The objective of this survey resear

The objective of this survey research were to study and compare motorcycle riders
behavior with independent variables. The studied independent variables were sex, age, marital
status, educational level, monthly income, number of years on motorcycle riding experience,
and history on accident
The samples of this study were 351 motorcycle riders who admitted at Emergency
Department of Lerdsin hospital. The samples were accidental sampling. A self –
administered questionnaire was used to gather data. The data were analyzed for percentage,
mean, standard deviation, t–test, and Analysis of variance or F – test
Results of the study were as follows:
1. The samples had behavior on knowledge about traffic law and an attitude on
safety of motorcycle riding at an average level, while the readiness and practice on motorcycle
riding were at a good level.
2. The samples with different monthly income indicated statistically significant
difference in attitude on safety of motorcycle riding; whereas the others independent variables
had not showed any significant difference.
3. The samples with different marital status and history on accident indicated
statistically significant difference in the readiness on motorcycle riding. There were no
significant difference in others independent variables.
4. The samples with different educational level indicated statistically significant
difference in practice on motorcycle riding; while significant difference were not found in others
independent variables.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยแบบสำรวจนี้ได้เพื่อ ศึกษา และเปรียบเทียบการขับขี่รถจักรยานยนต์ลักษณะการทำงานกับตัวแปรอิสระ ตัวแปรอิสระ studied มีเพศ อายุ สมรสสถานะ ระดับการศึกษา เงินเดือน จำนวนปีประสบการณ์ ขี่รถจักรยานยนต์ประวัติอุบัติเหตุและตัวอย่างของการศึกษานี้ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 351 ที่ยอมรับในสถานการณ์ฉุกเฉินกรมเลิดสินรพ ตัวอย่างถูกสุ่มตัวอย่างโดยไม่ตั้งใจ ตนเองเป็นปกครองแบบสอบถามที่ใช้รวบรวมข้อมูล ข้อมูลถูกวิเคราะห์เปอร์เซ็นต์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-ทดสอบ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนหรือ F-ทดสอบผลของการศึกษามีดังนี้:1. ตัวอย่างมีลักษณะการทำงานความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรและมีทัศนคติในความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ที่ขี่ระดับตัวเฉลี่ย ความพร้อมและปฏิบัติบนรถจักรยานยนต์ขี่ได้ในระดับดี2.ตัวอย่างที่ มีรายได้ต่อเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระบุความแตกต่างของทัศนคติในด้านความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ที่ขี่ ในขณะที่คนตัวแปรอิสระไม่ได้แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ3.ตัวอย่างที่ มีสถานภาพสมรสแตกต่างกันและประวัติอุบัติเหตุที่ระบุความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในความพร้อมในการขี่รถจักรยานยนต์ มีไม่มีอย่างมีนัยสำคัญความแตกต่างในบางตัวแปรอิสระ4.ตัวอย่างมีระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระบุความแตกต่างในทางปฏิบัติบนรถจักรยานยนต์ขี่ ในขณะที่ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญไม่พบในที่อื่นตัวแปรอิสระ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พฤติกรรมที่มีตัวแปรอิสระ
ตัวแปรอิสระที่ศึกษา ได้แก่
เพศอายุการสมรสสถานะระดับการศึกษารายได้ต่อเดือนจำนวนปีประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์และประวัติศาสตร์อุบัติเหตุกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี351 ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เข้ารับการรักษาฉุกเฉินที่กรมโรงพยาบาลเลิดสิน กลุ่มตัวอย่างเป็นสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ ตัวเอง - ยาแบบสอบถามถูกใช้ในการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลค่าร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนหรือ F - test ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้1 กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรและทัศนคติเกี่ยวกับความปลอดภัยของการขี่มอเตอร์ไซด์ในระดับเฉลี่ยในขณะที่การเตรียมความพร้อมและการปฏิบัติในรถจักรยานยนต์ขี่อยู่ในระดับที่ดี. 2 กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ต่อเดือนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญชี้ให้เห็นความแตกต่างในทัศนคติเกี่ยวกับความปลอดภัยของการขี่รถจักรยานยนต์; ในขณะที่คนอื่น ๆ ตัวแปรอิสระไม่ได้แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ. 3 กลุ่มตัวอย่างที่มีสถานภาพสมรสแตกต่างกันและประวัติศาสตร์อุบัติเหตุชี้ให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการเตรียมความพร้อมในการขี่รถจักรยานยนต์ ไม่มีมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในคนอื่น ๆ ตัวแปรอิสระ. 4 กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญชี้ให้เห็นความแตกต่างในทางปฏิบัติในการขี่รถจักรยานยนต์; ในขณะที่ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญไม่พบในคนอื่น ๆตัวแปรอิสระ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กับตัวแปรอิสระ การศึกษาตัวแปรอิสระ ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ
สถานภาพ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือน ระยะเวลาในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ประสบการณ์ และประวัติศาสตร์ในอุบัติเหตุ

จำนวน 351 ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เข้ารับการรักษาในภาวะฉุกเฉิน
แผนกของโรงพยาบาล โดยบังเอิญ ตนเอง–
แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลหาค่าร้อยละค่า
ค่าเฉลี่ย , ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน , การทดสอบ - t และการวิเคราะห์ความแปรปรวน การทดสอบหรือ F -
ผลการศึกษามีดังนี้ :
1 กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรม ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรและทัศนคติ
ความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ในระดับปานกลาง ขณะที่ความพร้อม และฝึกขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในระดับดี
.
2 ตัวอย่างที่มีรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
มีทัศนคติเกี่ยวกับความปลอดภัยของการขับขี่รถจักรยานยนต์ ขณะที่คนอื่น ๆตัวแปรอิสระไม่ได้มีความแตกต่างใด ๆ
.
3กลุ่มตัวอย่างที่มีสถานภาพสมรสแตกต่างกัน และประวัติอุบัติเหตุพบ
ความแตกต่างในความพร้อมในการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ ไม่มีความแตกต่างกันในตัวแปรอิสระอื่น ๆ
.
4 กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ปฏิบัติในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ;ในขณะที่ไม่พบความแตกต่างในตัวแปรอิสระอื่น ๆ
.