Purpose: The purpose of the study w

Purpose: The purpose of the study was to explore if cervical cancer information presented in a non-
stigmatizing manner could promote screening in women living in a resource poor environment in
Tshwane, South Africa.
Methods: An exploratory, contextual, quantitative door-to-door survey was conducted. The sampling
method was convenience (n ¼ 105). Structured interviews were used to gather self-reported data. Chi-
square tests were used for secondary data analyses.
Results: The study provided evidence that presenting information on cervical cancer in a non-stigma-
tizing manner based on the theme of self protection promoted cervical screening. The study further
provided evidence that women preferred a cervical cancer message that does not focus on the sexual risk
factors of this disease. More than a third of the sample preferring a message introducing cervical cancer
as a sexually transmitted infection (n ¼ 32) were of the opinion that this message were stigmatizing,
blameful and displayed misunderstanding of their lives.
Conclusions: Cervical cancer screening is indeed not simple. The screening rate not only in South Africa
but many other countries serves as proof. It can therefore not be afforded to add to the barriers by
presenting information on cervical cancer in a way perceived as stigmatizing and blameful. Presenting
information in way that women prefer might not only promote cervical screening, but might motivate
them in such a way that they are screened.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Purpose: The purpose of the study was to explore if cervical cancer information presented in a non-stigmatizing manner could promote screening in women living in a resource poor environment inTshwane, South Africa.Methods: An exploratory, contextual, quantitative door-to-door survey was conducted. The samplingmethod was convenience (n ¼ 105). Structured interviews were used to gather self-reported data. Chi-square tests were used for secondary data analyses.Results: The study provided evidence that presenting information on cervical cancer in a non-stigma-tizing manner based on the theme of self protection promoted cervical screening. The study furtherprovided evidence that women preferred a cervical cancer message that does not focus on the sexual riskfactors of this disease. More than a third of the sample preferring a message introducing cervical canceras a sexually transmitted infection (n ¼ 32) were of the opinion that this message were stigmatizing,blameful and displayed misunderstanding of their lives.Conclusions: Cervical cancer screening is indeed not simple. The screening rate not only in South Africabut many other countries serves as proof. It can therefore not be afforded to add to the barriers bypresenting information on cervical cancer in a way perceived as stigmatizing and blameful. Presentinginformation in way that women prefer might not only promote cervical screening, but might motivateพวกเขาในลักษณะที่พวกเขาจะฉาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือการสำรวจหากข้อมูลมะเร็งปากมดลูกที่นำเสนอในที่ไม่ใช่
ลักษณะ stigmatizing สามารถส่งเสริมการตรวจคัดกรองในสตรีที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นทรัพยากรที่ยากจนใน
ชเวน, แอฟริกาใต้.
วิธีการ: สำรวจบริบทเชิงปริมาณประตู-to- สำรวจประตูได้ดำเนินการ สุ่มตัวอย่าง
วิธีเป็นความสะดวกสบาย (n ¼ 105) การสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้างถูกนำมาใช้ในการรวบรวมข้อมูลที่ตนเองรายงาน Chi-
ตารางการทดสอบที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ.
ผลการศึกษา: การศึกษาให้หลักฐานที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกที่ไม่ stigma-
ลักษณะ tizing ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการป้องกันตัวเองรับการเลื่อนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ศึกษาเพิ่มเติม
ให้หลักฐานว่าผู้หญิงที่ต้องการข้อความมะเร็งปากมดลูกที่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงทางเพศ
ปัจจัยของโรคนี้ มากกว่าหนึ่งในสามของกลุ่มตัวอย่างเลือกข้อความแนะนำมะเร็งปากมดลูก
เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (n ¼ 32) มีความเห็นว่าข้อความนี้เป็น stigmatizing,
ติติงและแสดงความเข้าใจผิดของชีวิตของพวกเขา.
สรุป: การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นจริงไม่ง่าย . อัตราการตรวจคัดกรองไม่เพียง แต่ในแอฟริกาใต้
แต่ประเทศอื่น ๆ ทำหน้าที่เป็นหลักฐาน ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะเพิ่ม afforded อุปสรรคโดย
นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกในทางที่มองว่าเป็น stigmatizing และติติง การนำเสนอ
ข้อมูลในลักษณะที่ผู้หญิงชอบอาจไม่เพียง แต่ส่งเสริมการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แต่อาจจะกระตุ้นให้
พวกเขาในลักษณะที่พวกเขาได้รับการคัดเลือก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อสำรวจว่า มะเร็งปากมดลูก ข้อมูลที่นำเสนอในลักษณะที่ไม่ใช่ -
stigmatizing สามารถส่งเสริมภาพยนตร์ในผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ทรัพยากรใน

tshwane แอฟริกาใต้ วิธีการ : สำรวจ , บริบท , การสำรวจตามปริมาณเป็น ตัวอย่างวิธีสะดวก
( N ¼ 105 )แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างที่ถูกใช้เพื่อรวบรวม self-reported ข้อมูล การทดสอบไค - สแควร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล

รอง ผลการศึกษาให้หลักฐานที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกในไม่คาว -
tizing ลักษณะตามรูปแบบของการป้องกันตนเอง และการคัดกรอง การศึกษา
ให้หลักฐานว่าผู้หญิงที่ต้องการเป็น มะเร็งปากมดลูก ข้อความที่ไม่เน้นทางเพศ
ปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้ มากกว่าหนึ่งในสามของกลุ่มตัวอย่างพอใจข้อความแนะนำ
มะเร็งปากมดลูกที่ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ( N ¼ 32 ) มีความเห็นว่าข้อความนี้ถูก stigmatizing
ติติง , และแสดงความเข้าใจผิดของชีวิตของพวกเขา .
สรุปการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ย่อมไม่ธรรมดา การตรวจคะแนนไม่เพียง แต่ในแอฟริกาใต้
แต่ประเทศอื่น ๆซึ่งพิสูจน์ จึงไม่ได้รับการเพิ่มอุปสรรคโดย
เสนอข้อมูลมะเร็งปากมดลูก วิธีรับรู้เป็น stigmatizing และติติง . การนำเสนอข้อมูลในทางที่พวกผู้หญิงชอบ
อาจไม่เพียง แต่ส่งเสริมการคัดกรองมะเร็ง แต่อาจจูง
พวกเขาในลักษณะที่พวกเขามีมุ้งลวด