ผลกระทบของสงครามกลางเมืองในเวียดนาม เป็นปัจจัยภายในประเทศที่มีผลชี้ขาด ผลักดันให้เกิดการอพยพของชาวเวียดนามที่นับถือคาทอลิก มาตั้งถิ่นฐานในจังหวัดจันทบุรี สงครามกลางเมืองดังกล่าวเป็นขัดแย้งที่เรื้อรังระหว่างชนชั้นนำของเวียดนาม 4 ตระกูล คือ ตระกูลแมก ตระกูลเล ตระกูลตรินท์ ตระกูลเหงียน ความขัดแย้งระหว่างชนชั้น นำเริ่มต้นหลังจากที่เวียดนามปลดปล่อยตัวเองจากการครอบครองของจีนเป็นเวลาหลายร้อยปี การกู้เอกราชของประเทศเวียดนาม นำโดยเลลอย แห่งขุนนางตระกูลเลใน พ.ศ. 1971 เลลอยต้องใช้เวลาในการสู้รบกับจีนเป็นเวลา 10 ปี จึงสามารถเอาชนะได้ อย่างไรก็ดี แม้เวียดนามจะสามารถกู้เอกราชจากจีนได้ แต่การปกครองและบริหารราชการของเวียดนามก็ยังได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีนเป็นอย่างมากเหมือนเชนในอดีต หลังจากที่ตระกูลเลขึ้นครองราชย์ในเวียดนาม ใน พ.ศ. 2070 ประเทศจีนก็สนับสนุนตระกูลแมกขึ้นครองราชย์เพื่อช่วงชิงอำนาจจากราชวงศ์เล ต่อมาใน พ.ศ. 2083 เหงียม คิม หัวหน้ารัฐบาลลี้ภัยในนามของเชื้อสายนราชวงศ์เลได้ยึดเวียดนามจากพวกแมกด้วยความช่วยเหลือจากกษัตริย์ลาว เวียดนามจึงถูกแบ่งออกเป็นสองภาค คือ ภาคเหนือกับภาคใต้ เหงียน คิม ได้ควบคุมครึ่งหนึ่งของภาคใต้ ถั่น หัวและริมฝั่งสันดอนปากแม่น้ำแดงแต่เหงียนคิมถูกฆ่าตายในปีนั้นพวกแมกก็กลับคุมอำนาจอย่างมั่นคงในภาคเหนือ แต่กลับปรากฎการก้าวหน้าขึ้นมามีอำนาจของตระกูลตรินท์ ดังนั้น ดินแดนเวียดนามจึงถูกแบ่งอีกครั้งออกเป็น 3 ส่วน คือ ราชวงศ์แมก ปกครองเวียดนามเหนือฮานอยเป็นเมืองหลวง ราชวงศ์ตรินท์ปกครองเวียดนามกลางโดยมีเมืองเว้เป็นเมืองหลวง ตระกูลเหงียนซึ่งต่อมาเป็นราชวงศ์เหงียน ได้ปกครองเวียดนามใต้ ซึ่งมีไซ่ง่อนเป็นเมืองหลวง ตระกลูตรินท์ต้องใช้เวลาทำสงครามกับพวกแมกถึงเกือบ 60 ปี ก่อนที่จะขับไล่พวกของแมกออกจากฮานอยได้ และตั้งราชวงศ์เลขึ้นเป็นประมุขเวียดนามอย่างเป็นทางการ