such as getting high marks. For the

such as getting high marks. For the other four scales, sixth graders had high mean scores comparable to students in other grades.
Student motivation levels also influence their attitude toward science and their achievement in science. Thus students who have high motivation to learn science are more successful in science learning and their attitudes toward science are more positive than other students. Hasan (1985) found that students’ perception of his/her science ability have the most important impact on attitudes toward science. Oliver and Simpson (1988) studied the effects of science motivation on academic achievement and concluded that motivation predicts academic success. Patrick et al (2007) suggested that motivation has very strong influence on students’ achievement in science.
Researchers also presume that motivation is a function of student expectation for success in addition to the inherent value that students assign to learning (Wigfield & Eccles, 1992). Specifically, student motivation is a tool used by researchers to clarify the degree to which pupils show effort and interest in their pursuits, regardless of whether these tasks are desired by the teacher (Brophy, 2004). Relevance of science is also crucial to motivate students in learning any subject. Researchers suggested that relevance need to be considered from students’ point of view (Holbrook & Rannikmae, 2010; Rannikmae, Teppo, & Holbrook, 2010). In order to understand students’ motivation in science learning, further qualitative research should be conducted for assessing the interaction of different environmental and social factors.
Acknowledge
The author thanks to Prof. Dr. Hulya Yilmaz for her great contribution and support to this study.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เช่นการได้รับคะแนนสูง สำหรับอีกสี่เครื่องชั่งน้ำหนักคารมที่หกมีคะแนนเฉลี่ยสูงเทียบได้กับนักเรียนในระดับอื่น ๆ .
ระดับแรงจูงใจนักศึกษายังมีอิทธิพลต่อทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และของพวกเขาในด้านวิทยาศาสตร์ ดังนั้นนักเรียนที่มีแรงจูงใจสูงที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และทัศนคติที่มีต่อวิทยาศาสตร์เป็นบวกมากขึ้นกว่าที่นักเรียนคนอื่น ๆ ฮะซัน (1985) พบว่าการรับรู้ของนักเรียน / ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ของเขาและเธอมีผลกระทบที่สำคัญที่สุดในทัศนคติที่มีต่อวิทยาศาสตร์ โอลิเวอร์และซิมป์สัน (1988) ศึกษาผลกระทบของแรงจูงใจวิทยาศาสตร์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและได้ข้อสรุปว่าแรงจูงใจที่คาดการณ์ความสำเร็จทางวิชาการ แพทริค, et al (2007) ชี้ให้เห็นว่าแรงจูงใจที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในด้านวิทยาศาสตร์.
นักวิจัยยังเข้าใจว่าแรงจูงใจที่เป็นฟังก์ชั่นของความคาดหวังของนักเรียนประสบความสำเร็จนอกเหนือไปจากค่าประจำตัวนักเรียนที่กำหนดให้กับการเรียนรู้ (Wigfield และเอ็กเซิล 1992 ) โดยเฉพาะแรงจูงใจของนักเรียนเป็นเครื่องมือที่ใช้โดยนักวิจัยที่จะชี้แจงระดับที่นักเรียนแสดงความพยายามและความสนใจในการแสวงหาความรู้ของพวกเขาโดยไม่คำนึงว่างานเหล่านี้เป็นที่ต้องการโดยครู (Brophy, 2004) ความสัมพันธ์กันของวิทยาศาสตร์ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะกระตุ้นให้นักเรียนในการเรียนรู้เรื่องใด ๆ นักวิจัยชี้ให้เห็นว่าเกี่ยวข้องจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาจากจุดของนักเรียนในมุมมองของ (ฮอลบรูและ Rannikmae 2010; Rannikmae, Teppo และฮอลบรู, 2010) เพื่อให้เข้าใจถึงแรงจูงใจของนักเรียนในการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์การวิจัยเชิงคุณภาพต่อไปควรจะดำเนินการในการประเมินการทำงานร่วมกันของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่แตกต่างกัน.
รับทราบผู้เขียนขอบคุณดร Hulya Yilmaz สำหรับผลงานที่ดีของเธอและการสนับสนุนเพื่อการศึกษาครั้งนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เช่น รับคะแนนสูง สำหรับอีก 4 ระดับ ป. 6 ได้คะแนนเฉลี่ยสูงเทียบเท่ากับนักเรียนในเกรดอื่นๆ
ระดับแรงจูงใจยังมีอิทธิพลต่อทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ดังนั้นนักเรียนที่มีแรงจูงใจสูงที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการเรียนวิทยาศาสตร์ และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ เป็นบวกมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ฮะซัน ( 1985 ) พบว่า นักเรียนมีการรับรู้ในความสามารถของเขา / วิทยาศาสตร์ของเธอมีผลกระทบสำคัญต่อเจตคติต่อวิทยาศาสตร์โอลิเวอร์และซิมป์สัน ( 1988 ) ได้ศึกษาผลของวิทยาศาสตร์แรงจูงใจต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและสรุปได้ว่า แรงจูงใจ ทำนายความสำเร็จทางวิชาการ แพทริค และคณะ ( 2550 ) พบว่า แรงจูงใจที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ .
นักวิจัยยังเชื่อว่าแรงจูงใจที่เป็นฟังก์ชันของความคาดหวังของนักศึกษาเพื่อความสำเร็จในการกำหนดมูลค่าที่แท้จริงที่นักศึกษาเพื่อการเรียนรู้ ( wigfield & Eccles , 1992 ) โดยเฉพาะ แรงจูงใจเป็นเครื่องมือที่ใช้โดยนักวิจัยชี้แจงถึงระดับที่นักเรียนแสดงความพยายามและความสนใจในงานอดิเรกของพวกเขา ไม่ว่าจะงานเหล่านี้เป็นที่ต้องการ โดยครู ( ใน ,2004 ) ความเกี่ยวข้องของวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนในการเรียนรู้เรื่องใด นักวิจัยแนะนำว่า ความเกี่ยวข้องต้องพิจารณาจากมุมมองของนักเรียน ( โฮล& rannikmae , 2010 ; rannikmae เทปโป , & Holbrook , 2010 ) เพื่อที่จะเข้าใจแรงจูงใจในการเรียนวิทยาศาสตร์การวิจัยเชิงคุณภาพ และควรดำเนินการประเมินการปฏิสัมพันธ์ของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่แตกต่างกัน ผู้เขียนยอมรับ

ขอบคุณดร. hulya ยิลมาส สำหรับผลงานที่ยิ่งใหญ่ของเธอ และสนับสนุนการศึกษา