The purpose of this study was to ex

The purpose of this study was to examine the relationship between time spent in nonperformance and critical thinking activities in high school choral rehearsals. Eighteen rehearsal observations were collected from public school music programs. Observed rehearsal behaviors were coded into three categories of nonperformance activity: lower-order thinking, critical thinking, and nonspecific activity. Results indicated that the mean rehearsal time spent in all nonperformance activities was 53.89%, with 45.96% focused on lower-order thinking skills, 6.36% in critical thinking skills, and '.57% in nonspecific activities, including off-task behavior and silence. A significant positive correlation was found between the amount of time spent in nonperformance activities and time spent engaged in critical thinking skills. No significant correlation was found between the level of ensemble in which students were enrolled and percentage of time spent in activities that required the use of critical thinking skills. Findings suggest that amount of time spent using critical thinking skills in high school choral rehearsals may be influenced by a variety of factors, including rehearsal techniques and learning objectives used by master teachers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้วิจารณญาณกิจกรรมในโรงเรียนมัธยมเลือก rehearsals และ nonperformance สังเกตการณ์ซ้อมสิบแปดได้รวบรวมจากโรงเรียนเพลงโปรแกรม สังเกตพฤติกรรมซ้อมถูกเข้ารหัสเป็นสามประเภทของกิจกรรม nonperformance: สั่งต่ำกว่าคิด วิจารณญาณ และกิจกรรมที่เจาะจง ผลระบุว่า หมายถึงซ้อมเวลาในกิจกรรมทั้งหมดที่ nonperformance ถูก 53.89%, 45.96% เน้นทักษะการคิดต่ำกว่าสั่ง 6.36% ในทักษะการคิดที่สำคัญ และ ' 57% ในกิจกรรมที่เจาะจง รวมถึงลักษณะการทำงานออกจากงานและความเงียบ พบความสัมพันธ์ในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญระหว่างหมั้นจำนวนเวลาที่ใช้ในกิจกรรมของ nonperformance และเวลาที่ใช้ในทักษะการคิดที่สำคัญ พบไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับของวงดนตรีในนักเรียนที่ได้ลงทะเบียนและเปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะการคิดที่สำคัญ ผลการวิจัยแนะนำว่า การใช้ทักษะการคิดที่สำคัญในโรงเรียนมัธยมเลือก rehearsals อาจมีผลมาจากความหลากหลายของปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงเทคนิคการซ้อม และวัตถุประสงค์การเรียนรู้ใช้หลักครู

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเวลาที่ใช้ในการที่คู่สัญญาไม่ปฏิบัติและกิจกรรมคิดอย่างมีวิจารณญาณในการฝึกซ้อมร้องเพลงโรงเรียนมัธยม สิบแปดสังเกตการฝึกซ้อมที่ถูกเก็บรวบรวมจากโรงเรียนรายการเพลงสาธารณะ พฤติกรรมการซ้อมสังเกตถูกเข้ารหัสเป็นสามประเภทของกิจกรรมที่คู่สัญญาไม่ปฏิบัติ: ความคิดที่ต่ำกว่าการสั่งซื้อการคิดเชิงวิพากษ์และเชิญชมกิจกรรม ผลการศึกษาพบว่าเวลาซ้อมเฉลี่ยการใช้จ่ายในกิจกรรมที่คู่สัญญาไม่ปฏิบัติทั้งหมดคือ 53.89% และ 45.96% มุ่งเน้นไปที่ทักษะการคิดที่ต่ำกว่าการสั่งซื้อ 6.36% ในทักษะการคิดที่สำคัญและ 0.57% ในการจัดกิจกรรมเชิญชมรวมทั้งพฤติกรรมการออกงานและความเงียบ . ความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญได้รับการพบกันระหว่างปริมาณของเวลาที่ใช้ในการทำกิจกรรมที่คู่สัญญาไม่ปฏิบัติและเวลาที่ใช้ร่วมในการทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญได้รับการพบกันระหว่างระดับของวงดนตรีที่นักเรียนได้รับการคัดเลือกและร้อยละของเวลาที่ใช้ในกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะการคิดที่สำคัญ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นปริมาณของเวลาที่ใช้โดยใช้ทักษะการคิดที่สำคัญในการฝึกซ้อมร้องเพลงสูงโรงเรียนอาจได้รับอิทธิพลจากความหลากหลายของปัจจัยรวมทั้งเทคนิคการฝึกซ้อมและวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ใช้โดยครูต้นแบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง การใช้เวลาในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ความเหลวใหลและกิจกรรมในโรงเรียนมัธยมซ้อมร้องเพลง . 18 ซ้อมสังเกตได้จากการเก็บโปรแกรมโรงเรียนดนตรี สังเกตพฤติกรรมอยู่ซ้อมรหัสออกเป็นสามประเภทของกิจกรรมความเหลวใหล : ลดเพื่อการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การคิดและกิจกรรมที่ไม่จำเพาะ . ผลการศึกษาพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาที่ใช้ในกิจกรรม ซ้อมความเหลวใหลทั้งหมด 53.89 % กับ 45.96 % ที่เน้นทักษะการคิดลดลง 6.36 % ในทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ ' 57 ในกิจกรรมที่ไม่จำเพาะ รวมทั้งปิดพฤติกรรมงาน และความเงียบมีความสัมพันธ์ ปริมาณของเวลาที่ใช้ในกิจกรรมความเหลวใหลและเวลาที่ใช้ร่วมในทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างระดับทั้งหมดที่นักศึกษาลงทะเบียนเรียน และร้อยละของเวลาที่ใช้ในกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณพบว่าปริมาณของเวลาที่ใช้ในการใช้ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณในโรงเรียนซ้อมร้องเพลงอาจจะได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย รวมถึงการฝึกซ้อมเทคนิคและวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ที่ใช้โดยครูอาจารย์