มกราคม พ.ศ. 2551 สภากลาโหมของไทยมีมติประท้วงกัมพูชาในกรณีเสนอขึ้นทะเบี การแปล - มกราคม พ.ศ. 2551 สภากลาโหมของไทยมีมติประท้วงกัมพูชาในกรณีเสนอขึ้นทะเบี ไทย วิธีการพูด

มกราคม พ.ศ. 2551 สภากลาโหมของไทยมีม

มกราคม พ.ศ. 2551 สภากลาโหมของไทยมีมติประท้วงกัมพูชาในกรณีเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ลำพังและกล่าวหาว่ากัมพูชาสร้างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเท็จ ทั้งนี้ฝ่ายกองทัพได้แสดงท่าทีวิตกว่าอาจเกิดความรุนแรงในบริเวณชายแดนได้[7]

พฤษภาคม พ.ศ. 2551 พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2547ครอบคลุมอำเภอ กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ[8] แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะเคยเป็นพื้นที่ประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกพ.ศ. 2547 ช่วงเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549ต่อมาได้ยกเลิกไปในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2551[9]

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 นพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทย ได้หารือร่วมกับนายสก อาน ที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชาตกลงที่จะเปลี่ยนแผนที่ที่แนบในเอกสารคำขอยื่นขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยจดทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทประวิหารเท่านั้น ซึ่งตัวปราสาทนี้ศาลโลกได้พิพากษาตั้งแต่ พ.ศ. 2505 แล้วว่าเป็นของกัมพูชา[6]

ทางกัมพูชาส่งแผนที่ที่ได้รับการปรับแก้ไขใหม่มาให้ฝั่งไทย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน กรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบว่าแผนที่ใหม่ที่ส่งมานั้นไม่มีการล้ำเข้ามาในเขตไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติจึงได้พิจารณาเห็นชอบ และคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงการร่วม[6] ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นายนพดล ปัทมะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้ลงนามคำแถลงการร่วมกับฝ่ายกัมพูชาและยูเนสโก[6]

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนขบวนไปชุมนุมหน้ากระทรวงการต่างประเทศเพื่อขับไล่นายนพดล ปัทมะ ให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเพื่อยื่นหนังสือทวงถามกรณีข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร เนื่องจากไม่ยอมเปิดเผยแผนที่ให้ประชาชนได้รับรู้ หลังจากตกลงร่วมกับประเทศกัมพูชาไปก่อนหน้านี้[10][11][12]

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นายสุวัตร อภัยภักดิ์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และ คณะ รวม 9 คน เป็นตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติการดำเนินการตามมติ ครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากพบว่า แผนผังที่ร่างโดยกัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยไม่น้อยกว่า 4.6 ตารางกิโลเมตร ตามแผนที่ฝ่ายไทยที่ยึดถือตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2505 หลังคำตัดสินของศาลโลก และทั้งยังจะสละสิทธิในข้อสงวนที่ไทยจะทวงปราสาทเขาพระวิหาร กลับคืนมาในอนาคต และการดำเนินการ ของผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมาย

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551 หม่อมหลวงวัลย์วิภา จรูญโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมนักวิชาการ เดินทางมาพบ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อรับมอบรายชื่อผู้คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งในส่วนของพันธมิตรฯ ได้มีการมอบรายชื่อให้กับทางสถาบันไทยคดีศึกษาไปแล้ว 6,000 รายชื่อ และวันที่ 27 มิถุนายน มอบให้อีก 3,488 รายชื่อ ซึ่งล่าสุดตัวเลขของผู้ที่คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารมีทั้งหมด 33,400 รายชื่อ ภายหลังจากที่มีการรับมอบรายชื่อจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรแล้ว ม.ล.วัลวิภา ยังได้ไปยื่นหนังสือคัดค้านเรื่องนี้ ต่อนายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย[13]

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติการดำเนินการตามมติครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ศาลได้ไต่สวนฉุกเฉินคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน และใช้เวลาไต่สวนกว่าสิบชั่วโมง จนมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อเวลา 02.00 น. ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งดังนี้[14][15]

ให้เพิกถอนการกระทำของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เสนอร่างคำแถลงการณ์ร่วม ฯ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ
เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มิถุนายน 2551 ที่มีมติเห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วม ฯ โดยมอบหมายให้นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามในแถลงการณ์ร่วม ฯ
ให้เพิกถอนการลงนามในคำแถลงการณ์ร่วม ฯ ของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ลงนามเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551
มีคำสั่งให้นายนพดล ปัทมะ ยุติความผูกพันตามคำแถลงการณ์ร่วม ฯ ต่อประเทศกัมพูชาและองค์การยูเนสโก

ขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความข้อตกลงกับกัมพูชาว่าเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาหรือไม่ ต่อมาวันที่ 8 กรกฎาคม ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นหนังสือสัญญาซึ่งจะต้องผ่านการเห็นชอบของรัฐสภาก่อน[16]

เวลา 2.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 (ตามเวลาประเทศไทย) ที่นครควิเบก ประเทศแคนาดา องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนตามคำขอของกัมพูชาให้ตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก พร้อมกับสถานที่อื่นอีก 4 แห่ง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
มกราคมพ.ศ. 2551 สภากลาโหมของไทยมีมติประท้วงกัมพูชาในกรณีเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ลำพังและกล่าวหาว่ากัมพูชาสร้างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเท็จทั้งนี้ฝ่ายกองทัพได้แสดงท่าทีวิตกว่าอาจเกิดความรุนแรงในบริเวณชายแดนได้ [7]พฤษภาคมพ.ศ. 2551 พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์หนีพาลแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกพ.ศ. 2547ครอบคลุมอำเภอ กันทรลักษ์จังหวัดศรีสะเกษ [8] แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะเคยเป็นพื้นที่ประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกพ.ศ 2547 ช่วงเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทยพ.ศ. 2549ต่อมาได้ยกเลิกไปในวันที่ 17 เมษายนพ.ศ. 2551 [9]ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมพ.ศ. 2551 นพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทยได้หารือร่วมกับนายสกอานที่เกาะกงประเทศกัมพูชาโดยฝ่ายกัมพูชาตกลงที่จะเปลี่ยนแผนที่ที่แนบในเอกสารคำขอยื่นขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยจดทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทประวิหารเท่านั้นซึ่งตัวปราสาทนี้ศาลโลกได้พิพากษาตั้งแต่พ.ศ. 2505 แล้วว่าเป็นของกัมพูชา [6]ทางกัมพูชาส่งแผนที่ที่ได้รับการปรับแก้ไขใหม่มาให้ฝั่งไทยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนกรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบว่าแผนที่ใหม่ที่ส่งมานั้นไม่มีการล้ำเข้ามาในเขตไทยสภาความมั่นคงแห่งชาติจึงได้พิจารณาเห็นชอบและคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงการร่วม [6] ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนพ.ศ. 2551 นายนพดลปัทมะในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้ลงนามคำแถลงการร่วมกับฝ่ายกัมพูชาและยูเนสโก [6]วันที่ 18 มิถุนายนพ.ศ. 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนไปชุมนุมหน้ากระทรวงการต่างประเทศเพื่อขับไล่นายนพดลปัทมะให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและเพื่อยื่นหนังสือทวงถามกรณีข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหารเนื่องจากไม่ยอมเปิดเผยแผนที่ให้ประชาชนได้รับรู้หลังจากตกลงร่วมกับประเทศกัมพูชาไปก่อนหน้านี้ [10] [11] [12]วันที่ 24 มิถุนายนพ.ศ. 2551 นายสุวัตรอภัยภักดิ์นายสุริยะใสกตะศิลาผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และคณะรวม 9 คนเป็นตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติการดำเนินการตามมติครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุดเนื่องจากพบว่าแผนผังที่ร่างโดยกัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยไม่น้อยกว่า 4.6 ตารางกิโลเมตรตามแผนที่ฝ่ายไทยที่ยึดถือตามมติคณะรัฐมนตรีพ.ศ. 2505 หลังคำตัดสินของศาลโลกและทั้งยังจะสละสิทธิในข้อสงวนที่ไทยจะทวงปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมาในอนาคตและการดำเนินการของผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายวันที่ 27 มิถุนายนพ.ศ. 2551 หม่อมหลวงวัลย์วิภาจรูญโรจน์ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมนักวิชาการเดินทางมาพบพล.ต.จำลองศรีเมืองแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อรับมอบรายชื่อผู้คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกซึ่งในส่วนของพันธมิตรฯ ได้มีการมอบรายชื่อให้กับทางสถาบันไทยคดีศึกษาไปแล้ว 6,000 รายชื่อและวันที่ 27 มิถุนายนมอบให้อีก 3,488 รายชื่อซึ่งล่าสุดตัวเลขของผู้ที่คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารมีทั้งหมด 33,400 รายชื่อภายหลังจากที่มีการรับมอบรายชื่อจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรแล้วม.ล.วัลวิภายังได้ไปยื่นหนังสือคัดค้านเรื่องนี้ต่อนายจุลยุทธหิรัณยะวสิตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย [13]วันที่ 28 มิถุนายนพ.ศ. 2551 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติการดำเนินการตามมติครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุดหรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นทั้งนี้ศาลได้ไต่สวนฉุกเฉินคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนและใช้เวลาไต่สวนกว่าสิบชั่วโมงจนมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อเวลา 02.00 น.ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งดังนี้ [14] [15] ให้เพิกถอนการกระทำของนายนพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เสนอร่างคำแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มิถุนายน 2551 ที่มีมติเห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วมฯ โดยมอบหมายให้นายนพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมฯ ให้เพิกถอนการลงนามในคำแถลงการณ์ร่วมฯ ของนายนพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ลงนามเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 มีคำสั่งให้นายนพดลปัทมะยุติความผูกพันตามคำแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อประเทศกัมพูชาและองค์การยูเนสโกขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความข้อตกลงกับกัมพูชาว่าเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาหรือไม่ต่อมาวันที่ 8 กรกฎาคมศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นหนังสือสัญญาซึ่งจะต้องผ่านการเห็นชอบของรัฐสภาก่อน [16]เวลา 2.00 น.วันที่ 8 กรกฎาคมพ.ศ. 2551 (ตามเวลาประเทศไทย) ที่นครควิเบกประเทศแคนาดาองค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนตามคำขอของกัมพูชาให้ตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกพร้อมกับสถานที่อื่นอีก 4 แห่ง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
มกราคม พ.ศ. 2551 สภากลาโหมของไทยมีมติประท้วงกัมพูชา ในกรณีเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ลำพังและกล่าวหาว่ากัมพูชาสร้างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเท็จทั้งนี้ฝ่ายกองทัพได้แสดงท่าทีวิตกว่าอาจเกิดความรุนแรงในบริเวณชายแดนได้ [7]

พฤษภาคม พ.ศ. 2551 พล. ท. วิบูลย์ศักดิ์หนีพาลแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2547 ครอบคลุมอำเภอกันทรลักษ์จังหวัดศรีสะเกษ [8] แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะเคยเป็นพื้นที่ ประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกพ . ศ 2547 ช่วงเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 ต่อมาได้ยกเลิกไปในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2551 [9]

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 นพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง ประเทศของไทยได้หารือร่วมกับนายสกอานที่เกาะกงประเทศกัมพูชาโดยฝ่ายกัมพูชาตกลงที่จะเปลี่ยนแผนที่ที่แนบในเอกสารคำขอยื่นขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยจดทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทประวิหารเท่านั้น ซึ่งตัวปราสาทนี้ศาลโลกได้พิพากษาตั้งแต่ พ.ศ. 2505 แล้วว่าเป็นของกัมพูชา [6]

ทางกัมพูชาส่งแผนที่ที่ได้รับการ ปรับแก้ไขใหม่มาให้ฝั่งไทยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนกรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบว่า แผนที่ใหม่ที่ส่งมานั้นไม่มีการล้ำเข้ามาในเขตไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติจึงได้พิจารณา เห็นชอบและคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงการร่วม [6] ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นายนพดลปัทมะในฐานะรัฐมนตรีว่า การกระทรวงต่างประเทศได้ลงนามคำแถลงการร่วมกับฝ่ายกัมพูชาและยูเนสโก [6]

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนไปชุมนุม หน้ากระทรวงการต่างประเทศเพื่อขับไล่นายนพดลปัทมะให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและเพื่อยื่นหนังสือทวงถามกรณีข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหารเนื่องจากไม่ยอมเปิดเผยแผนที่ให้ประชาชนได้รับรู้ หลังจากตกลงร่วมกับประเทศกัมพูชาไปก่อน หน้านี้ [10] [11] [12]

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นายสุวัตรอภัยภักดิ์นาย สุริยะใสกตะศิลาผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และคณะรวม 9 คนเป็นตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไป ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติการดำเนินการตามมติครม ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย - กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุดเนื่องจากพบว่าแผนผังที่ร่างโดยกัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยไม่น้อยกว่า 4.6 ตารางกิโลเมตรตามแผนที่ฝ่ายไทยที่ ยึดถือตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2505 คำตัดสินหลังของศาลโลกและทั้งยังจะสละสิทธิในห้างหุ้นส่วนจำกัดข้อสงวนที่ไทย English จะทวงปราสาทเขาที่คุณพระวิหารกลับคืนมาในห้างหุ้นส่วนจำกัดอนาคตและหัวเรื่อง: การดำเนินหัวเรื่อง: การของคุณผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมาย

การธนาคารวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551 หม่อมหลวงวัลย์วิภาจรูญโรจน์ผู้อำนวยการ สถาบันไทยคดีศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมนักวิชาการเดินทางมาพบพล . ต. จำลองศรีเมืองแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยเพื่อรับมอบรายชื่อผู้คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งในส่วนของพันธมิตรฯ ได้มี การมอบรายชื่อให้กับทางสถาบันไทยคดีศึกษาไปแล้ว 6,000 รายชื่อและวันที่ 27 มิถุนายนมอบให้อีก 3,488 รายชื่อซึ่งล่าสุดตัวเลขของผู้ที่ คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารมีทั้งหมด 33,400 รายชื่อภายหลังจากที่มีการรับ มอบรายชื่อจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรแล้วม . ล. วัลวิภายังได้ไปยื่นหนังสือ คัดค้านเรื่องนี้ต่อนายจุลยุทธหิรั ณ ยะวสิตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย [13]

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติการดำเนินการตามมติครมที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย -. กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุดหรือจนกว่าศาล จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นทั้งนี้ ศาลได้ไต่สวนฉุกเฉินคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนและใช้เวลาไต่สวนกว่าสิบชั่วโมง จนมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อเวลา 02.00 น ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งดังนี้ [14] [15]

ให้เพิกถอนหัวเรื่อง: การกระทำของที่คุณนายนพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าได้หัวเรื่อง: การกระทรวงการต่างประเทศที่เสนอร่างคำแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ
เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีการธนาคารวันที่ 17 มิถุนายน 2551 ที่มีมติเห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วมฯ โดยมอบหมายให้ที่คุณนายนพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าได้หัวเรื่อง: การกระทรวงการต่างประเทศเป็นคุณผู้ลงนามในห้างหุ้นส่วนจำกัดแถลงการณ์ร่วมฯ
ให้เพิกถอนหัวเรื่อง: การลงนามในห้างหุ้นส่วนจำกัดคำแถลงการณ์ร่วมฯ ของที่คุณนายนพดลปัทมะรัฐมนตรีว่าได้หัวเรื่อง: การกระทรวงการต่างประเทศที่ลง นามเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551
มีคำสั่งให้ที่คุณนายนพดลปัทมะยุติความสามารถผูกพันตามคำแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อออกประเทศกัมพูชาและองค์การยูเนสโก

ขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความข้อตกลงกับกัมพูชา ว่าเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาหรือไม่ต่อ มาวันที่ 8 กรกฎาคมศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดว่าข้อตกลง ดังกล่าวเป็นหนังสือสัญญาซึ่งจะต้องผ่านการเห็นชอบของรัฐสภาก่อน [16]

2.00 นเวลา วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 (ตามเวลาประเทศไทย) ที่นครควิเบกประเทศแคนาดา องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนตามคำขอของกัมพูชาให้ตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกพร้อมกับสถานที่อื่นอีก 4 แห่ง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: