Brakes are an energy converting mec

Brakes are an energy converting mechanism that
converts vehicle movement into heat while stopping the
rotation of the wheels. All braking systems are designed
to reduce the speed and stop a moving vehicle as
desired by the driver within a minimum distance in an
emergency. This is done by causing friction at the
wheels. There are two basic types of friction that
explain how brake systems work: kinetic, or moving,
and static, or stationary. The amount of friction
produced is proportional to the pressure applied
between the two objects, the type of materials in contact
& the smoothness of their rubbing surfaces. Friction
converts the kinetic energy into heat. The greater the
pressure applied to the objects, the more friction & heat
produced, & the sooner the vehicle is brought to a
stop[4]. The following figure is representing the types of
friction acting on the vehicle during motion. Kinetic
friction acts in the brakes and static friction between the
tire and road to slow the vehicle.
When brakes are applied, the vehicle’s weight is
transferred to the front wheels and is unloaded on the
rear wheels[4]
.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เบรคเป็นพลังงานตัวแปลงกลไกที่แปลงความเคลื่อนไหวของยานพาหนะเป็นความร้อนในขณะที่หยุดการการหมุนของล้อ ออกแบบระบบเบรกทั้งหมดการลดความเร็ว และหยุดรถย้ายเป็นต้องการโปรแกรมควบคุมในระยะขั้นต่ำในการฉุกเฉิน ซึ่งทำได้ โดยการทำให้แรงเสียดทานในการล้อ มีสองประเภทพื้นฐานของแรงเสียดทานที่อธิบายวิธีเบรกระบบการทำงาน: เดิม ๆ หรือ ย้ายและคง หรือเครื่องเขียน จำนวนของแรงเสียดทานผลิตเป็นสัดส่วนกับแรงดันที่ใช้ระหว่างวัตถุสอง ชนิดของวัสดุในการติดต่อและราบรื่นของการถูผิว แรงเสียดทานแปลงพลังงานจลน์เป็นความร้อน ยิ่งความดันที่ใช้กับวัตถุ ร้อนและแรงเสียดทานมากขึ้นผลิต และรักนำรถไปหยุด [4] รูปต่อไปนี้จะแสดงชนิดของแรงเสียดทานในการทำหน้าที่บนยานพาหนะขณะเคลื่อนไหว เดิม ๆแรงเสียดทานที่ทำหน้าที่ในการเบรคและแรงเสียดทานคงที่ระหว่างการยางรถยนต์และถนนจะชะลอรถเมื่อมีใช้เบรค น้ำหนักของยานพาหนะคือโอนย้ายไปยังล้อคู่หน้า และไม่โหลดในการล้อหลัง [4].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เบรคมีกลไกการแปลงพลังงานที่
แปลงการเคลื่อนไหวของยานพาหนะเป็นความร้อนในขณะที่การหยุด
การหมุนของล้อ ทุกระบบเบรกได้รับการออกแบบ
เพื่อลดความเร็วและหยุดรถย้ายเป็น
ที่ต้องการโดยคนขับรถในระยะที่ต่ำสุดใน
กรณีฉุกเฉิน นี้จะกระทำโดยก่อให้เกิดแรงเสียดทานที่
ล้อ มีสองประเภทพื้นฐานของแรงเสียดทานที่
อธิบายวิธีการที่ระบบเบรกทำงาน: การเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่
และแบบคงที่หรือเคลื่อนที่ ปริมาณของแรงเสียดทาน
ที่ผลิตเป็นสัดส่วนกับความดันที่ใช้
ระหว่างวัตถุทั้งสองประเภทของวัสดุในการติดต่อ
และความเรียบเนียนของพื้นผิวถูของพวกเขา แรงเสียดทาน
แปลงพลังงานจลน์เป็นความร้อน มากขึ้น
ความดันนำไปใช้กับวัตถุที่มีแรงเสียดทานมากขึ้นและความร้อน
ที่ผลิตและเร็วกว่ารถจะมาถึง
หยุด [4] รูปต่อไปนี้เป็นตัวแทนของประเภท
แรงเสียดทานที่กระทำต่อรถในระหว่างการเคลื่อนไหว เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว
แรงเสียดทานในการทำหน้าที่เบรกและแรงเสียดทานคงที่ระหว่าง
ยางและถนนที่จะชะลอรถ.
เมื่อมีการใช้เบรคน้ำหนักของรถจะถูก
โอนไปยังล้อหน้าและถูกยกเลิกการโหลดบน
ล้อหลัง
[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เบรคเป็นกลไกในการแปลงพลังงานที่แปลงการเคลื่อนไหวรถร้อน

ในขณะที่หยุดการหมุนของล้อ ทั้งหมดระบบเบรกออกแบบ
ลดความเร็วและหยุดรถที่วิ่งตาม
ที่ต้องการ โดยคนขับภายในระยะห่างต่ำสุดใน
ฉุกเฉิน นี้จะกระทำโดยก่อให้เกิดแรงเสียดทานที่
ล้อรถ มีอยู่สองประเภทพื้นฐานของแรงเสียดทานที่
อธิบายระบบเบรกทำงานอย่างไร :การเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่
และแบบคงที่หรือหยุดนิ่ง ปริมาณของแรงเสียดทาน
ผลิตเป็นสัดส่วนกับความดันที่ใช้
ระหว่างวัตถุสอง ชนิดของวัสดุในการติดต่อ
&ความเรียบของพวกเขาถูพื้นผิว แรงเสียดทาน
แปลงพลังงานจลน์ในความร้อน มากขึ้น
แรงดันที่ใช้กับวัตถุมากกว่าแรงเสียดทาน&ความร้อน
ผลิต &เร็วรถจะพาไป
หยุด [ 4 ] รูปต่อไปนี้แสดงประเภทของแรงเสียดทานกระทำ
ยานพาหนะในระหว่างการเคลื่อนไหว แรงเสียดทานจลน์
ทำเบรคและแรงเสียดทานสถิตระหว่างยางและถนนช้า

เมื่อเบรกรถ จะใช้ น้ำหนักของรถคือ
โอนไปยังล้อหน้าและล้อหลังถอดบน
[ 4 ]