In late 1932, Mies rented a derelic

In late 1932, Mies rented a derelict factory in Berlin to use as the new Bauhaus with his own money. The students and faculty rehabilitated the building, painting the interior white. The school operated for ten months without further interference from the Nazi Party. In 1933, the Gestapo closed down the Berlin school. Mies protested the decision, eventually speaking to the head of the Gestapo, who agreed to allow the school to re-open. However, shortly after receiving a letter permitting the opening of the Bauhaus, Mies and the other faculty agreed to voluntarily shut down the school.[22]

Although neither the Nazi Party nor Hitler himself had a cohesive architectural policy before they came to power in 1933, Nazi writers like Wilhelm Frick and Alfred Rosenberg had already labeled the Bauhaus "un-German" and criticized its modernist styles, deliberately generating public controversy over issues like flat roofs. Increasingly through the early 1930s, they characterized the Bauhaus as a front for communists and social liberals. Indeed, a number of communist students loyal to Meyer moved to the Soviet Union when he was fired in 1930.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในช่วงปลายปี 1932, Mies เช่าโรงงานปะทะในเบอร์ลินเพื่อใช้เป็นใหม่ Bauhaus ด้วยเงินของตัวเอง นักเรียนและคณาจารย์รับการฟื้นฟูอาคาร ทาสีภายในสีขาว โรงเรียนดำเนินงานเดือนสิบโดยไม่รบกวนเพิ่มเติมจากพรรคนาซี ในปี 1933 เกสตาโปปิดโรงเรียนเบอร์ลิน Mies ปฏิเสธการตัดสินใจ ในที่สุดพูดไปครองกรุง ที่ตกลงที่จะอนุญาตให้โรงเรียนเปิด อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับจดหมายอนุญาตให้เปิด Bauhaus, Mies คณะอื่น ๆ ตกลงปิดโรงเรียนสมัครใจ [22]แม้ว่าไม่พรรคนาซีและฮิตเลอร์เองมีนโยบายสถาปัตยกรรมเหนียวก่อนที่พวกเขามาสู่อำนาจในปี 1933 นาซีผู้เขียนชอบ Wilhelm Frick และอัลเฟรดโรเซนเบิร์กแล้วมีป้าย Bauhaus "เยอรมันยกเลิก" และวิพากษ์วิจารณ์ลักษณะของสมัยใหม่ โดยเจตนาสร้างความขัดแย้งสาธารณะผ่านปัญหาเช่นหลังคาแบน เรื่อย ๆ ผ่านช่วงต้นปี 1930 พวกเขาลักษณะ Bauhaus เป็นหน้าสำหรับสังคมเสรีนิยมและคอมมิวนิสต์ แน่นอน จำนวนนักศึกษาคอมมิวนิสต์การ Meyer ย้ายไปสหภาพโซเวียตเมื่อเขาถูกยิงในปี 1930

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงปลายปี 1932 Mies เช่าโรงงานที่ถูกทิ้งร้างในกรุงเบอร์ลินไปใช้เป็น Bauhaus ใหม่ที่มีเงินของตัวเอง นักศึกษาและคณาจารย์ฟื้นฟูอาคาร, ภาพวาดสีขาวตกแต่งภายใน โรงเรียนดำเนินการมาสิบเดือนโดยไม่ต้องรบกวนเพิ่มเติมจากพรรคนาซี ในปี 1933, นาซีปิดตัวลงโรงเรียนเบอร์ลิน Mies ประท้วงการตัดสินใจในที่สุดการพูดถึงหัวของนาซีที่ยอมให้โรงเรียนที่จะเปิดใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากที่ได้รับจดหมายขออนุญาตเปิด Bauhaus, Mies และคณะอื่น ๆ ที่ได้ตกลงกันที่จะสมัครใจปิดโรงเรียน. [22]

แม้ว่าทั้งพรรคนาซีหรือฮิตเลอร์เองมีนโยบายสถาปัตยกรรมเหนียวก่อนที่พวกเขาเข้ามามีอำนาจในปี 1933 นักเขียนนาซีเช่นวิลเฮล์ Frick และอัลเฟรดโรเซนเบิร์กได้ติดป้ายชื่อแล้ว Bauhaus "อูเยอรมัน" และวิพากษ์วิจารณ์รูปแบบสมัยใหม่ของมันจงใจสร้างความขัดแย้งของประชาชนมากกว่าปัญหาเช่นหลังคาแบน เพิ่มมากขึ้นผ่านช่วงต้นปี 1930 ที่พวกเขาโดดเด่น Bauhaus เป็นหน้าคอมมิวนิสต์และเสรีนิยมสังคม อันที่จริงจำนวนนักเรียนที่จงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์เมเยอร์ย้ายไปอยู่ที่สหภาพโซเวียตเมื่อเขาถูกไล่ออกในปี 1930

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปลายปี พ.ศ. 2475 มีส เช่าโรงงานที่ถูกทิ้ง ใน เบอร์ลิน ที่จะใช้เป็นสถาบันเบาเฮาส์ใหม่ด้วยเงินของตัวเอง นักเรียนและคณะครูได้ฟื้นฟูอาคาร , ทาสีตกแต่งภายในสีขาว โรงเรียนดำเนินการประมาณ 10 เดือนโดยไม่ต้องต่อการรบกวนจากพรรคนาซี ใน 1933 นาซีปิดโรงเรียนเบอร์ลิน มีส ประท้วงการตัดสินใจ ในที่สุดก็พูดกับหัวหน้าของนาซีที่ตกลงที่จะอนุญาตให้โรงเรียนจะเปิด อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับจดหมายอนุญาตให้เปิดของ Bauhaus Mies และคณะอื่น ๆตกลงที่จะไปปิดโรงเรียน [ 22 ]แม้ว่าทั้งพรรคนาซีและฮิตเลอร์เองก็เหนียวสถาปัตยกรรมนโยบายก่อนที่พวกเขาเข้ามามีอำนาจในปี 1933 นักเขียนนาซีเหมือนวิลเฮล์มฟริค และอัลเฟรดโรเซนเบิร์กได้ติดป้าย Bauhaus " และเยอรมัน " และวิจารณ์รูปแบบสมัยใหม่ของ เจตนาสร้างความขัดแย้งของประชาชนมากกว่าปัญหาเช่นหลังคาแบน มากขึ้นผ่านทศวรรษ 1930 พวกเขาลักษณะ Bauhaus เป็นหน้าของคอมมิวนิสต์และพวกเสรีนิยมทางสังคม แน่นอน จำนวนของพรรคคอมมิวนิสต์นักเรียนซื่อสัตย์กับเมเยอร์ย้ายกับสหภาพโซเวียตเมื่อเขาถูกไล่ออกในปี 1930