In some societies where the politic

In some societies where the political system had fallen off track by power seizure, the people would be waiting for the day the original system will go back on track. But if things are still in the air and one simply does not see light at the other end of the tunnel as yet, the people would just wait with cautious optimism. But if things do not look promising, optimism will be seeping out and pessimism will usher in. This is a normal human psychology. This situation will bring about undesirable sentiments. Those who are concerned with the precarious situation will have the following feeling, in logical sequence. First, the future hangs in the balance. Second, no one knows exactly what is going to happen and when. Third, but everyone knows something will definitely happen and it is likely to be no good. Fourth, people would adopt a “wait and see” tactic until the dust has settled. Fifth, there are misgivings that violent conflict may take place. Sixth, there is a sense of resignation in the fashion of “whatever will be, will be.” Seventh, the social soul is in limbo. There are no standards of right and wrongs, good and bad and the like. Last, at times it would seem that everybody has become deranged, talking nonsense and voicing illogical arguments and debates on a daily basis. The outlandish remarks either displayed ignorance, stubbornness or hidden agenda due to vested interest, or following directives. All these characteristics are common in societies where the political order has broken down and the responsible people are just groping for the right model to make sure that their vested interest most notably power and privileges will be kept intact. The examples of our neighboring countries during the period of political turmoil are cases in point. Those who were in Vietnam before the fall of Saigon could testify to this observation.

Could the above narrative be applied to some other societies? This is a good question but people may be hesitant to make comments or give an answer. The Chinese folk wisdom which the Japanese adopted is reflected in the three monkey-dolls--one closes its mouth, one closes its ears and one closes its eyes. The Chinese also has a saying that, “Those who know, do not say; those who say, do not know!” In English, there is short sentence showing a point of wisdom. “Silence is golden!”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนจะรอวันระบบเดิมจะกลับไปติดตามในบางสังคมที่ระบบการเมืองได้ตกลงออกติดตาม โดยเป็นพลังงานลม แต่ถ้าสิ่งที่มีอยู่ในอากาศ และก็ไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เป็น คนจะรอกับมองในแง่ดีระมัดระวัง แต่ถ้าสิ่งไม่ดูสัญญา มองในแง่ดีที่จะ seeping ออก และ pessimism จะนำใน จิตวิทยามนุษย์เป็นปกติอยู่ สถานการณ์นี้จะนำมาซึ่งรู้สึกไม่พึงปรารถนา ผู้ที่มีความกังวลกับสถานการณ์ล่อแหลมจะมีความรู้สึกต่อไปนี้ ในลำดับตรรกะ ครั้งแรก อนาคตค้างในยอดดุล สอง ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และเมื่อ ที่สาม แต่ทุกคนรู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นแน่นอน และมีแนวโน้ม ไม่ดี สี่ คนจะนำแท "รอ และดู" จนกว่าจะมีชำระฝุ่น ห้า มีที่น่าเคลือบแคลงว่า ความขัดแย้งที่รุนแรงอาจเกิดขึ้น หก มีความรู้สึกของการลาออกในแฟชั่นของ "อะไรก็ตามจะ จะ" เจ็ด จิตสังคมเป็นบ้าน มีมาตรฐานไม่ขวาค้น ดี และไม่ดี และดัง ล่าสุด บางครั้งดูเหมือนว่า ทุกคนมีเป็นวิกลจริต พูดเหลวไหลและ voicing อาร์กิวเมนต์ไม่สมเหตุผลและการดำเนินในชีวิตประจำ หมายเหตุ outlandish แสดงความไม่รู้ stubbornness หรือวาระซ่อนเร้นเนื่องจากชอบธรรม หรือคำสั่งต่อไปนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง ลักษณะเหล่านี้มีทั่วไปในสังคมที่มีแบ่งใบสั่งทางการเมือง และคนรับผิดชอบมีเพียงคล้าหาสำหรับรุ่นเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่า ส่วนใหญ่พลังงานความชอบธรรม และสิทธิ์การใช้งานจะยังคงอยู่เหมือนเดิม ตัวอย่างของประเทศเพื่อนบ้านของเราในช่วงเวลาของความวุ่นวายทางการเมืองเป็นกรณีในจุด ผู้ที่อยู่ก่อนการล่มสลายของไซ่ง่อนเวียดนามสามารถเป็นพยานเพื่อเก็บข้อมูลนี้ สามารถใช้เล่าเรื่องข้างต้นกับสังคมอื่น ๆ หรือไม่ นี้เป็นคำถามที่ดี แต่คนอาจจะลังเลที่จะให้ข้อคิดเห็น หรือให้คำตอบ จีนภูมิปัญญาชาวบ้านที่ญี่ปุ่นนำมาใช้อยู่เป็นประจำสามลิงตุ๊กตา - หนึ่งปิดปากของ หนึ่งปิดหูของ และหนึ่งในปิดตาของ จีนมีคำพูดว่า "ผู้รู้ ไม่ว่า คนที่บอกว่า ไม่ทราบ" ในอังกฤษ มีประโยคสั้น ๆ ที่แสดงจุดของภูมิปัญญา "เงียบเป็นทอง"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบางสังคมที่ระบบการเมืองได้ลดลงออกติดตามโดยอำนาจการจับกุม ผู้คนจะรอวันที่ระบบเดิมจะกลับในการติดตาม แต่ถ้ามันอยู่ในอากาศ และก็ไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เช่น ประชาชนจะรอกับ optimism ระมัดระวัง แต่ถ้าสิ่งที่ไม่ได้ดูสัญญาการมองโลกในแง่ดีจะซึมและการมองโลกในแง่ร้ายจะเริ่มต้น นี้เป็นปกติของมนุษย์ จิตวิทยา สถานการณ์นี้จะนำเกี่ยวกับความรู้สึกที่ไม่พึงประสงค์ ผู้ที่มีความกังวลกับสถานการณ์ล่อแหลมจะมีความรู้สึกต่อไปนี้ ในลำดับตรรกะ ครั้งแรกที่อนาคตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ประการที่สอง ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และเมื่อ ประการที่สามแต่ทุกคนรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และมันอาจจะไม่ดี 4 คน จะใช้ " รอดู " รูปจนฝุ่นได้ตัดสิน ห้า มีข้อสงสัยว่า ความขัดแย้งที่รุนแรงที่อาจเกิดขึ้น 6 มีความรู้สึกของการลาออกในแฟชั่นของ " อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด " เจ็ด วิญญาณสังคมอยู่ในบริเวณขอบรก .ไม่มีมาตรฐานที่ถูกและผิด , ดีและไม่ดีและไม่ชอบ สุดท้าย เวลาก็จะดูเหมือนว่าทุกคนได้กลายเป็นคนบ้า พูดเรื่องไร้สาระและ voicing อาร์กิวเมนต์ไม่สมเหตุผลและการอภิปรายในแต่ละวัน การใช้ถ้อยคำให้แสดงความไม่รู้ , ความดื้อรั้นหรือซ่อนวาระ เนื่องจากได้เสีย หรือตามคำสั่งคุณลักษณะทั้งหมดเหล่านี้มีทั่วไปในสังคมที่ใบสั่งทางการเมืองได้หักลงและคนที่รับผิดชอบก็ลูบคลำสำหรับรูปแบบขวาเพื่อให้แน่ใจว่าได้เสียของพวกเขาโดยเฉพาะอำนาจและสิทธิ์จะถูกเก็บไว้เหมือนเดิม ตัวอย่างของประเทศเพื่อนบ้านของเราในช่วงเวลาของความวุ่นวายทางการเมืองเป็นกรณีในจุดคนที่อยู่ในเวียดนามก่อนฤดูใบไม้ร่วงของไซ่ง่อน สามารถเป็นพยานสังเกตนี้

ได้บรรยายไปข้างต้นบางสังคมอื่น ๆ มันเป็นคำถามที่ดี แต่คนอาจจะลังเลที่จะให้ความเห็นหรือให้คำตอบ จีน ภาษาญี่ปุ่น เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สะท้อนให้เห็นในสามลิงตุ๊กตาหนึ่งปิดปากหนึ่งปิดของหูและหนึ่งหลับตา .จีนยังได้กล่าวว่า " ผู้ที่รู้ไม่พูด คนที่พูด ไม่รู้ " ในภาษาอังกฤษ มีประโยคสั้นๆ ที่แสดงจุดของปัญญา " ความเงียบเป็นทอง "