He also claimed that among the stud

He also claimed that among the students who do depend on search engines for research, many do not know how to use the results.
'Typically, students will click on the first listing at the top of the results page and take a quick look, then continue down the list without studying the source of the website to figure out whether it’s the best source of information,' he said.
'Often they pass right by the website they should be looking at because it doesn’t look like the website they have in their mind.

'The challenge is we’re not preparing kids in the classroom for these new online reading skills. If kids are largely going to use the Internet now and in the future, these skills for online comprehension must be included in what teachers teach.'
The study also found that students shun search engines in favour of typing what they think is the right site directly into the address bar, such as Georgewashington.com.
Mr Leu said: 'When they did use a search engine, they skipped right over legitimate pages because it didn’t look like what they had in mind.
'That’s what children do with their rock stars and their other cultural stars. They are accustomed to typing in the name and adding .com. That often doesn’t work for real academic research.'


Read more: http://www.dailymail.co.uk/news/article-1352929/Endangered-tree-octopus-proves-students-believe-read-Internet.html#ixzz4KD5LnD9Q
Follow us: @MailOnline on Twitter | DailyMail on Facebook

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขายังอ้างว่า ในนักเรียนที่ขึ้นอยู่กับเครื่องมือค้นหางานวิจัย หลายคนไม่ทราบวิธีการใช้ผลการ'โดยทั่วไป นักเรียนจะรายแรกด้านบนของหน้าผลลัพธ์คร่าว ๆ คลิ และยังคงลงรายการโดยไม่ต้องศึกษาแหล่งที่มาของเว็บไซต์จะคิดออกว่าจะเป็นแหล่งของข้อมูล เขากล่าวว่า' มักจะผ่านไปตามเว็บไซต์ที่พวกเขาควรจะมองที่ เพราะมันไม่เหมือนเว็บไซต์ของพวกเขามีในใจของพวกเขา' ความท้าทายคือ เราไม่ได้กำลังเตรียมเด็กในห้องเรียนสำหรับทักษะการอ่านออนไลน์เหล่านี้ใหม่ ถ้าเด็กส่วนใหญ่จะใช้อินเทอร์เน็ตขณะนี้ และในอนาคต ออนไลน์เข้าใจทักษะเหล่านี้ต้องมีครูสอน.'การศึกษายังพบว่า นักเรียนชุนเสิร์ชสนับสนุนพิมพ์สิ่งที่พวกเขาคิดว่า เป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสมลงในแถบอยู่ เช่น Georgewashington.com โดยตรงนายลิวกล่าวว่า: ' เมื่อพวกเขาได้ใช้เครื่องมือค้นหา พวกเขาข้ามขวาผ่านหน้าถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากมันไม่เหมือนพวกเขาในใจ' นั่นคือสิ่งที่เด็กทำกับดาวหินของพวกเขาและดาวของพวกเขาวัฒนธรรมอื่น ๆ พวกเขาจะคุ้นเคยกับการพิมพ์ชื่อ และเพิ่ม. com มักไม่ได้ผลวิจัยศึกษาจริง 'อ่านเพิ่มเติม: http://www.dailymail.co.uk/news/article-1352929/Endangered-tree-octopus-proves-students-believe-read-Internet.html#ixzz4KD5LnD9Q ติดตามเรา: @MailOnline บนทวิตเตอร์กรุนด์ฟอส DailyMail บน Facebook

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้เขายังอ้างว่าในหมู่นักศึกษาที่ไม่ขึ้นอยู่กับเครื่องมือค้นหาสำหรับการวิจัยหลายคนไม่ทราบวิธีการใช้ผล.
'โดยปกตินักเรียนจะคลิกที่รายการแรกที่ด้านบนของหน้าผลการค้นหาและใช้เวลาดูอย่างรวดเร็วแล้ว ยังคงลงรายการโดยไม่ต้องศึกษาแหล่งที่มาของเว็บไซต์ที่จะคิดออกว่าจะเป็นแหล่งที่ดีที่สุดของข้อมูล "เขากล่าว.
" บ่อยครั้งที่พวกเขาผ่านทางเว็บไซต์ของพวกเขาควรจะมองหาที่เพราะมันไม่ได้มีลักษณะเหมือนเว็บไซต์ที่พวกเขามี ในใจของพวกเขา.

'ความท้าทายคือเราไม่ได้เตรียมความพร้อมเด็กในห้องเรียนสำหรับทักษะการอ่านออนไลน์ใหม่เหล่านี้ ถ้าเด็กส่วนใหญ่จะไปใช้อินเทอร์เน็ตในขณะนี้และในอนาคตทักษะเหล่านี้เพื่อความเข้าใจออนไลน์ต้องรวมอยู่ในสิ่งที่ครูสอน.
การศึกษายังพบว่านักเรียนหลีกเลี่ยงเครื่องมือค้นหาในความโปรดปรานของการพิมพ์สิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นเว็บไซต์ที่ถูกต้องโดยตรง ในแถบที่อยู่เช่น Georgewashington.com.
นายลิวกล่าวว่าเมื่อพวกเขาใช้เครื่องมือค้นหาที่พวกเขาข้ามตรงหน้าถูกต้องตามกฎหมายเพราะมันไม่ได้มีลักษณะเหมือนสิ่งที่พวกเขามีอยู่ในใจ.
'นั่นคือสิ่งที่เด็กทำอย่างไรกับพวกเขา ดาวหินและดาวทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ของพวกเขา พวกเขามีความคุ้นเคยกับการพิมพ์ชื่อและเพิ่ม .com ที่มักจะไม่ได้ผลสำหรับการวิจัยทางวิชาการจริง '.


อ่านเพิ่มเติม: http://www.dailymail.co.uk/news/article-1352929/Endangered-tree-octopus-proves-students-believe-read-Internet.html # ixzz4KD5LnD9Q
ติดตามเรา: @MailOnline บนทวิตเตอร์ | DailyMail บน Facebook