399cognitive, affective, and psycho

399
cognitive, affective, and psychomotor outcome criteria. Similarly, there is scope for employing classroom environment characteristics as criterion variables in studies into factors influencing the classroom environment.
In particular, curriculum evaluators and teachers have not used classroom environment criteria nearly as much as they might have when evaluating educational innovations, new curricula, or teaching approaches. Similarly, the short forms could be used in research analogous to prior studies which have investigated various factors (e.g., class size, grade level, subject matter, type of school) which affect the classroom environment. This article also identified several promising new research directions which are based on the use of both actual and preferred forms of classroom environment scales. These include investigations of differences between student and teacher perceptions of actual and preferred environment, person environment fit studies of whether students achieve cognitive and affective aims better when in their preferred environment, and practical attempts by teachers to make use of environment assessments in facilitating improvements in their classrooms. It is hoped that the existence of the economical and reliable short forms of the classroom environment instruments described in this article will assist researchers and teachers wishing to follow some of these promising directions.
This study evidences confirmation of the research studies at the four past decades, for example; using the ICEQ, associations with students' cognitive and affective outcomes have been established for a sample of approximately 68 senior high school chemistry classes in 489 senior high school biology students in Australia and 1,592 grade 10 chemistry students in Singapore (Wong & Fraser 1996[19]). Using an instrument suited for computer-assisted instruction classrooms, Teh and Fraser (1995b[20]) established associations between classroom environment, achievement and attitudes among a sample of 671 high school geography students in 24 classes in Singapore. Using the QTI, associations between student outcomes and perceived patterns of teacher-student interaction were reported for samples of 489 senior high school biology students in Australia 3,994 high school science and mathematics students in Australia 1,512 primary school mathematics students in Singapore and 2,256 lower secondary science dream school project students in Thailand (Santiboon, 2013[21]).
Acknowledgments
Firstly, I would like to thank the 168 students in Roi-Et Wittayalai School at the Grade level 10 who were part of the study Dr. PreedaSammana, the schooling administer and Mrs. WiriyapornMontripoeand is the teacher trainer. who allowed students to complete the questionnaire.
Second, I must thank you my supervisor; Dr. TanawatSomtuaand Dr. PanwilaiChomchid; my co-supervisor, they understood and never pushed me to build up of my research that it was going on work, completely.
Finally, my greatest thanks go to Assist. Prof. Dr. ToansakulSantiboon, as my extra editor and reviewer, he has understood my professional and personal commitments throughout this study always encouraged. Without his supporting guidelines, I would never have achieved the completion of this research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

399เกณฑ์การรับรู้ ผล และ psychomotor ผล ในทำนองเดียวกัน มีขอบเขตการใช้ลักษณะสภาพแวดล้อมของห้องเรียนเป็นตัวแปรเกณฑ์ในการศึกษาเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมห้องเรียนโดยเฉพาะ evaluators หลักสูตรและครูไม่ได้ใช้เงื่อนไขสภาพแวดล้อมห้องเรียนเกือบเท่าที่พวกเขาอาจใช้เมื่อประเมินนวัตกรรมทางการศึกษา หลักสูตรใหม่ หรือสอนวิธีการ ในทำนองเดียวกัน แบบสามารถใช้ในการวิจัยที่คล้ายคลึงกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่มีการตรวจสอบปัจจัยต่าง ๆ (เช่น ขนาดของชั้นเรียน ระดับชั้น เรื่อง ชนิดของโรงเรียน) ที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมห้องเรียน บทความนี้ยังระบุหลายสัญญาวิจัยทิศทางใหม่ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้รูปแบบสมดุลสภาพแวดล้อมของห้องเรียนจริง และการ รวมถึงการตรวจสอบความแตกต่างระหว่างครูและนักเรียนรับรู้สภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริง และต้อง บุคคลสภาพแวดล้อมเหมาะกับศึกษาว่านักเรียนบรรลุจุดมุ่งหมายในการรับรู้ และผลดีในสภาพแวดล้อมของพวกเขาต้องการ และความพยายามปฏิบัติ โดยครูผู้สอนต้องใช้ประเมินสิ่งแวดล้อมในการอำนวยความสะดวกในการปรับปรุงในห้องเรียนของพวกเขา หวังดำรงอยู่แบบฟอร์มสั้นประหยัด และเชื่อถือได้ของเครื่องมือของสภาพแวดล้อมห้องเรียนที่อธิบายไว้ในบทความนี้จะช่วยให้นักวิจัยและครูที่ต้องทำตามทิศทางแนวโน้มเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งศึกษาหลักฐานการยืนยันของการศึกษาวิจัยในสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ที่ผ่านมาเช่น ใช้ ICEQ ความสัมพันธ์กับนักเรียนรับรู้ และผลผลได้มีการกำหนดสำหรับตัวอย่างของการเรียนวิชาเคมีมัธยมปลายประมาณ 68 ในนักเรียนมัธยมปลายวิชาชีววิทยา 489 ในออสเตรเลียและนักเรียนเกรด 10 เคมี 1,592 ในสิงคโปร์ (1996[19]) วงศ์และเฟรเซอร์ ใช้เครื่องมือที่เหมาะสำหรับห้องเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เตห์และเฟรเซอร์ (1995b[20]) ก่อตั้งความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมห้องเรียน ผลสัมฤทธิ์ และทัศนคติในตัวอย่างของนักเรียนมัธยมภูมิศาสตร์ 671 ในชั้น 24 ในสิงคโปร์ ใช้ QTI ความสัมพันธ์ระหว่างผลการเรียนและรูปแบบการรับรู้ของครู-นักเรียน โต้ตอบได้รายงานในตัวอย่างของนักเรียนมัธยมปลายวิชาชีววิทยา 489 ในออสเตรเลีย 3,994 วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ศึกษาในออสเตรเลีย 1,512 คณิตศาสตร์นักเรียนในสิงคโปร์ และ 2,256 ลดรองวิทยาศาสตร์ฝันโครงการโรงเรียนในประเทศไทย (Santiboon, 2013[21])ตอบประการแรก อยากขอบคุณนักเรียน 168 ในร้อยเอ็ดวิทยาลัยโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปี 10 ที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาดร. PreedaSammana ผู้ดูแลระบบประถม และนาง WiriyapornMontripoeand เป็นพี่เลี้ยงครู ที่นักเรียนสอบได้สอง ต้องขอบคุณหัวหน้างานของฉัน ดร. TanawatSomtuaand ดร. PanwilaiChomchid หัวหน้าร่วมของฉัน พวกเขาเข้าใจ และไม่เคยผลักดันให้สร้างงานวิจัยของฉันที่มันกำลังงาน สมบูรณ์สุดท้าย ขอบคุณมากที่สุดไปช่วย รศ.ดร. ToansakulSantiboon เป็นผู้ตรวจทาน และแก้ไขเพิ่มเติมของฉันเขาได้เข้าใจฉันผูกพันอาชีพ และส่วนบุคคลทั้งนี้จะสนับสนุนการศึกษา โดยแนวทางการสนับสนุนของเขา ฉันจะไม่ได้บรรลุความสมบูรณ์ของงานวิจัยนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

399
องค์ความรู้อารมณ์และเกณฑ์ผลจิต ในทำนองเดียวกันมีขอบเขตการจ้างลักษณะสภาพแวดล้อมในห้องเรียนเป็นตัวแปรเกณฑ์ในการศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมห้องเรียน.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินผลการเรียนการสอนและครูไม่ได้ใช้เกณฑ์ที่สภาพแวดล้อมในห้องเรียนเกือบเท่าที่พวกเขาอาจจะมีการประเมินนวัตกรรมการศึกษาหลักสูตรใหม่ หรือวิธีการเรียนการสอน ในทำนองเดียวกันรูปแบบสั้นสามารถนำมาใช้ในการวิจัยที่คล้ายคลึงกับการศึกษาก่อนที่มีการตรวจสอบปัจจัยต่างๆ (เช่นขนาดของชั้นเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีเรื่องประเภทของโรงเรียน) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในห้องเรียน บทความนี้ยังระบุอีกหลายที่มีแนวโน้มทิศทางงานวิจัยใหม่ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการใช้งานของทั้งสองรูปแบบที่เกิดขึ้นจริงและที่ต้องการของสภาพแวดล้อมในห้องเรียนเครื่องชั่งน้ำหนัก เหล่านี้รวมถึงการตรวจสอบความแตกต่างระหว่างนักเรียนและการรับรู้ของครูที่เกิดขึ้นจริงและสภาพแวดล้อมที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่คนศึกษาพอดีว่านักเรียนบรรลุการคิดและอารมณ์มีจุดมุ่งหมายที่ดีขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการของพวกเขาและความพยายามในทางปฏิบัติโดยครูจะใช้ประโยชน์จากการประเมินสภาพแวดล้อมในการอำนวยความสะดวกในการปรับปรุง ห้องเรียนของพวกเขา ก็หวังว่าการดำรงอยู่ในรูปแบบที่สั้นประหยัดและเชื่อถือของตราสารสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่อธิบายไว้ในบทความนี้จะช่วยให้นักวิจัยและครูผู้สอนที่ประสงค์จะปฏิบัติตามทิศทางแนวโน้มเหล่านี้.
นี้หลักฐานการศึกษาการยืนยันจากการศึกษาวิจัยที่สี่ทศวรรษที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น; ใช้ ICEQ สมาคมกับนักเรียนผลการคิดและอารมณ์ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อกลุ่มตัวอย่างประมาณ 68 อาวุโสชั้นเรียนวิชาเคมีโรงเรียนมัธยมใน 489 อาวุโสนักเรียนชีววิทยาโรงเรียนมัธยมในประเทศออสเตรเลียและ 1592 ชั้น 10 นักเรียนเคมีในสิงคโปร์ (วงศ์และเฟรเซอร์ 1996 [19 ]) การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับห้องเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ Teh และเฟรเซอร์ (1995b [20]) สมาคมที่จัดตั้งขึ้นระหว่างสภาพแวดล้อมในห้องเรียน, ความสำเร็จและทัศนคติในกลุ่มตัวอย่าง 671 ภูมิศาสตร์นักเรียนโรงเรียนมัธยมใน 24 ชั้นเรียนในสิงคโปร์ ใช้ QTI, ความสัมพันธ์ระหว่างผลงานของนักเรียนและรูปแบบการรับรู้ของการปฏิสัมพันธ์ครูนักเรียนได้รับรายงานสำหรับตัวอย่างของ 489 อาวุโสนักเรียนชีววิทยาโรงเรียนมัธยมในประเทศออสเตรเลีย 3994 วิทยาศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมและคณิตศาสตร์ของนักเรียนในออสเตรเลีย 1,512 โรงเรียนนักเรียนคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษาในสิงคโปร์และ 2256 วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนต้น ฝันนักเรียนโครงการโรงเรียนในประเทศไทย (Santiboon 2013 [21]).
กิตติกรรมประกาศประการแรกผมอยากจะขอขอบคุณ 168 นักเรียนในโรงเรียนวิทยาลัยร้อยเอ็ดในระดับชั้นประถมศึกษาปี 10 ที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาดร. PreedaSammana, บริหารการศึกษา และนาง WiriyapornMontripoeand เป็นครูฝึกครู
ที่ได้รับอนุญาตให้นักเรียนกรอกแบบสอบถาม.
ประการที่สองผมต้องขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาของข้าพเจ้า ดร. ดร. PanwilaiChomchid TanawatSomtuaand; ผู้บังคับบัญชาร่วมของพวกเขาเข้าใจและไม่เคยผลักดันให้เราสร้างขึ้นจากการวิจัยของฉันว่ามันเป็นไปในการทำงานอย่างสมบูรณ์.
สุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันขอบคุณไปให้ความช่วยเหลือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร ToansakulSantiboon, เป็นบรรณาธิการพิเศษของฉันและวิจารณ์เขามีความเข้าใจภาระผูกพันอาชีพและส่วนบุคคลของฉันตลอดการศึกษาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเสมอ โดยไม่ต้องมีแนวทางในการสนับสนุนของเขาฉันจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในความสำเร็จของการวิจัยนี้