We found that phytopathogens such a

We found that phytopathogens such as P. carotovorum resisted the effects of azadirachtin more strongly than plant growth-promoting bacteria such as Rhizobium sp. (Table 3). Furthermore, the sporulation of T. asperellum was delayed by treatment with 0.4 mgmL-1 or more of azadirachtin, though the same was not true for F. Oxysporum (data not shown). Additionally, T. asperellum prevalence in the rhizosphere and root nodules was significantly reduced when plants were treated with 1.25 or 2.5 µgmL-1 azadirachtin (Figure 2 and 3). These results suggest that the use of azadirachtin in agriculture suppresses some plant growth-promoting bacteria, resulting in the loss of phytopathogen control or an imbalance of microbial soil ecology, eventually leading to the increased prevalence of various plant diseases. Additionally, in the BS pots, plants treated with 2.5 µgmL-1 azadirachtin had lighter roots and shoots than the control (Table 2). Similarly, the amount of root nodules and T. asperellum in the rhizospheres of plants treated with neem extract was less than that of the control (Figure 2 and 3). This also suggests that neem extract suppresses the growth of some plant growth-promoting bacteria. However, the long-term use of neem extract enhanced the growth of microorganisms in the soil and rhizosphere (Table 1 and Figure 1). This implies that, in agricultural usage, neem extract was safer for the soil ecosystem than azadirachtin.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราพบว่า phytopathogens เช่น P. carotovorum ต่อต้านผลกระทบของ azadirachtin อย่างรุนแรงกว่าพืชส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียเช่นไรโซเบียม sp. (ตาราง 3) นอกจากนี้ sporulation ของ T. asperellum ล่าช้า โดยรักษาด้วย azadirachtin อย่างน้อย 0.4 mgmL-1 แม้ว่าเหมือนไม่ได้จริงสำหรับ F. Oxysporum (ไม่แสดงข้อมูล) นอกจากนี้ T. asperellum ชุกในก้อนไรโซสเฟียร์และรากได้อย่างมีนัยสำคัญลดลงเมื่อพืชได้รับการรักษา ด้วย 1.25 หรือ 2.5 µgmL-1 azadirachtin (รูป 2 และ 3) ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำว่า ใช้ในการเกษตร azadirachtin ยับยั้งบางโรงงานส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เป็นผลในการสูญเสียการควบคุม phytopathogen หรือความไม่สมดุลของระบบนิเวศดินจุลินทรีย์ ในที่สุดนำไปสู่ความชุกที่เพิ่มขึ้นของโรคพืชต่าง ๆ นอกจากนี้ ในหม้อบี พืชรักษา ด้วย µgmL-1 2.5 azadirachtin ได้เบารากและหน่อมากกว่าการควบคุม (ตารางที่ 2) ในทำนองเดียวกัน จำนวนก้อนรากและ T. asperellum ใน rhizospheres ของพืชที่รักษา ด้วยสารสกัดจากสะเดามีค่าน้อยกว่าของตัวควบคุม (รูปที่ 2 และ 3) นี้แสดงให้เห็นว่า สารสกัดจากสะเดายับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชบาง อย่างไรก็ตาม การใช้สารสกัดจากสะเดาระยะยาวขึ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในดินและไรโซสเฟียร์ (ตารางที่ 1 และรูปที่ 1) บ่งชี้ว่า ในงานเกษตร สารสกัดจากสะเดาเป็นความปลอดภัยสำหรับระบบนิเวศดินมากกว่า azadirachtin

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราพบว่า phytopathogens เช่นพี carotovorum ต่อต้านผลกระทบของ azadirachtin มากขึ้นยิ่งกว่าพืชแบคทีเรียส่งเสริมการเจริญเติบโตเช่นไรโซเบียม SP (ตารางที่ 3) นอกจากสร้างสปอร์ของ T. asperellum ล่าช้าโดยการรักษาด้วย 0.4 mgmL-1 หรือมากกว่าของ azadirachtin แม้ว่าเดียวกันไม่เป็นความจริงสำหรับ F. oxysporum (ไม่ได้แสดงข้อมูล) นอกจากนี้ที asperellum ชุกในบริเวณรากและรากสิวก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพืชได้รับการรักษาด้วย 1.25 หรือ 2.5 μgmL-1 azadirachtin (รูปที่ 2 และ 3) ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ azadirachtin ในการเกษตรพืชยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียส่งเสริมบางผลในการสูญเสียการควบคุม phytopathogen หรือความไม่สมดุลของระบบนิเวศดินจุลินทรีย์ในที่สุดก็นำไปสู่​​ความชุกที่เพิ่มขึ้นของโรคพืชต่างๆ นอกจากนี้ในกระถาง BS พืชรับการรักษาด้วย 2.5 μgmL-1 azadirachtin มีน้ำหนักเบาและรากหน่อกว่ากลุ่มควบคุม (ตารางที่ 2) ในทำนองเดียวกันปริมาณของก้อนรากตันและ asperellum ในบริเวณรากของพืชได้รับการรักษาด้วยสารสกัดจากสะเดาน้อยกว่าที่ของการควบคุม (รูปที่ 2 และ 3) นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากสะเดายับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียเจริญเติบโตของพืชส่งเสริมบาง อย่างไรก็ตามการใช้ในระยะยาวของสารสกัดจากสะเดาเพิ่มการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในดินและราก (ตารางที่ 1 และรูปที่ 1) ซึ่งหมายความว่าในการใช้งานการเกษตร, สารสกัดจากสะเดาเป็นที่ปลอดภัยสำหรับระบบนิเวศดินกว่า azadirachtin

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราพบว่า phytopathogens เช่นหน้า carotovorum ต่อต้านต่อสารได้ดีกว่าจุลินทรีย์ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช เช่น เชื้อ sp . ( ตารางที่ 3 ) นอกจากนี้ การสร้างสปอร์ของ asperellum ล่าช้าโดยการรักษาด้วย 0.4 mgml-1 หรือสกัด แม้ว่าเดียวกันไม่ได้จริงสำหรับ F . oxysporum ( ข้อมูลไม่แสดง ) นอกจากนี้ ที่ ต. asperellum ความชุกในรากและรากปมถูกลดลงเมื่อพืชได้รับการรักษากับ 1.25 หรือ 2.5 µ gml-1 อะซาดิแรคติน ( รูปที่ 2 และ 3 ) ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การใช้สารบางอย่างในการเกษตรยับยั้งจุลินทรีย์ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งส่งผลในการสูญเสียการควบคุม phytopathogen หรือความไม่สมดุลของระบบนิเวศ จุลินทรีย์ดิน ในที่สุดนำไปสู่การเพิ่มความชุกของโรคพืชต่างๆ นอกจากนี้ ใน BS หม้อ พืชที่ได้รับ 2.5 µ gml-1 azadirachtin มีรากเบาและยิงกว่ากลุ่มควบคุม ( ตารางที่ 2 ) ส่วนจำนวนการสร้างปม และ ต. asperellum ใน rhizospheres ของพืชที่ได้รับการรักษาด้วยสารสกัดสะเดา น้อยกว่า ของการควบคุม ( รูปที่ 2 และ 3 ) นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดสะเดายับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช . อย่างไรก็ตาม การใช้ระยะยาวของสารสกัดสะเดาเพิ่มการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในดินและราก ( ตารางที่ 1 และรูปที่ 1 ) อย่างไรก็ตาม ในการใช้ทางการเกษตร สารสกัดสะเดาปลอดภัยกว่าสำหรับดินระบบนิเวศมากกว่าสาร .