Water used for food processing, cle

Water used for food processing, cleaning, and sanitizing activities must be potable. Knowing the water source available to a food-processing plant is must when designing a sanitation program. Water functions as a carrier for detergents and sanitizers. It also carries soil or contaminants away from the surface that has been cleaned and sanitized. Water quality varies greatly, and its ability to function in cleaning is determined by several factors: total alkalinity, calcium hardness, iron, pH, total dissolved solids, and standard plate count. Often problems in plant sanitation programs are direct result of the raw water supply. These sanitation problems can be prevented or minimized through advanced knowledge of the raw water quality. One factor of prime importance is water hardness. Water hardness is responsible for excessive soap and detergent consumption (with hard water, more cleaners will be required as minerals precipitate out with the alkali cleaners), mineral deposits, undesirable films, and preciptates. When hard water (>120 ppm CaCo3) must be used for cleaning, the addition of chelating or sequestrating reagents is necessary.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำที่ใช้สำหรับอาหารแปรรูป ทำความสะอาด และกิจกรรม sanitizing ต้องใช้ รู้แหล่งน้ำมีโรงงานแปรรูปอาหารต้องเมื่อออกแบบโปรแกรมสุขาภิบาล น้ำหน้าที่เป็นผู้ขนส่งสำหรับผงซักฟอกและ sanitizers ก็ยังยึดดินหรือสารปนเปื้อนจากพื้นที่ที่มีความสะอาด และถูกสุขอนามัย คุณภาพน้ำแตกต่างกันอย่างมาก และสามารถทำงานในการทำความสะอาดจะถูกกำหนด โดยปัจจัยหลายประการ: รวมน้ำยา ความแข็งของแคลเซียม เหล็ก pH รวมของแข็งละลาย และการตรวจนับจานมาตรฐาน ปัญหาบ่อยในโปรแกรมสุขาภิบาลโรงงานมีผลโดยตรงของการจัดหาน้ำดิบ ปัญหาสุขาภิบาลเหล่านี้สามารถป้องกันได้ หรือย่อให้เล็กสุดโดยใช้ความรู้ขั้นสูงของคุณภาพน้ำดิบ ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สำคัญคือ น้ำแข็ง รับผิดชอบสบู่มากเกินไปและปริมาณการใช้ผงซักฟอกน้ำแข็ง (น้ำแข็ง น้ำยาเพิ่มเติมจะต้องเป็นแร่ precipitate ออก ด้วยน้ำยาด่าง), แร่เงินฝาก ฟิล์มระวัง และ preciptates เมื่อน้ำแข็ง (> 120 ppm CaCo3) ต้องใช้สำหรับทำความสะอาด การเพิ่ม sequestrating หรือ chelating reagents จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำที่ใช้ในการแปรรูปอาหาร, ทำความสะอาดฆ่าเชื้อและกิจกรรมที่จะต้องดื่ม รู้แหล่งน้ำที่มีให้กับโรงงานแปรรูปอาหารที่ถูกต้องเมื่อมีการออกแบบโปรแกรมสุขาภิบาล ฟังก์ชั่นเป็นผู้ให้บริการน้ำสำหรับผงซักฟอกและ sanitizers นอกจากนี้ยังดำเนินดินหรือสารปนเปื้อนออกจากพื้นผิวที่ไ​​ด้รับการทำความสะอาดและสุขอนามัย คุณภาพน้ำที่แตกต่างกันอย่างมากและความสามารถในการทำงานในการทำความสะอาดจะถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายประการ: ด่างรวมความแข็งแคลเ​​ซียม, เหล็ก, พีเอช, ของแข็งที่ละลายรวมและจำนวนแผ่นมาตรฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในโปรแกรมการสุขาภิบาลโรงงานเป็นผลโดยตรงจากแหล่งน้ำดิบ ปัญหาการสุขาภิบาลเหล่านี้สามารถป้องกันหรือลดลงผ่านความรู้ขั้นสูงที่มีคุณภาพน้ำดิบ ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สำคัญคือความกระด้างของน้ำ ความกระด้างของน้ำเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับสบู่ที่มากเกินไปและการใช้ผงซักฟอก (มีน้ำอย่างหนักทำความสะอาดมากขึ้นจะต้องเป็นแร่ธาตุที่ตกตะกอนออกมาพร้อมกับทำความสะอาดด่าง) แร่ภาพยนตร์ที่ไม่พึงประสงค์และ preciptates เมื่อน้ำอย่างหนัก (> 120 ppm CaCo3) จะต้องนำมาใช้สำหรับการทำความสะอาด, การเพิ่มขึ้นของสารคีเลตหรือ sequestrating เป็นสิ่งที่จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำที่ใช้ในขบวนการผลิตอาหาร ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อกิจกรรมจะต้องดื่ม รู้แหล่งน้ำของโรงงานแปรรูปอาหารเป็นต้องเมื่อออกแบบโปรแกรมสุขาภิบาล น้ำทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการสำหรับผงซักฟอกและ sanitizers . มันยังดําเนินดินหรือสิ่งปนเปื้อนออกไปจากผิวที่ได้รับการทำความสะอาดและสุขอนามัย . คุณภาพน้ำแตกต่างกันมากและความสามารถของฟังก์ชันในการทำความสะอาดจะถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายประการ : ความเป็นด่างทั้งหมด , แคลเซียมความแข็งเหล็ก , pH , ค่าของแข็งทั้งหมด และตรวจนับจุลินทรีย์มาตรฐาน บ่อยครั้งที่ปัญหาในโปรแกรมสุขาภิบาลโรงงาน ผลโดยตรงของแหล่งน้ำดิบ ปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกัน หรือลดความสะอาดผ่านความรู้ขั้นสูงคุณภาพของน้ำดิบปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือความกระด้างน้ำ ความกระด้างเป็นผู้รับผิดชอบและสบู่ผงซักฟอกมากเกินไปการบริโภค ( ด้วยน้ำแข็ง สะอาดมากกว่าจะต้องเป็นแร่ธาตุตกตะกอนด้วยด่างทำความสะอาด ) , เงินฝากแร่ , ภาพยนตร์ , ที่ไม่พึงประสงค์และ preciptates . เมื่อน้ำฮาร์ด ( > 120 ppm CaCO3 ) จะต้องใช้สำหรับทำความสะอาดเพิ่มหรือ sequestrating และสารเคมีที่จำเป็น