ถ้าครูใช้เสมอ
กิจกรรมเดียวกันนักเรียนจะกลายเป็นเบื่อ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแตกต่างกันไปกิจกรรมเพื่อ
กระตุ้นความสนใจของนักเรียนและท้าทายพวกเขากับสิ่งใหม่ ตั้งแต่
ผู้เรียนมีโอกาสมากขึ้นที่จะฟังหลาย ๆ สถานการณ์ที่พวกเขายังสามารถทำนายสิ่งที่
ลำโพงจะบอกว่า Mendelsohn (1995: 253) กล่าวว่าเหตุผลที่ว่าทำไมการฟัง
ทักษะไม่แพร่หลายในแง่ของการเรียนการสอนคือว่าวัสดุที่เกี่ยวกับหูภาษาอังกฤษเป็น
ภาษาต่างประเทศที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน พวกเขาไม่ได้พัฒนา
ทักษะการฟังการเรียนรู้ในโลกจริง.
9
Ur.P (1984: 47-166) แสดงให้เห็นการจัดบทเรียนฟังดังต่อไปนี้:
1 การฟังและการทำให้ไม่มีการตอบสนอง
1.1 ตามข้อความที่เขียน
1.2 ฟังข้อความที่คุ้นเคย
1.3 ฟังความช่วยเหลือจากภาพที่
1.4 ครูทางการพูดคุย
1.5 ความบันเทิง
2 การฟังและการทำคำตอบสั้น
2.1 ปฏิบัติตามคำแนะนำ
2.2 ฟ้องออกรายการ
2.3 จริงหรือเท็จ
2.4 การตรวจสอบความผิดพลาด
2.5 Cloze อารัล
2.6 คาดเดาคำจำกัดความ
2.7 สังเกตข้อมูลเฉพาะ
2.8 Family Tree
2.9 กราฟ
3 การฟังและการทำคำตอบอีกต่อไป
3.1 การส่งกลับและคำสั่ง
3.2 ​​แปลความหมาย
3.3 แปล
3.4 ตอบคำถาม
3.5 ทางเลือกหลาย
3.6 ทำนาย
3.7 บรรจุในช่องว่าง
3.8 สรุป
4 ฟังเป็นพื้นฐานสำหรับการอภิปรายการศึกษา
การแก้ญหา 4.1
4.2 จิ๊กซอว์ฟัง
4.3 ตีความฟัง
4.4 ประเมินผลและการวิเคราะห์โวหาร
10
ดังนั้นนิทานเป็นวิธีการที่เหมาะสมในการสอนทักษะการฟัง ผู้เรียน
มีความสนใจในเรื่องเล่านิทานเพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ 'วิถีชีวิตและแหล่งที่มา
ของความบันเทิงสำหรับเด็ก ผู้เรียนสามารถเรียนรู้คำศัพท์
การออกเสียงและไวยากรณ์แม้ว่านิทาน กิจกรรมการฟังเป็นส่วนหนึ่งของ
ชีวิตประจำวัน .They ได้ดีที่สุดจะได้รับการพัฒนาด้วยเรื่องราว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟังเพลง สอนภาษาอังกฤษอันเดอร์วู้ด ( 2532 : 180 ) กล่าวว่า การสอนวิธีการเพื่อความสะดวกในการเรียนรู้และบทบาทของครู คือ การสนับสนุนและแนะนำผู้เรียนของตนตาม euck ( 2544 : 159 ) ผู้ฟังต้องการทักษะต่าง ๆ ย่อยตามชนิดของข้อความที่พวกเขาจะฟังเหตุผลและสำหรับการฟังไปของพวกเขานอกจากนี้ ครูสามารถช่วยให้นักเรียนเป็นผู้ฟังที่มีประสิทธิภาพโดยทำให้พวกเขาตระหนักถึงชนิดของการฟังที่แตกต่างกันวัตถุประสงค์ของฟัง และ คุณภาพ ดี ฟัง และ wolvin โคกลีย์ ( 2535 : 7 ) ระบุสี่ชนิดที่แตกต่างกันของการฟังดังนี้1 . ครบวงจร ( ข้อมูล ) ฟังเพลง : นักเรียนฟังสำหรับเนื้อหาของข้อความ2 . วิจารณ์ ( 1 ) ฟังเพลง : นักเรียนตัดสินข้อความ3 . ชื่นชม ( ความงาม ) ฟังเพลง : นักเรียนฟังเพื่อความเพลิดเพลิน4 . การรักษา ( หดหู่ ) ฟังเพลง : นักเรียนฟังสนับสนุนผู้อื่นแต่ไม่ต้องตัดสินพวกเขาในชั้นเรียน เมื่อออกแบบฟังบทเรียน วิธีการ หรือเทคนิคควรจะใช้เพื่อให้บทเรียนที่ท้าทาย และน่าสนใจที่จะมีประสิทธิภาพนักเรียน ทำใช้ความหลากหลายของกิจกรรมที่ควรใช้ ถ้าเป็นครูเสมอใช้กิจกรรมเดียวกัน นักเรียนจะกลายเป็นเบื่อ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแตกต่างกันไปกิจกรรมกระตุ้นความสนใจของนักเรียนและความท้าทายกับอะไรใหม่ๆ ตั้งแต่ผู้เรียนได้มีโอกาสฟังหลาย ๆสถานการณ์ พวกเขายังสามารถคาดเดาได้ว่าผู้พูดจะพูดอะไร เมนเดล น ( 2538 : 253 ) กล่าวว่า เหตุผลที่ฟังทักษะยังไม่แพร่หลายในแง่ของการสอนคือ ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับหูวัสดุเป็นภาษาต่างประเทศ ไม่เหมาะสําหรับผู้เรียน พวกเขาไม่ได้พัฒนาผู้เรียนมีทักษะการฟัง ในโลกจริง9ur . P ( 2527 : 47-166 ) แนะนำการจัดฟังบทเรียนดังนี้1 . การฟังและการไม่มีการตอบสนอง1.1 เขียนข้อความต่อไปนี้1.2 ฟังข้อความที่คุ้นเคย1.3 ฟังช่วยอธิบาย1.4 ครูพูดอย่างไม่เป็นทางการ1.5 เพื่อความบันเทิง2 . การฟังและการตอบสนองที่สั้น ๆ2.1 การเชื่อฟังคำสั่ง2.2 ฟ้องออกรายการ2.3 True หรือ False2.4 การตรวจหาความผิดพลาด2.5 ศึกษาแบบ2.6 เดาความหมาย2.7 noting ข้อมูลเฉพาะ2.8 ครอบครัวต้นไม้2.9 กราฟ3 . การฟังและการตอบสนองอีกต่อไป3.1 การส่งกลับ และเขียนตามคำบอก3.2 การถอดความ3.3 แปล3.4 ตอบคำถามหลายตัวเลือก 3.53.6 ทำนาย3.7 กรอกในช่องว่าง3.8 การสรุป4 . การฟังเป็นพื้นฐานสำหรับการอภิปราย การศึกษา4.1 ปัญหา4.2 ฟังเพลง จิ๊กซอว์4.3 การตีความ ฟัง4.4 ประเมินผลการวิเคราะห์และ โวหาร10ดังนั้น นิทานเป็นวิธีที่เหมาะสมที่จะสอนทักษะการฟัง ผู้เรียนสนใจในเรื่องเล่าเพราะเรื่องเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีของมนุษย์ " ของชีวิต และ แหล่งที่มาของความบันเทิงสำหรับเด็ก ผู้เรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์ไวยากรณ์และการออกเสียงแม้ว่านิทาน ฟังเพลงกิจกรรมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจําวัน พวกเขาสามารถพัฒนาด้วยนิทาน