Air pollution is a significant prob

Air pollution is a significant problem in the United States that affects human health and well-being, ecosystem health, crops, climate, visibility and man-made materials. The Clean Air Act requires the U.S. Environmental Protection Agency (EPA) to set National Ambient Air Quality Standards for six “criteria pollutants” – that are both common throughout the United States and detrimental to human welfare (US EPA, 2013a). These pollutants are: carbon monoxide (CO), nitrogen dioxide (NO2), ozone (O3), lead (Pb), sulfur dioxide (SO2), and particulate matter (PM), which includes particulate matter less than 10 microns (PM10) and particulate matter less than 2.5 microns (PM2.5) in aerodynamic diameter. Health effects related to air pollution include impacts on pulmonary, cardiac, vascular, and neurological systems (e.g., Pope et al., 2002). In the United States, approximately 130,000 PM2.5-related deaths and 4700 O3-related deaths in 2005 were attributed to air pollution (Fann et al., 2012).

Trees and forests, like air pollution, vary throughout the United States (e.g., percent tree cover, species composition). Trees affect air quality through the direct removal of air pollutants, altering local microclimates and building energy use, and through the emission of volatile organic compounds (VOCs), which can contribute to O3 and PM2.5 formation (e.g., Chameides et al., 1988). However, integrative studies have revealed that trees, particularly low VOC emitting species, can be a viable strategy to help reduce urban O3 levels (e.g., Taha, 1996 and Nowak et al., 2000).

Trees remove gaseous air pollution primarily by uptake via leaf stomata, though some gases are removed by the plant surface. For O3, SO2 and NO2, most of the pollution is removed via leaf stomata. Once inside the leaf, gases diffuse into intercellular spaces and may be absorbed by water films to form acids or react with inner-leaf surfaces. Trees directly affect particulate matter in the atmosphere by intercepting particles, emitting particles (e.g., pollen) and resuspension of particles captured on the plant surface. Some particles can be absorbed into the tree, though most intercepted particles are retained on the plant surface. The intercepted particles often are resuspended to the atmosphere, washed off by rain, or dropped to the ground with leaf and twig fall. During dry periods, particles are constantly intercepted and resuspended, in part, dependent upon wind speed. The accumulation of particles on the leaves can affect photosynthesis (e.g., Darley, 1971) and therefore potentially affect pollution removal by trees. During precipitation, particles can be washed off and either dissolved or transferred to the soil. Consequently, vegetation is only a temporary retention site for many atmospheric particles, where particles are eventually moved back to the atmosphere or moved to the soil. Pollution removal by urban trees in the United States has been estimated at 711,000 tonnes (t) per year (Nowak et al., 2006a).

While various studies have estimated pollution removal by trees (e.g., Nowak et al., 2006a, McDonald et al., 2007 and Tallis et al., 2011), most studies on pollution removal do not directly link the removal with improved human health effects and associated health values. A few studies that have linked removal and health effects include one in London where a 10 × 10 km grid with 25% tree cover was estimated to remove 90.4 t of PM10 annually, which equated to the avoidance of 2 deaths and 2 hospital admissions per year (Tiwary et al., 2009). In addition, Nowak et al. (2013) reported that the total amount of PM2.5 removed annually by trees in 10 U.S. cities in 2010 varied from 4.7 t in Syracuse to 64.5 t in Atlanta. Estimates of the annual monetary value of human health effects associated with PM2.5 removal in these same cities (e.g., changes in mortality, hospital admissions, respiratory symptoms) ranged from $1.1 million in Syracuse to $60.1 million in New York City. Mortality avoided was typically around 1 person yr−1 per city, but was as high as 7.6 people yr−1 in New York City.

Tree cover in the United States is estimated at 34.2 percent and varies from 2.6 percent in North Dakota to 88.9 percent in New Hampshire (Nowak and Greenfield, 2012). As people and trees exist throughout a landscape in varying densities, not only will pollution removal and its effects on local pollution concentrations vary, but so will the associated human health impacts and values. The objectives of this paper are to estimate the amount of air pollution (NO2, O3, PM2.5, SO2) permanently removed by trees and forests within urban and rural areas of the conterminous United States in 2010, and its associated monetary value and impact on human health

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสำคัญในสหรัฐอเมริกาที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์ และสุขภาพ ระบบนิเวศสุขภาพ พืช สภาพอากาศ เห็น และวัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้น พระราชบัญญัติอากาศสะอาดต้องที่สหรัฐอเมริกาด้านสิ่งแวดล้อมสำนักงานปกป้อง (EPA) เพื่อกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศแวดล้อมแห่งชาติสำหรับหก "เกณฑ์สารมลพิษ" – ที่ทั่วสหรัฐอเมริกา และผลดีกับมนุษย์สวัสดิการ (เรา EPA, 2013a) สารมลพิษเหล่านี้คือ: คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2), โอโซน (O3), เป้าหมาย (Pb), ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2), และเรื่องฝุ่น (PM), ที่มีฝุ่นน้อยกว่า 10 microns (PM10) เรื่อง และเรื่องฝุ่นน้อยกว่า 2.5 microns (PM2.5) เส้นผ่านศูนย์กลางอากาศพลศาสตร์ ผลกระทบสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจ หลอดเลือด ระบบประสาท ระบบ (เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาและ al., 2002) ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 130,000 เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5 และรอบ 4700 รอบ/ O3 เกี่ยวข้องเสียชีวิตในปีพ.ศ. 2548 ได้บันทึกอากาศมลพิษ (Fann et al., 2012)ต้นไม้และป่า เช่นมลพิษทางอากาศ แตกต่างทั่วสหรัฐอเมริกา (เช่น ทรีเปอร์เซ็นต์ปก ชนิดองค์ประกอบ) ต้นไม้มีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ ผ่านการกำจัดโดยตรงของสารมลพิษอากาศ ดัดแปลง microclimates ท้องถิ่น และการใช้พลังงาน การสร้าง และปล่อยก๊าซระเหยสารอินทรีย์ (VOCs), ซึ่งสามารถนำไปสู่การก่อตัวของ O3 และ PM2.5 (เช่น Chameides et al., 1988) อย่างไรก็ตาม การศึกษาแบบบูรณาการได้เปิดเผยที่ต้นไม้ ต่ำ VOC เปล่งสปีชีส์โดยเฉพาะ สามารถเป็นกลยุทธ์เพื่อช่วยลดระดับ O3 เมือง (เช่น Taha, 1996 และ Nowak et al., 2000)ต้นไม้เอามลพิษทางอากาศเป็นต้นเป็นหลัก โดยการดูดซับทาง stomata ใบไม้ แม้ว่าก๊าซบางอย่างจะถูกเอาออก โดยพื้นผิวโรงงาน O3, SO2 และ NO2 ที่สุดของมลพิษที่จะถูกเอาออกผ่าน stomata ใบไม้ ครั้งภายในใบไม้ กระจายเข้าไปในช่องว่างที่ intercellular และอาจดูดซึม โดยน้ำฟิล์มให้กรดแบบฟอร์ม หรือทำปฏิกิริยากับพื้นผิวภายในใบ ต้นไม้มีผลต่อเรื่องฝุ่นในบรรยากาศ โดยตรวจอนุภาค เปล่งอนุภาค (เช่น ละอองเกสร) และ resuspension ตะกอนของอนุภาคที่จับบนผิวพืชโดยตรง อนุภาคบางอย่างสามารถถูกดูดซึมเป็นต้น แม้สุดดักอนุภาคที่สะสมบนพื้นผิวพืช อนุภาค intercepted มัก resuspended ชั้นบรรยากาศ ล้างออก โดยฝน หรือลดลงในพื้นดินที่มีใบไม้ร่วงใบและ twig แล้ง อนุภาคตลอดเวลาดัก และ resuspended ในส่วน ความเร็วลมขึ้น สะสมของอนุภาคบนใบไม้สามารถส่งผลกระทบต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง (เช่น Darley, 1971) และดังนั้น อาจมีผลต่อการกำจัดมลพิษ ด้วยต้นไม้ ในช่วงฝน อนุภาคที่สามารถจะล้างออก และอย่างใดอย่างหนึ่งส่วนยุบ หรือโอนย้ายไปดิน ดังนั้น พืชได้เฉพาะไซต์เก็บข้อมูลชั่วคราวสำหรับหลายอนุภาคอากาศ ซึ่งอนุภาคก็ย้ายกลับไปบรรยากาศ หรือย้ายไปยังดิน กำจัดมลพิษ ด้วยต้นไม้เมืองในสหรัฐอเมริกามีการประมาณที่ 711,000 ตัน (t) ต่อปี (Nowak et al., 2006a)ขณะศึกษาต่าง ๆ มีประมาณกำจัดมลพิษ ด้วยต้นไม้ (เช่น al. et Nowak, 2006a แมคโดนัลด์ et al., 2007 และ Tallis et al., 2011), การศึกษาส่วนใหญ่การกำจัดมลพิษไม่ตรงเชื่อมโยงเอาปรับปรุงสุขภาพและค่าสุขภาพที่เกี่ยวข้อง บางการศึกษาที่เชื่อมโยงเอาและสุขภาพผลรวมหนึ่งในลอนดอนเป็น 10 × 10 km เส้นตารางพร้อมครอบคลุมแผนภูมิ 25% ได้ประมาณการเอา 90.4 t ของ PM10 ปี ที่ equated การหลีกเลี่ยงความตาย 2 สมัครเรียนพยาบาล 2 ปี (Tiwary et al., 2009) นอกจากนี้ Nowak et al. (2013) รายงานว่า PM2.5 เอาเป็นรายปี โดยต้นไม้ในเมืองสหรัฐ 10 ในปี 2553 จำนวนแตกต่างกันจาก 4.7 t ในซีราคิวส์ 64.5 t แอตแลนต้า การประเมินมูลค่าเงินรายปีของสุขภาพเกี่ยวข้องกับการกำจัด PM2.5 ในเมืองเดียวกันนี้ (เช่น การเปลี่ยนแปลงการตาย รับสมัครพยาบาล อาการทางเดินหายใจ) ที่อยู่ในจาก 1.1 ล้านดอลลาร์ในซีราคิวส์ช่วงไป 60.1 ล้านดอลลาร์ในนิวยอร์กซิตี้ หลีกเลี่ยงการตายโดยทั่วไปประมาณ 1 yr−1 คนต่อเมือง แต่สูงถึง 7.6 คน yr−1 ในนิวยอร์กฝาครอบต้นไม้ในสหรัฐอเมริกาถูกประเมินไว้ที่ร้อยละ 34.2 และตั้งแต่ 2.6 เปอร์เซ็นต์ในนอร์ทดาโคตาถึง 88.9 เปอร์เซ็นต์ในนิวแฮมป์เชียร์ (Nowak และกรีนฟิลด์ 2012) เป็นคนและต้นไม้มีอยู่ตลอดแนวในความหนาแน่นแตกต่างกัน ไม่เพียงแต่จะกำจัดมลพิษ และผลกระทบของความเข้มข้นของมลพิษในท้องถิ่นแตกต่างกัน ได้ดังนั้น จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์เกี่ยวข้องกับค่า วัตถุประสงค์ของเอกสารนี้จะประเมินจำนวนมลพิษทางอากาศ (NO2, O3, PM2.5, SO2) เอาออกอย่างถาวร โดยต้นไม้ และป่าภายในพื้นที่เขตเมือง และชนบทของ conterminous สหรัฐอเมริกาในปี 2553 และของค่าเงินที่เกี่ยวข้อง และผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสำคัญในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์และความเป็นอยู่สุขภาพระบบนิเวศพืชสภาพภูมิอากาศ, การมองเห็นและวัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้น ทำความสะอาดอากาศต้องมีหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ (EPA) การตั้งแห่งชาติมาตรฐานคุณภาพอากาศโดยรอบหก "มลพิษตามเกณฑ์" - ที่มีทั้งร่วมกันทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและเป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพของมนุษย์ (EPA สหรัฐอเมริกา 2013a) สารมลพิษเหล่านี้คือ: คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) โอโซน (O3) ตะกั่ว (Pb), ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และอนุภาค (PM) ซึ่งรวมถึงอนุภาคน้อยกว่า 10 ไมครอน (PM10) และอนุภาคน้อยกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางพลศาสตร์ ผลกระทบต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศรวมถึงผลกระทบต่อปอดหัวใจหลอดเลือดและระบบทางระบบประสาท (เช่นสมเด็จพระสันตะปาปา et al., 2002) ในสหรัฐอเมริกาประมาณ 130,000 PM2.5 เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตและ 4700 O3 ที่เกี่ยวข้องในปี 2005 ประกอบกับการได้รับมลพิษทางอากาศ (Fann et al., 2012). ต้นไม้และป่าไม้เช่นมลพิษทางอากาศที่แตกต่างกันทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา (เช่น ปกต้นไม้ร้อยละองค์ประกอบชนิด) ต้นไม้มีผลต่อคุณภาพอากาศผ่านโดยตรงของการกำจัดมลพิษทางอากาศเปลี่ยนแปลงพันธ์ท้องถิ่นและการใช้พลังงานอาคารและผ่านการปล่อยสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ซึ่งสามารถนำไปสู่การก่อตัวและ O3 PM2.5 (เช่น Chameides et al., 1988) อย่างไรก็ตามการศึกษาแบบบูรณาการได้เปิดเผยว่าต้นไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์เปล่ง VOC ต่ำอาจจะเป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพที่จะช่วยลดระดับ O3 เมือง (เช่นฮา, ปี 1996 และโนวัก et al., 2000). ต้นไม้เอาก๊าซมลพิษทางอากาศเป็นหลักโดยการดูดซึมผ่านทาง ใบปากใบ แต่ก๊าซบางส่วนจะถูกลบออกจากพื้นผิวของพืช สำหรับ O3, SO2 และ NO2 ส่วนใหญ่ของมลพิษจะถูกลบออกผ่านทางปากใบใบ เมื่อภายในใบก๊าซกระจายเข้าไปในช่องว่างระหว่างเซลล์และอาจถูกดูดซึมโดยภาพยนตร์ในรูปแบบน้ำหรือกรดทำปฏิกิริยากับพื้นผิวด้านในใบ ต้นไม้ส่งผลโดยตรงต่อเรื่องฝุ่นละอองในบรรยากาศโดยดักอนุภาคอนุภาคเปล่ง (เช่นละอองเกสรดอกไม้) และ resuspension ของอนุภาคที่ถูกจับบนพื้นผิวของพืช อนุภาคบางชนิดสามารถดูดซึมเข้าสู่ต้นไม้ แต่อนุภาคลักลอบส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้บนพื้นผิวของพืช อนุภาคดักมักจะ resuspended บรรยากาศที่ล้างออกด้วยน้ำฝนหรือลดลงถึงพื้นดินที่มีใบและกิ่งไม้ใบไม้ร่วง ในช่วงระยะเวลาแห้งอนุภาคจะขัดขวางอย่างต่อเนื่องและ resuspended ในส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความเร็วลม การสะสมของอนุภาคบนใบจะมีผลต่อการสังเคราะห์แสง (เช่น Darley, 1971) และดังนั้นจึงอาจส่งผลกระทบต่อการกำจัดมลพิษด้วยต้นไม้ ในช่วงฝนอนุภาคสามารถล้างออกและทั้งละลายหรือโอนไปยังดิน ดังนั้นพืชเป็นเพียงเว็บไซต์ที่เก็บรักษาชั่วคราวสำหรับบรรยากาศหลายอนุภาคที่อนุภาคจะในที่สุดก็เดินกลับไปที่ชั้นบรรยากาศหรือย้ายไปยังดิน การกำจัดมลพิษด้วยต้นไม้เมืองในประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการประเมินที่ 711,000 ตัน (t) ต่อปี (โนวัก et al., 2006a). ขณะที่การศึกษาต่างๆได้มีการประมาณการการกำจัดมลพิษด้วยต้นไม้ (เช่นโนวัก et al., 2006a, โดนัลด์เอต al., 2007 และลลิส et al., 2011) การศึกษามากที่สุดในการกำจัดมลพิษไม่ได้โดยตรงการเชื่อมโยงการกำจัดที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่ดีขึ้นและค่าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การศึกษาไม่กี่แห่งที่มีการเชื่อมโยงการขนย้ายและผลกระทบต่อสุขภาพรวมถึงหนึ่งในกรุงลอนดอนที่ 10 × 10 กม. ตารางที่มีต้นไม้ปกคลุม 25% เป็นที่คาดกันในการลบ 90.4 ตัน PM10 เป็นประจำทุกปีซึ่งเท่ากับการหลีกเลี่ยงการเสียชีวิต 2 รายและโรงพยาบาล 2 ต่อปี (Tiwary et al., 2009) นอกจากนี้โนวัก et al, (2013) รายงานว่าจำนวนของ PM2.5 ลบออกเป็นประจำทุกปีด้วยต้นไม้ในเมือง 10 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2010 แตกต่างจาก 4.7 ตันในซีราคิวส์ 64.5 ตันในแอตแลนตา ประมาณการของค่าเงินประจำปีของผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการกำจัด PM2.5 ในเมืองเหล่านี้เหมือนกัน (เช่นการเปลี่ยนแปลงในการตายโรงพยาบาลอาการทางเดินหายใจ) ตั้งแต่ $ 1,100,000 ในซีราคิวส์ $ 60,100,000 ในนิวยอร์กซิตี้ หลีกเลี่ยงการเสียชีวิตเป็นปกติประมาณ 1 คนปี-1 ต่อเมือง แต่ก็สูงถึง 7.6 คนปีที่ 1 ในนิวยอร์กซิตี้. ปกต้นไม้ในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 34.2 และแตกต่างกันจากร้อยละ 2.6 ในนอร์ทดาโคตาถึงร้อยละ 88.9 ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ (โนวักและกรีนฟิลด์, 2012) ขณะที่ผู้คนและต้นไม้ที่มีอยู่ทั่วภูมิทัศน์ที่แตกต่างกันในความหนาแน่นที่ไม่เพียง แต่จะกำจัดมลพิษและผลกระทบต่อความเข้มข้นของมลพิษในท้องถิ่นแตกต่างกันไป แต่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องและค่านิยม วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้มีการประมาณการปริมาณของมลพิษทางอากาศ (NO2, O3, PM2.5, SO2) ลบออกอย่างถาวรด้วยต้นไม้และป่าไม้ที่อยู่ในเขตเมืองและชนบทของ conterminous สหรัฐอเมริกาในปี 2010 และค่าเงินที่เกี่ยวข้องและผลกระทบ ต่อสุขภาพของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสำคัญในสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และระบบนิเวศที่ดี , สุขภาพ , พืช , บรรยากาศ , การมองเห็นและวัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้น กฎหมายอากาศบริสุทธิ์ต้องสหรัฐ .หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ( EPA ) เพื่อกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศโดยรอบแห่งชาติ 6 " เกณฑ์มลพิษ " –ที่ทั้งสองร่วมกันทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและเป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพของมนุษย์ ( US EPA , ที่มีมากกว่า ) สารมลพิษเหล่านี้ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ( CO ) ไนโตรเจนไดออกไซด์ ( NO2 ) โอโซน ( O3 ) ตะกั่ว ( Pb ) , ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ( SO2 ) และฝุ่นละออง ( PM )ซึ่งรวมถึงฝุ่นละอองน้อยกว่า 10 ไมครอน ( PM10 ) และฝุ่นละอองน้อยกว่า 2.5 ไมครอน ( pm2.5 ) ในเส้นผ่าศูนย์กลางอากาศพลศาสตร์ ผลกระทบต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ รวมถึงผลกระทบต่อปอด หัวใจ หลอดเลือด และระบบประสาท เช่น สมเด็จพระสันตะปาปา et al . , 2002 ) ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 130 , 000 pm2 .5-related เสียชีวิตและเสียชีวิตในปี 2005 4700 O3 ) เกิดจากมลพิษในอากาศ ( ฟ่าน et al . , 2012 ) .

ต้นไม้และป่า เช่น มลภาวะทางอากาศ แตกต่างกันไปทั่วสหรัฐอเมริกา ( เช่นเปอร์เซ็นต์ครอบคลุมต้นไม้ชนิด ) ต้นไม้ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศโดยตรงผ่านการกำจัดของสารมลพิษทางอากาศ การใช้พลังงานในอาคาร - รู้จักพันธ์ท้องถิ่น ,และผ่านการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่าย ( VOCs ) ซึ่งสามารถสนับสนุนและสร้าง pm2.5 O3 ( เช่น chameides et al . , 1988 ) อย่างไรก็ตาม แบบบูรณาการ มีการศึกษาพบว่าต้นไม้ต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งสารอินทรีย์เปล่งชนิด สามารถเป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการช่วยลดระดับ O3 เมือง ( เช่น Taha , 1996 และโนวัค et al . , 2000 ) .

ต้นไม้เอาก๊าซมลพิษเป็นหลัก โดยการดูดซึมผ่านทางปากใบ แม้ว่าบางก๊าซจะถูกลบออกจากผิวพืช สำหรับ SO2 NO2 O3 และส่วนใหญ่ของมลพิษจะถูกลบออกผ่านทางปากใบ เมื่อเข้าไปในใบ , ก๊าซกระจายออกเป็น intercellular เป็นและอาจจะดูดซึมด้วยน้ำ หรือภาพยนตร์ที่สร้างกรดทำปฏิกิริยากับผิวใบภายในต้นไม้ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อฝุ่นละอองในบรรยากาศ โดยการดักอนุภาคที่ปล่อยอนุภาค ( เช่น pollen ) และ resuspension อนุภาคจับบนผิวพืช บางอนุภาคสามารถดูดซึมเข้าไปในต้น แม้ว่าส่วนใหญ่ดักอนุภาคสะสมบนผิวพืช การดักอนุภาคมักจะ resuspended กับบรรยากาศ ล้างออกโดยฝนหรือลดลงไปที่พื้นดินที่มีใบไม้ และกิ่งไม้ตก ในระหว่างระยะเวลาแห้ง อนุภาคจะถูกดักและ resuspended อย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความเร็วลม การสะสมของอนุภาคบนใบจะมีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง เช่น ดาร์ลีย์ 1971 ) และดังนั้นจึงอาจมีผลต่อการกำจัดมลพิษโดยต้นไม้ ในการตกตะกอนอนุภาคสามารถล้างออก และให้ยุบหรือย้ายไปในดิน จากนั้น พืชเป็นเพียงชั่วคราวในเว็บไซต์ของอนุภาคในบรรยากาศมาก ในที่สุดก็ย้ายกลับไปที่อนุภาคในบรรยากาศ ย้ายดิน การกำจัดมลพิษโดยต้นไม้ในเมืองของสหรัฐอเมริกาได้ประมาณ 711000 ตัน ( ตัน ) ต่อปี ( โนวัค et al . ,

2006a )ในขณะที่การศึกษาต่างๆได้ประมาณมลพิษในต้นไม้ ( เช่น โนวัค et al . , 2006a , McDonald et al . , 2007 และ ทอลลิส et al . , 2011 ) , การศึกษาส่วนใหญ่ในการกำจัดมลพิษไม่เชื่อมโยงโดยตรงกับการเพิ่มประสิทธิภาพของผลกระทบต่อสุขภาพและคุณค่าของสุขภาพที่เกี่ยวข้องไม่กี่การศึกษาที่เชื่อมโยงเอา และผลกระทบต่อสุขภาพรวมถึงหนึ่งในลอนดอนที่ 10 × 10 กิโลเมตร เส้น มีต้นไม้ปกคลุมอยู่ที่ประมาณ 25% เพื่อลบ 90.4 ของ PM10 ปีซึ่ง equated เพื่อหลีกเลี่ยง 2 ตาย 2 โรงพยาบาลรับสมัครต่อปี ( tiwary et al . , 2009 ) นอกจากนี้ โนวัค et al . ( 2013 ) รายงานว่า ยอดรวมของ pm2.5 ออกทุกปีโดยต้นไม้ใน 10 .เมืองในเวลาที่แตกต่างกันจาก 4.7 T ในซีราคิวส์กับ 64.5 t ในแอตแลนตา การประเมินมูลค่าทางการเงินประจำปีของมนุษย์ ผลกระทบต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับ pm2.5 เอาในเมืองเดียวกันนี้ ( การเปลี่ยนแปลง เช่น ในภาวะการตาย , การรับสมัคร , โรงพยาบาลอาการทางเดินหายใจ ) อยู่ระหว่าง $ 1.1 ล้านในซีราคิวส์ $ 60.1 ล้านในนิวยอร์ก อัตราการตายหลีกเลี่ยงคือโดยทั่วไปประมาณ 1 คนต่อปี− 1 เมืองแต่ก็ทำให้คนสูงเท่าปี− 1 ในนครนิวยอร์ก

ต้นไม้ครอบคลุมในสหรัฐอเมริกาประมาณร้อยละ 34.2 และแตกต่างจากร้อยละ 2.6 ในมลรัฐนอร์ทดาโคตาเพื่อ 88.9 เปอร์เซ็นต์ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ( โนวัค และ กรีนฟิลด์ , 2012 ) เป็นคนและต้นไม้อยู่ตลอดภูมิประเทศที่แตกต่างกันในความไม่เพียง แต่จะมีผลต่อความเข้มข้นของมลพิษท้องถิ่นกำจัดมลพิษแตกต่างแต่เพื่อจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และค่า การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินปริมาณมลพิษในอากาศ ( NO2 , O3 pm2.5 , SO2 ) ลบออกอย่างถาวร โดยต้นไม้และป่าไม้ในเขตเมืองและชนบทของ conterminous สหรัฐอเมริกาใน 2010 , และของที่เกี่ยวข้องทางการเงิน คุณค่าและผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์