In brief, study tries to answer the

In brief, study tries to answer these three main questions:
Does "bank size" affect its efficiency?
Does "bank age" affect "banking efficiency"?
Does "ownership type" affect "banking efficiency"?
This paper addresses a main question about determinants of "banking efficiency" , as measured DEA technique using CCR method. Determinants of performance, to be examined, are variables related to "bank size", "bank age" and "ownership type".
The paper is arranged as follows: after this introduction, section 2 reviews research literature that has concerned with "banking efficiency" and "banking characteristics" that include size, age and ownership type. Section 3 explains how to measure research variables and illustrates how to test the hypotheses.
Section 4 is for empirical work, presenting results, discussing how these results answer research questions using Wilcoxon Signed Rank Test and providing a robustness check using step-wise regression technique. Section 5 summarizes the paper and provides remarks about conclusions.
2.Literature Review
This section presents some of previous work, which has been conducted in the field of "banking efficiency" and "banking characteristics" that may affect banking efficiency.
Regarding "banking efficiency", Aly et al. (1990) uses CCR model to evaluate the technical, scale and allocative efficiencies of 322 USA banks in 1986. The number of full-time staff, fixed asset, capital and loanable fund are chosen as inputs; while real estate loan, commercial and industrial loan, consumer loan, miscellaneous loan, and current deposit are chosen as outputs.
While real estate lone, commercial and industrial loan, consumer loan, miscellaneous loan, and current deposit are chosen as outputs.
Andersen and Petersen (1993) propose ranking model that show how much the unit can "get worse" but still be efficient. Superefficient units are those with efficiency of over 100%, the most efficient is the one which is highest ranked, while the units with efficiency less than 100% are inefficient and therefore ranked lower.

Soteriou and Zenios (1997) have indicated that analyzing banks' efficiency should include branches, service quality, operations, and profitability, simultaneously. The authors develop a framework for combining strategic benchmarking with efficiency benchmarking of the services offered by bank branches. They use 3 DEA models: an operational efficiency model, a quality efficiency model and a profitability efficiency model. Empirical results indicate that superior insights can be obtained by analyzing operations, service quality, and profitability simultaneously than the information obtained from benchmarking studies of these 3 dimensions separately.
Berger and Humphrey (1997) documents 130 studies of financial institution efficiency, as applied on 21 countries, from multiple time periods, and from various types of institutions, including banks, credit unions, and insurance companies. Results suggest that progress has been made on efficiency measurement rather than that has been made in explaining the differences in performance (i.e., profitability or efficiency) across institutions. Athanassopoulos et al. (2000) examines 47 branches of the Commercial Bank of Greece and uses the DEA results to implement the proposed changes in the bank performance measurement system.

Sakar (2006) in Turkey analyzes 11 banks and monitors input: branch numbers, employees per branch, assets, loans, deposits, and outputs: ROA,ROE, interest income and non-interest income (assets). Hassan and Sanchez (2007) used DEA to estimate the efficiency of Latin American banks during the period from 1996 to 2003. Results indicate that most of the sources of inefficiencies are regulatory rather than technical. This means that bank managers do not choose the correct (optimal) input and output mix, because they are not forced to do so by the environmental conditions (either government regulations or market conditions).
Milind (2003) carried out the banks efficiency analysis in India on the basis of two models. Model A inputs are: interest expenses, non-interest, and outputs: net interest income, net non-interest income, and model B inputs are: deposits, employees, and outputs: net loans, non-interest income). Fries and Taci (2004) compares the performance of 289 banks in 15 post-communist countries, using an intermediate approach. The results show that foreign banks are more competitive and have better results in cost efficiency than domestic banks.
Efficiency of Canadian banks has been investigated by Avkiran (2006). and Wu et al. (2006) Avkiran (2006) applies DEA using a sample of 24 Canadian foreign bank subsidiaries in year 2000. The outputs include loans, securities and non-interest income. while inputs include deposits, non-interest expenses and equity multiplier.Wu et al. (2006) integrates the DEA and neural networks (NNs) to examine the relative branch's efficiency of a big Canadian bank. The authors observe 142 banks in Canada, and monitor the number of employees and costs for input Indicators, while for output they monitor deposits, income and bank loans.
Sakar (2006) in Turkey analyzes 11 banks and monitors input: branch number, employees per branch, assets, loans, deposits, and outputs: ROA, ROE, interest income and non-interest income (assets). Hassan and Sanchez (2007) used DEA to estimate the efficiency of Latin American banks during the period from 1996 to 2003. Results indicate that most of the sources of inefficiencies are regulatory rather than technical. This means that bank managers do not choose the correct (optimal) input and output mix, because they are not forced to do so by the environmental conditions (either government regulations or market conditions).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สังเขป ศึกษาพยายามตอบคำถามเหล่านี้หลักสาม:"ธนาคารขนาด" มีผลต่อประสิทธิภาพของ"ธนาคารอายุ" มีผลต่อ "ลูกค้าประสิทธิภาพ""ความเป็นเจ้าของชนิด" ผล "อย่างมีประสิทธิภาพของธนาคาร"เอกสารนี้เน้นคำถามหลักเกี่ยวกับดีเทอร์มิแนนต์ "ธนาคารมีประสิทธิภาพ" เป็นเทคนิค DEA วัดใช้วิธี CCR ดีเทอร์มิแนนต์ของประสิทธิภาพ การตรวจ มีตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ "ธนาคารขนาด" "ธนาคารอายุ" และ "ความเป็นเจ้าของชนิด"จัดกระดาษเป็นดังนี้: หลังจากที่แนะนำนี้ ส่วน 2 รีวิววรรณกรรมงานวิจัยที่มีการเกี่ยวข้องกับ "ธนาคารอย่างมีประสิทธิภาพ" และ "ธนาคารลักษณะ" ที่มีขนาด อายุและความเป็นเจ้าของ หมวดที่ 3 อธิบายวิธีการวัดตัวแปรในการวิจัย และแสดงวิธีการทดสอบสมมุติฐานการ4 ส่วนเป็นมาสำหรับการทำงานรวม แสดงผล สนทนาการวิธีผลตอบการวิจัยคำถามเหล่านี้ใช้ Wilcoxon เซ็นอันดับทดสอบ และให้เสถียรภาพการตรวจสอบโดยใช้เทคนิค step-wise ถดถอยที่มี 5 ส่วนกระดาษสรุป และให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับบทสรุป2.การทบทวนวรรณกรรมส่วนนี้นำเสนอบางส่วนของงานก่อนหน้านี้ ซึ่งใน "ธนาคารประสิทธิภาพ" และ "ธนาคารลักษณะ" ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบธนาคารเกี่ยวกับ "ธนาคารอย่างมีประสิทธิภาพ" แบบจำลอง CCR ใช้ Aly และ al. (1990) เพื่อประเมินทางเทคนิค ขนาด และประสิทธิภาพ allocative 322 ธนาคารสหรัฐอเมริกาในปี 1986 จำนวนพนักงานเต็มเวลา สินทรัพย์ถาวร ทุน และกองทุน loanable จะเลือกให้เป็นอินพุต ในขณะที่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อทางการค้า และอุตสาหกรรม สินเชื่อผู้บริโภค เบ็ดเตล็ดสินเชื่อ เงินฝากปัจจุบัน และจะเลือกเป็นแสดงผลขณะอสังหาริมโลน สินเชื่อทางการค้า และอุตสาหกรรม สินเชื่อผู้บริโภค เบ็ดเตล็ดสินเชื่อ เงินฝากปัจจุบัน และจะเลือกเป็นแสดงผลแอนเดอร์และ Petersen (1993) เสนอรูปแบบการจัดอันดับที่แสดงจำนวนหน่วยสามารถ "ทรุด" แต่ยังคง มีประสิทธิภาพ หน่วย superefficient มีประสิทธิภาพกว่า 100% ส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพซึ่งสูงที่สุดจากการจัดอันดับ ในขณะที่หน่วยมีประสิทธิภาพ น้อยกว่า 100% จะต่ำ และดังนั้นอันดับต่ำกว่าSoteriou และ Zenios (1997) ได้บ่งชี้ว่า การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของธนาคารควรรวมสาขา คุณภาพบริการ ดำเนินการ กำไร และพร้อมกัน ผู้เขียนพัฒนาเป็นกรอบสำหรับการรวมกลยุทธ์ในการแข่งขันกับการแข่งขันประสิทธิภาพของบริการ โดยธนาคาร ใช้แบบจำลอง DEA 3: แบบจำลองประสิทธิภาพการดำเนินงาน แบบประสิทธิภาพคุณภาพ และแบบประสิทธิภาพทำกำไร ประจักษ์ผลบ่งชี้ว่า สามารถรับข้อมูลเชิงลึกที่เหนือกว่า โดยการวิเคราะห์การดำเนินงาน คุณภาพ และผลกำไรกันมากกว่าข้อมูลที่ได้จากการแข่งขันการศึกษาที่ 3 แยกต่างหากเบอร์เกอร์และฟรีย์ (1997) เอกสาร 130 การศึกษาของสถาบันการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นใช้กับ 21 ประเทศ จากหลายรอบระยะเวลา และประเภทต่าง ๆ ของสถาบัน ธนาคาร สหภาพแรงงานสินเชื่อ และบริษัทประกัน ผลแนะนำว่า ความคืบหน้าได้ในการวัดประสิทธิภาพมากกว่าที่ได้ในการอธิบายความแตกต่างในประสิทธิภาพการทำงาน (เช่น ทำกำไรหรือประสิทธิภาพ) ข้ามสถาบัน Athanassopoulos et al. (2000) ตรวจสอบ 47 สาขาของธนาคารพาณิชย์ของกรีซ และใช้ DEA ผลการเปลี่ยนแปลงที่นำเสนอในระบบการวัดประสิทธิภาพการทำงานของธนาคาร11 ธนาคารวิเคราะห์ Sakar (2006) ในประเทศตุรกี และจอป้อน: สาขา พนักงานต่อสาขา สินทรัพย์ เงิน กู้ ฝาก และแสดงผล: ราว โร สนใจรายได้และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (สินทรัพย์) Hassan และซาน (2007) ใช้ DEA เพื่อประเมินประสิทธิภาพของริกาธนาคารในช่วงเวลาจากปี 1996 2003 ผลลัพธ์บ่งชี้ว่า แหล่งที่มาของ inefficiencies มีระเบียบ มากกว่าเทคนิค ซึ่งหมายความ ว่า ผู้จัดการธนาคารเลือกป้อนข้อมูล (สูงสุด) ที่ถูกต้องและผลผสม เนื่องจากพวกเขาถูกบังคับให้ทำ โดยสภาพแวดล้อม (ทั้งรัฐบาลระเบียบหรือตลาดเงื่อนไข)Milind (2003) ดำเนินวิเคราะห์ประสิทธิภาพธนาคารในอินเดียตามรุ่นสอง แบบจำลองปัจจัยการผลิตมี: ดอกเบี้ยค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ย และผล: รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิ และปัจจัยการผลิตรุ่น B: ฝาก พนักงาน และผล: รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เงินกู้ยืมสุทธิ) ฟรายส์และ Taci (2004) เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของธนาคารในประเทศคอมมิวนิสต์หลัง 15, 289 โดยใช้วิธีการระดับกลาง ผลลัพธ์แสดงว่า ธนาคารต่างประเทศจะแข่งขัน และมีผลดีในต้นทุนประสิทธิผลกว่าธนาคารภายในประเทศประสิทธิภาพของธนาคารแคนาดาได้ถูกตรวจสอบ โดย Avkiran (2006) และวู al. et Avkiran (2006) (2006) ใช้ DEA ที่ใช้ตัวอย่างของสาขาธนาคารต่างประเทศแคนาดา 24 ในปี 2000 Outputs รวมสินเชื่อ หลักทรัพย์ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในขณะที่ปัจจัยการผลิตได้แก่เงินฝาก ดอกเบี้ยค่าใช้จ่าย และตัวคูณส่วน Wu et al. (2006) รวม DEA และเครือข่ายประสาท (NNs) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของสาขาญาติของชิตแคนาดา ผู้เขียนสังเกตธนาคาร 142 ในแคนาดา และตรวจสอบจำนวนพนักงานและค่าใช้จ่ายสำหรับตัวบ่งชี้สำหรับการป้อนค่า ในขณะที่สำหรับการแสดงผล จะตรวจสอบเงินฝาก เงินให้กู้ยืมเงินและการธนาคาร11 ธนาคารวิเคราะห์ Sakar (2006) ในประเทศตุรกี และจอป้อนข้อมูล: หมายเลขสาขา พนักงานต่อสาขา สินทรัพย์ เงิน กู้ ฝาก และการแสดงผล: ราว โร สนใจรายได้และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (สินทรัพย์) Hassan และซาน (2007) ใช้ DEA เพื่อประเมินประสิทธิภาพของริกาธนาคารในช่วงเวลาจากปี 1996 2003 ผลลัพธ์บ่งชี้ว่า แหล่งที่มาของ inefficiencies มีระเบียบ มากกว่าเทคนิค ซึ่งหมายความ ว่า ผู้จัดการธนาคารเลือกป้อนข้อมูล (สูงสุด) ที่ถูกต้องและผลผสม เนื่องจากพวกเขาถูกบังคับให้ทำ โดยสภาพแวดล้อม (ทั้งรัฐบาลระเบียบหรือตลาดเงื่อนไข)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงสั้น ๆ
การศึกษาพยายามที่จะตอบทั้งสามคำถามหลักหรือไม่"ขนาดธนาคาร"
ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการใช้หรือไม่"ยุคธนาคาร" ส่งผลกระทบต่อ "ประสิทธิภาพธนาคาร"
หรือไม่ "ประเภทเจ้าของ" ส่งผลกระทบต่อ "ประสิทธิภาพธนาคาร"
กระดาษนี้จะเป็นคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับ ปัจจัยของ "ธนาคารที่มีประสิทธิภาพ" เป็นวัดเทคนิค DEA ใช้วิธี CCR ปัจจัยที่มีผลของการปฏิบัติงานจะได้รับการตรวจสอบเป็นตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ "ขนาดธนาคาร", "อายุธนาคาร" และ "ประเภทเจ้าของ".
กระดาษจัดเป็นดังนี้: หลังจากการแนะนำนี้ส่วนที่ 2 วรรณกรรมการวิจัยความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับ "ประสิทธิภาพการธนาคาร "และ" ลักษณะการธนาคาร "ที่มีขนาดอายุและประเภทของความเป็นเจ้าของ ส่วนที่ 3 อธิบายถึงวิธีการในการวัดตัวแปรการวิจัยและแสดงให้เห็นถึงวิธีการทดสอบสมมติฐาน.
มาตรา 4 เป็นสำหรับการทำงานเชิงประจักษ์นำเสนอผลการอภิปรายว่าผลลัพธ์เหล่านี้ตอบคำถามการวิจัยโดยใช้ Wilcoxon ลงชื่ออันดับการทดสอบและให้การตรวจสอบความแข็งแรงโดยใช้เทคนิคการถดถอยขั้นตอนที่ชาญฉลาด หมวดที่ 5 สรุปกระดาษและให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อสรุป.
2.Literature
ทบทวนในส่วนนี้จะนำเสนอบางส่วนของงานก่อนหน้านี้ซึ่งได้รับการดำเนินการในด้านของ"ธนาคารที่มีประสิทธิภาพ" และ "ลักษณะการธนาคาร" ที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการธนาคาร.
เกี่ยวกับ "การธนาคารที่มีประสิทธิภาพ "อาลีอัลเอต (1990) ใช้รูปแบบ CCR ในการประเมินทางเทคนิคขนาดและประสิทธิภาพในการจัดสรรงบประมาณให้แก่ธนาคารของ 322 ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1986 จำนวนพนักงานเต็มเวลา, สินทรัพย์ถาวรเงินทุนและกองทุน loanable ได้รับการแต่งตั้งเป็นปัจจัยการผลิต; ในขณะที่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์, เงินกู้เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรมสินเชื่ออุปโภคบริโภคสินเชื่ออื่น ๆ และเงินฝากในปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งเป็นเอาท์พุท.
ในขณะที่อสังหาริมทรัพย์เดียวสินเชื่อเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม, สินเชื่ออุปโภคบริโภคสินเชื่ออื่น ๆ และเงินฝากในปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งเป็นผล.
เซนและ ปีเตอร์เสน (1993) นำเสนอรูปแบบการจัดอันดับที่แสดงว่าหน่วยงานที่สามารถ "แย่ลง" แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ หน่วย Superefficient เป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพกว่า 100% มีประสิทธิภาพมากที่สุดเป็นหนึ่งซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในขณะที่หน่วยงานที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า 100% จะไม่มีประสิทธิภาพและทำให้การจัดอันดับที่ต่ำกว่า. Soteriou และ Zenios (1997) ได้ชี้ให้เห็นว่าการวิเคราะห์ของธนาคาร ที่มีประสิทธิภาพควรจะรวมถึงสาขาบริการที่มีคุณภาพการดำเนินงานและการทำกำไรไปพร้อม ๆ กัน ผู้เขียนพัฒนากรอบการทำงานสำหรับการรวมการเปรียบเทียบเชิงกลยุทธ์กับการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของบริการที่เสนอโดยสาขาธนาคาร พวกเขาใช้ 3 รุ่น DEA: รูปแบบประสิทธิภาพการดำเนินงานรูปแบบที่มีประสิทธิภาพคุณภาพและรูปแบบที่มีประสิทธิภาพในการทำกำไร ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าข้อมูลเชิงลึกที่เหนือกว่าสามารถรับได้โดยการวิเคราะห์การดำเนินงานที่มีคุณภาพการให้บริการและการทำกำไรไปพร้อม ๆ กันนอกเหนือจากข้อมูลที่ได้รับจากการเปรียบเทียบการศึกษาเหล่านี้ 3 มิติแยกต่างหาก. เบอร์เกอร์และฮัมฟรีย์ (1997) เอกสาร 130 การศึกษาประสิทธิภาพการใช้สถาบันการเงินที่ใช้ในวันที่ 21 ประเทศจากช่วงเวลาที่หลาย ๆ คนและจากประเภทต่างๆของสถาบันรวมทั้งธนาคาร, สหภาพเครดิตและ บริษัท ประกันภัย ผลการชี้ให้เห็นว่ามีความคืบหน้าได้รับการทำในการวัดประสิทธิภาพมากกว่าที่ได้รับการทำในการอธิบายความแตกต่างในการทำงาน (เช่นการทำกำไรหรือประสิทธิภาพ) ข้ามสถาบัน Athanassopoulos et al, (2000) ตรวจสอบ 47 สาขาของธนาคารไทยพาณิชย์แห่งกรีซและใช้ผลการปปสที่จะใช้การเปลี่ยนแปลงที่เสนอในระบบการวัดประสิทธิภาพการทำงานของธนาคาร. Sakar (2006) ในตุรกีวิเคราะห์ 11 ธนาคารและตรวจสอบการป้อนข้อมูล: จำนวนสาขาพนักงานต่อสาขาสินทรัพย์ สินเชื่อเงินฝากและเอาท์พุท: ROA, ROE รายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (สินทรัพย์) ฮัสซันและซานเชซ (2007) ที่ใช้ดีอีเอในการประเมินประสิทธิภาพของธนาคารในละตินอเมริกาในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 1996 เพื่อ 2003 ผลการแสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ของแหล่งที่มาของความไร้ประสิทธิภาพที่มีกฎระเบียบทางเทคนิคมากกว่า ซึ่งหมายความว่าผู้จัดการธนาคารไม่เลือกที่ถูกต้อง (ดีที่สุด) ผสมเข้าและส่งออกเพราะพวกเขาจะไม่บังคับให้ทำเช่นนั้นโดยสภาพแวดล้อม (ทั้งกฎระเบียบของรัฐบาลหรือสภาวะตลาด). Milind (2003) ดำเนินการธนาคารการวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการ อินเดียบนพื้นฐานของทั้งสองรุ่น ปัจจัยการผลิตรุ่น A คือดอกเบี้ยจ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยและเอาท์พุท: รายได้ดอกเบี้ยสุทธิรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิและปัจจัยการผลิตรูปแบบ B ที่สุด ได้แก่ : เงินฝากพนักงานและเอาท์พุท: เงินให้สินเชื่อสุทธิรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย) ทอดและ Taci (2004) เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของธนาคาร 289 แห่งใน 15 ประเทศการโพสต์ของพรรคคอมมิวนิสต์โดยใช้วิธีการกลาง ผลปรากฏว่าธนาคารต่างประเทศมีการแข่งขันมากขึ้นและมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าในประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายกว่าธนาคารในประเทศ. ประสิทธิภาพของธนาคารของแคนาดาได้รับการตรวจสอบโดย Avkiran (2006) และ Wu et al, (2006) Avkiran (2006) ใช้ดีอีเอโดยใช้ตัวอย่างของ 24 บริษัท ในเครือธนาคารต่างประเทศแคนาดาในปี 2000 ผลรวมเงินให้กู้ยืมหลักทรัพย์และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในขณะที่ปัจจัยการผลิตรวมถึงเงินฝากค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยและส่วน multiplier.Wu et al, (2006) รวม DEA และเครือข่ายประสาท (NNs) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพสาขาญาติของธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศแคนาดา ผู้เขียนสังเกต 142 ธนาคารในประเทศแคนาดาและตรวจสอบจำนวนของพนักงานและค่าใช้จ่ายสำหรับตัวชี้วัดการป้อนข้อมูลในขณะที่สำหรับการส่งออกที่พวกเขาตรวจสอบเงินฝากรายได้และเงินกู้ยืมจากธนาคาร. Sakar (2006) ในตุรกีวิเคราะห์ 11 ธนาคารและตรวจสอบการป้อนข้อมูลจำนวนสาขาพนักงานต่อ สาขาสินทรัพย์เงินให้สินเชื่อเงินฝากและเอาท์พุท: ROA, ROE รายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (สินทรัพย์) ฮัสซันและซานเชซ (2007) ที่ใช้ดีอีเอในการประเมินประสิทธิภาพของธนาคารในละตินอเมริกาในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 1996 เพื่อ 2003 ผลการแสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ของแหล่งที่มาของความไร้ประสิทธิภาพที่มีกฎระเบียบทางเทคนิคมากกว่า ซึ่งหมายความว่าผู้จัดการธนาคารไม่เลือกที่ถูกต้อง (ดีที่สุด) ผสมเข้าและส่งออกเพราะพวกเขาจะไม่บังคับให้ทำเช่นนั้นโดยสภาพแวดล้อม (ทั้งกฎระเบียบของรัฐบาลหรือสภาวะตลาด)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป การศึกษาพยายามตอบทั้งสามคำถามหลัก :
" ขนาด " ธนาคารมีผลต่อประสิทธิภาพของ
" อายุ " กับ " ประสิทธิภาพ " ธนาคารธนาคาร ?
" พิมพ์ " กับ " ประสิทธิภาพ " เป็นเจ้าของธนาคาร ?
กระดาษนี้เน้นคำถามหลักเกี่ยวกับปัจจัยของ " ประสิทธิภาพ " ของธนาคาร ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้วิธี DEA CCR ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงาน เพื่อตรวจสอบมีตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ " ขนาด " ธนาคาร " อายุ " ของธนาคาร และ " พิมพ์ " ความเป็นเจ้าของ
กระดาษได้ดังนี้ หลังจากที่แนะนำนี้ ส่วน 2 ความคิดเห็น งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ " ธนาคารประสิทธิภาพ " และ " ลักษณะ " ธนาคารที่มีขนาด อายุ และประเภทของความเป็นเจ้าของ ส่วนที่ 3 อธิบายถึงวิธีการวัดตัวแปรการวิจัย และแสดงให้เห็นถึงวิธีการทดสอบสมมุติฐาน
ส่วนที่ 4 คือ ผลงานเชิงประจักษ์ , การนำเสนอผลการอภิปรายว่าผลลัพธ์เหล่านี้ตอบคำถามการวิจัยโดยใช้ Wilcoxon signed rank test และให้ความทนทานตรวจสอบระดับเสียงโดยใช้เทคนิค ส่วนที่ 5 สรุปกระดาษและมีข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อสรุป 2.literature

ทบทวนส่วนนี้นำเสนอบางส่วนของงานก่อนหน้าซึ่งได้ดำเนินการในนามของ " ประสิทธิภาพของธนาคาร " และ " ลักษณะ " ธนาคารที่อาจมีผลต่อประสิทธิภาพของธนาคาร เกี่ยวกับ " ประสิทธิภาพ " (
, Aly et al . ( 1990 ) ใช้แบบจำลอง CCR ประเมินทางเทคนิคและประสิทธิภาพของการจัดสรรขนาด 322 สหรัฐอเมริกาธนาคารในปี 1986 จำนวนพนักงานเต็มเวลา , สินทรัพย์ถาวร , ทุนและกองทุนให้กู้ยืมได้รับปัจจัยการผลิตขณะที่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์พาณิชย์และสินเชื่อผู้บริโภค , สินเชื่อและเงินฝากของอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้รับผล .
ในขณะที่อสังหาริมทรัพย์โลน , พาณิชย์และสินเชื่อผู้บริโภค , สินเชื่อและเงินฝากของอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้รับผล .
แอนเดอร์สัน ปีเตอร์เซน ( 1993 ) และนำเสนอรูปแบบการจัดอันดับแสดงเท่าใดหน่วยสามารถ " ทรุด " แต่ยังคงมีประสิทธิภาพหน่วย superefficient เป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเป็นหนึ่งที่เป็นลำดับ ขณะที่หน่วยที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า 100% จะไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นอันดับล่าง

soteriou และ zenios ( 1997 ) ได้ระบุว่า การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของธนาคารควรรวมสาขา คุณภาพบริการ การดำเนินงาน และผลกำไรได้พร้อมกันผู้เขียนการพัฒนากรอบยุทธศาสตร์การดำเนินงานรวมกับประสิทธิภาพของการบริการที่เสนอ โดยสาขาของธนาคาร พวกเขาใช้ 3 ทางรุ่น : ประสิทธิภาพการดำเนินงานแบบ คุณภาพ ประสิทธิภาพและกำไรประสิทธิภาพรูปแบบรูปแบบ ผลการศึกษาพบว่า ข้อมูลเชิงลึกที่เหนือกว่าที่สามารถรับได้ โดยการวิเคราะห์การดำเนินงาน คุณภาพบริการและผลกำไรพร้อมกันมากกว่าข้อมูลที่ได้จากการศึกษาของเหล่านี้ 3 มิติต่างหาก
Berger และฮัมฟรี ( 2540 ) การศึกษาประสิทธิภาพของเอกสาร , สถาบันการเงิน , ที่ใช้ใน 21 ประเทศจากระยะเวลาหลายและจากประเภทต่างๆของสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคาร , สหภาพเครดิตและ บริษัท ประกันพบว่า คืบหน้าแล้วในการวัดประสิทธิภาพมากกว่าที่ได้รับการทำในการอธิบายความแตกต่างในการปฏิบัติงาน ( เช่น ความสามารถหรือประสิทธิภาพ ) ข้ามสถาบัน athanassopoulos et al . ( 2 ) ตรวจสอบ 47 สาขา ของธนาคารพาณิชย์ของกรีซ และใช้ผลเพื่อใช้ฟรีเสนอการเปลี่ยนแปลงในระบบการวัดผลการปฏิบัติงานธนาคาร .

สะการ์ ( 2006 ) ในตุรกีวิเคราะห์ 11 ธนาคารและตรวจสอบข้อมูล : ตัวเลขสาขา พนักงานต่อสาขา สินทรัพย์ สินเชื่อ เงินฝาก และเอาท์พุท : ROA , ROE , รายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ( ทรัพย์สิน ) ฮัสซัน และ ซานเชส ( 2007 ) ใช้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของทางธนาคารละตินอเมริกาในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546ผลการวิจัย พบว่า ส่วนใหญ่ของแหล่งที่มาของความร้อน เป็นกฎระเบียบมากกว่าเทคนิค หมายความว่า ผู้จัดการธนาคารไม่เลือกที่ถูกต้อง ( เหมาะสม ) ใส่ผสม ออก เพราะ พวกเขาจะไม่บังคับให้ทำ โดยสภาพแวดล้อม ( ข้อบังคับให้รัฐบาล หรือสภาวะตลาด ) .
milind ( 2003 ) ที่ดำเนินการธนาคารการวิเคราะห์ประสิทธิภาพในอินเดียบนพื้นฐานของทั้งสองรุ่น แบบจำลองปัจจัยการผลิต ได้แก่ ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และเอาท์พุท : รายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย , รุ่น B กระผม : เงินฝาก , พนักงาน , และเอาท์พุท : สุทธิเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ) มันฝรั่งทอด และ taci ( 2004 ) เปรียบเทียบประสิทธิภาพของพวกธนาคารใน 15 โพสต์คอมมิวนิสต์ ประเทศใช้วิธีการขั้นกลาง ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าธนาคารต่างประเทศมีการแข่งขันมากขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในประสิทธิภาพต้นทุนกว่าธนาคารในประเทศ .
ประสิทธิภาพของธนาคารแคนาดาได้รับการสอบสวนโดย avkiran ( 2006 ) และ Wu et al . ( 2006 ) avkiran ( 2006 ) ใช้ดีใช้ จำนวน 24 บริษัท ในแคนาดา ธนาคารต่างประเทศ ปี 2000 ผลผลิตรวมสินเชื่อหลักทรัพย์และไม่มีรายได้ดอกเบี้ย ในขณะที่ปัจจัย ได้แก่ เงินฝาก ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายไม่คูณหุ้น Wu et al . ( 2006 ) รวม DEA และโครงข่ายประสาทเทียม ( nns ) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพเทียบกับสาขาใหญ่ของแคนาดาธนาคาร ผู้เขียนสังเกต 142 ธนาคารในแคนาดา และตรวจสอบจำนวนพนักงานและค่าใช้จ่ายสำหรับตัวชี้วัดข้อมูล ขณะที่ผลผลิตที่พวกเขาตรวจสอบเงินฝากรายได้และเงินกู้ยืมจากธนาคาร
สะการ์ ( 2006 ) ในตุรกีวิเคราะห์ 11 ธนาคารและตรวจสอบ Input : สาขาจำนวนพนักงานต่อสาขา สินทรัพย์ สินเชื่อ เงินฝาก และเอาท์พุท : ROA , ROE , รายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ( ทรัพย์สิน ) ฮัสซัน และ ซานเชส ( 2007 ) ใช้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของทางธนาคารละตินอเมริกาในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546ผลการวิจัย พบว่า ส่วนใหญ่ของแหล่งที่มาของความร้อน เป็นกฎระเบียบมากกว่าเทคนิค หมายความว่า ผู้จัดการธนาคารไม่เลือกที่ถูกต้อง ( เหมาะสม ) ใส่ผสม ออก เพราะ พวกเขาจะไม่บังคับให้ทำ โดยสภาพแวดล้อม ( ข้อบังคับให้รัฐบาล หรือสภาวะตลาด


)